โฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ ปลื้มผลสำรวจนักธุรกิจต่างชาติ พบมีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น นักธุรกิจต่างประเทศในไทยยังสนับสนุนการเปิดประเทศ 1 พ.ย. นี้ เชื่อ มีนักท่องเที่ยว/นักธุรกิจรอเดินทางเข้าไทยจำนวนมาก
วันนี้ (28 ต.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ เผยภายหลัง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประกาศมาตรการเปิดประเทศแบบปลอดภัย พร้อมรับผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงต่ำ 45 ประเทศ และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เริ่ม 1 พ.ย. นี้ ก็ได้การตอบรับจากภาคเอกชนไทยและนักธุรกิจชาวต่างชาติในไทยเป็นอย่างดี
โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักธุรกิจต่างชาติในไทย ไตรมาสที่ 3/2564 จากหอการค้าต่างประเทศในประเทศไทย 41 ประเทศ สมาชิกรวม 7,810 สถานประกอบการ พบว่า นักธุรกิจต่างชาติส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทยและความเชื่อมั่นต่อธุรกิจดีขึ้น โดยดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นต่อธุรกิจ เพิ่มขึ้นเป็น 44.9 และ 38.4 จากเดิมอยู่ที่ 29.8 และ 26.8 ตามลำดับ ในไตรมาส 2/64 ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติ เพิ่มเป็น 41.7 จาก 27.7 เป็นค่าดัชนีสูงสุดใน 4 รอบการสำรวจ นับจากไตรมาส 4/2563 นอกจากนี้ ร้อยละ 50 ยังเชื่อว่า ไทยผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วจากผลกระทบโควิด-19 และเชื่อว่า เศรษฐกิจและธุรกิจผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และเริ่มฟื้นตัวจากไตรมาส 4 ปีนี้ ด้วย ทั้งนี้ นักธุรกิจต่างชาติในไทยยังสนับสนุนการเปิดประเทศของไทย เพราะทำให้การเดินทางเข้าไทยและท่องเที่ยวในไทยง่ายและสะดวกเพิ่มมากขึ้น เชื่อว่า มีนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจรอเดินทางเข้าประเทศไทยจำนวนมากเช่นกัน ซึ่งไทยเองยังเป็นฐานการลงทุนที่น่าสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนเศรษฐกิจไทยในเดือนกันยายน 2564 มีสัญญาณปรับตัวดีขึ้น เช่นเดียวกับการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น การส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ภาคการท่องเที่ยวในเดือนกันยายน 2564 มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาสู่ประเทศไทยรวมทั้งสิ้น 2,198,337 คน ทั้งในรูปแบบการท่องเที่ยวโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยว (Tourist Visa) รวมถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวสมาชิกสิทธิพิเศษ (Thailand Privilege Card) ด้วย
“การเปิดประเทศของไทย 1 พ.ย. ยังช่วยเป็แรงหนุนให้เศรษฐกิจไนช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กลับมาคึกคัก ทั้งการบริโภคการผลิต รวมทั้งการเดินทางภายในประเทศของคนไทยเอง มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่รัฐบาลได้วางเอาไว้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือ ทุกคนต้องร่วมกันสร้างความมั่นใจแก่ชาวต่างชาติที่จะเดินทางมาท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจในประเทศไทย ด้วยมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างรัดกุม ขณะเดียวกัน ก็จะมีการระดมฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรเป้าหมายภายในปี 2564 รวมถึงรัฐบาลยังจะมีมาตรการใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย ส่งเสริมการลงทุนภาครัฐและเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้ง New S-curve และ S-curve ล่าสุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง คาดการณ์ GDP ของไทยในปีนี้จะโตได้ไม่ต่ำกว่า 1% ด้วย” นายธนกร กล่าว