พท.บุกขอนแก่น ประชุมใหญ่ ล้างไพ่กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ “หมอชลน่าน” ชี้รีแบรนด์เชื่อมอดีตสู่อนาคต “สมพงษ์” ลาออกส่งไม้ต่อคนรุ่นใหม่ เปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” ที่ปรึกษาการมีส่วนร่วมฯ ย้อนอดีตสัมผัสการเมืองแต่เด็ก อ้อนแทนพ่ออยากกลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง ยังไม่คิดเรื่องแคนดิเดตนายกฯ “สมพงษ์” ยันไม่ถูกกดดันให้ลาออก ฉะ “นายกฯเมืองเหนือ” ปล่อยข่าวแซะ โวยังฟิตลุยการเมืองต่อ
วันนี้ (28 ต.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น พรรคเพื่อไทย จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ภายใต้แคมเปญ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค และเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชุดใหม่ มีแกนนำพรรค ส.ส. เดินทางมาร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง รวมถึงมีสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ภายในงานมีการจัดแสดงผลงานของพรรคตั้งแต่สมัย ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย ในยุคของ นายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ให้สมาชิกพรรคได้รับชม พร้อมทั้งมีการแจกเสื้อยืดที่มีข้อความว่า “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” และเสื้อแจ๊กเก็ต สีแดง ข้อความเพื่อไทยสีขาว ขณะที่ภายในงานก่อนการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคมีการเสวนาในหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน” มีแกนนำพรรค และคนรุ่นใหม่ของพรรคสลับขึ้นมานำเสนอแนวคิดที่พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการในอนาคต ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เทคโนโลยี การเกษตร การศึกษา
โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ว่า การปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้ เพื่อรองรับการเลือกตั้ง เพราะปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลง พรรคเพื่อไทยจึงต้องปรับตัวตาม โซเชียลมีเดียมีการเปลี่ยนแปลงการสื่อสารทางการเมืองต้องเปลี่ยนแปลงตาม ถ้าเราไม่เปลี่ยนแปลงจะสื่อสารทางการเมืองลำบาก ตอนนี้เราต้องเอาพลังคนรุ่นใหม่มาสร้างพลังแห่งอนาคตโดยการปรับโครงสร้างจะมีทั้งเรื่องของแบรนด์ เรื่องภาพลักษณ์ การทำงานจะต้องนำไปสู่การรีแบรนด์ของพรรค โดยจะเชื่อมโยงกับพรรคไทยรักไทยเดิม ทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์ ตัวผู้ก่อตั้งพรรคที่เป็นอดีตนายกฯ อดีตหัวหน้าพรรค จนมาสู่พรรคเพื่อไทยในปัจจุบันเพื่อนำไปสู่อนาคต จะนำประสบการณ์ที่ดีมาพัฒนา และประสบการณ์ที่ล้มเหลวมาเป็นบทเรียน จะเห็นว่าเราปรับเปลี่ยนทั้งสี รูปแบบตัวหนังสือในการสื่อสารเพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในภาวะเผด็จการซ่อนรูป ประชาชนถูกกดพลังสมองด้วยโครงสร้างทางรัฐธรรมนูญ เราต้องเข้ามาระเบิดพลังสมองของคนรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาประเทศต่อไป เราต้องทำให้พลังความคิดของคนรุ่นใหม่ให้เป็นพลังเพื่ออนาคตและให้มีสิทธิเสรีภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยวันนี้ มีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นแฟนคลับของกลุ่ม ส.ส.รุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย จำนวนมาก เดินทางมาจากหลายจังหวัด เพื่อร่วมติดตามการประชุมพรรคเพื่อให้กำลังใจ ส.ส. ที่ตนเองชื่นชอบ โดยเฉพาะ น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และ น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด บางคนถึงขั้นไปรอรับกันที่สนามบินตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. โดยมีการนำช่อดอกไม้ ขนม ของฝากประจำจังหวัดของตัวเองมามอบให้ และขอถ่ายรูปกับ ส.ส. ทำให้บรรยากาศการประชุมพรรคเป็นไปอย่างคึกคัก เป็นที่สนใจของ ส.ส.ด้วยกันเอง อย่างไรก็ตาม ภายในการประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทยวันนี้ ช่วงหนึ่งมีการเดินแบบชุดผ้าลายครามของกลุ่ม ส.ส.รุ่นใหม่พรรคเพื่อไทย บรรดาแฟนคลับต่างจับจองพื้นที่หน้าจอโทรทัศน์ ที่พรรคจัดไว้ภายนอกห้องประชุม เพื่อติดตาม ส.ส.ที่ตนเองชื่นชอบ เมื่อ ส.ส. ที่ชื่นชอบขึ้นบนเวที ก็จะส่งเสียงกรี๊ดให้กำลังใจอย่างคึกคัก
ในช่วงท้ายของการเสวนาหัวข้อ “พรุ่งนี้ เพื่อไทย” นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้กล่าวตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นเวลาของคนรุ่นใหม่เข้ามาสานต่อกิจกรรมต่างๆ เพื่อร่วมมือร่วมใจกับประชาชนช่วยสร้างวันพรุ่งนี้ให้เป็นอนาคตและความหวังของคนไทยทุกคน ตนตั้งใจตั้งแต่แรกว่าเมื่ออายุครบ 80 ปี คงต้องละมือทางการเมือง แต่ยังติดที่จังหวะเวลานี่คือช่วงโอกาสและจังหวะพอดี ตนถือโอกาสในวันนี้ ลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม้เข้ามาทำหน้าที่ต่อ ซึ่งตนและคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์จะทำหน้าที่คณะกรรมการสนับสนุนยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองของพรรค ขอขอบคุณกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคที่ให้ความร่วมมือร่วมใจกันทำงาน และนำพรรคเดินมาถึงจุดนี้บนเส้นทางประชาธิปไตยที่ วันนี้ภายใต้การบริหารของหัวหน้าพรรคคนใหม่ และที่ปรึกษาคณะทำงานคนรุ่นใหม่ เชื่อมั่นว่า พรรคเพื่อไทยจะเป็นความหวังที่เป็นจริง นำอนาคตที่สดใส นำความเชื่อมั่นจากประชาชนมาสู่ประเทศไทย
จากนั้น นายสมพงษ์ ได้เปิดตัว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารับตำแหน่งเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม โดย น.ส.แพทองธาร ได้ขึ้นกล่าวบนเวที ว่า ขอขอบพระคุณหัวหน้าและผู้บริหารพรรคที่ได้แต่งตั้งตนมารับหน้าที่ดังกล่าว เป็นหน้าที่ที่ต้องเชื่อมต่อระหว่างรุ่นสู่รุ่น ให้แต่ละรุ่นเข้าใจกันมากขึ้น ทั้งเรื่องความคิด วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมมี มนุษย์ที่อยู่ร่วมกันจะต้องมีความเข้าใจพื้นฐานทางความคิดร่วมกัน ตนเห็นว่าพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนของประชาชน จะต้องเป็นตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ทุกวัย เทคโนโลยีผ่านไปอย่างมากมาย ขณะที่เรากำลังพูดกันนักวิทยาศาสตร์ทั่วทุกมุมโลกกำลังคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อประโยชน์ของโลก แต่ตนมองเห็นว่าคนไทยพลาดกระบวนการพัฒนาเหล่านั้นตนคิดว่าเด็กรุ่นใหม่ยังคิดว่าพวกเขาพลาดขบวนเทคโนโลยีใหม่ๆที่ก้าวเข้ามา ขณะที่เทคโนโลยีก้าวผ่านไปเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาไม่มีโอกาสคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า ตนเองค่อนข้างโชคดีที่ได้ใกล้ชิดคุณพ่อ ช่วงที่ตนเกิด คุณพ่อประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานแล้ว เมื่อท่านอยู่ในต่างประเทศตนก็มีโอกาสได้ไปเยี่ยมท่านเกือบทุกเดือน ไปทุกครั้งได้ไปคุยกับพ่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น คุณพ่อเป็นคนสนใจเรื่องเทคโนโลยีตนก็ได้รับรู้ความ รู้สึกของคุณพ่อซึ่งเป็นยุคเบบี้บูมเมอร์ ท่านก็จะมีความรู้ใหม่ๆ ให้ตนเสมอ ตนเสียดายที่คนไทยยังไม่มีโอกาสที่จะคว้าเทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งตนบอกกับตัวเองว่าความรู้และโอกาสที่มีตนอยากเข้ามามีส่วนร่วมในพรรคเพื่อไทย เพื่อผลักดันให้ทุกคนได้มีโอกาส ทั้งนี้ ตนสัมผัสการเมืองตอนอายุแปดขวบ คุณพ่อเป็น รมว.ต่างประเทศ ตอนตนเก้าขวบคุณพ่อเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม มีโอกาสพบปะประชาชน อีกสองสามปีต่อมาคุณพ่อตั้งพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นชื่อที่อยู่ในใจเสมอ รู้สึกผูกพันกับชื่อนี้ คุณพ่อพาไปหาเสียตามพื้นที่ต่างๆ ตลอดเวลาที่ติดตามคุณพ่อ สงสัยว่าทำไมคุณพ่อทุ่มเทโดยไม่เหน็ดเหนื่อยหรือท้อแท้ จนวันนี้ตนเข้าใจแล้วว่าเมื่อท่านไปพบประชาชน แบ่งเบาความทุกข์ประชาชน นั่นคือพลังใจที่แท้จริง ท่านได้ช่วยให้คนไม่มีโอกาสให้มีโอกาสเพิ่มขึ้นในชีวิตดีกว่าที่เป็นอยู่ นั้นคือพลังใจของคุณพ่อ
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ตนอยากให้คนรุ่นใหม่ได้รับโอกาส ภายใต้มิติการเมืองแบบนี้ทำให้พวกเขามองไม่เห็นอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขา ตนคิดว่าพรรคเพื่อไทยอาจมีโอกาสได้เป็นพรรคการเมืองหลักและเข้ามาแก้วิกฤตต่างๆ ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง สังคม และวิกฤตโอกาสของคนรุ่นใหม่ ตนจึงตอบรับเป็นที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม ตนตั้งใจอยากใช้ประสบการณ์ของคนเจนวายเข้ามาร่วมกับพรรคเพื่อไทย เพื่อพัฒนาโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้มีความหวัง ความฝัน และทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง ตนอยากปฏิรูป 3 เรื่องหลัก คือ 1. ปฏิรูปการศึกษา เพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยมาก 2. ปฏิรูปเทคโนโลยีต้องเข้าถึงเทคโนโลยีให้มากกว่านี้ และ 3. เราจะต้องส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์อย่างจริงจังเหมือนเกาหลีบราซิล ญี่ปุ่น โดยเฉพาะเสรีภาพทางความคิด ดังนั้น ผู้นำของประเทศจะต้องมีหัวใจประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
“ขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย คิดว่า แนวคิดเหล่านี้จะทำให้พรรคเพื่อไทยกลายเป็นพรรคของประชาชนอย่างแท้จริง ทุกรุ่น ทุกวัย ทุกฐานะทางสังคมและทุกภาคส่วน ไม่ว่าคนไทยจะคิดต่างกันอย่างไร เราล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน และอยากเห็นประเทศเจริญก้าวหน้าต่อไป ขอขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน ดิฉันจะตั้งใจทำงานเต็มที่ในฐานะที่ปรึกษา แม้จะไม่ใช่นักการเมือง แต่ขอมุ่งมั่นทำงานด้วยความตั้งใจจริงในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ในฐานะลูกของคุณพ่อที่ไม่เคยลืมบุญคุณแผ่นดินไทย ไม่เคยลืมพี่น้องคนไทยที่ไม่เคยลืมท่าน และคุณพ่อหวังว่าจะได้กลับมากราบแผ่นดินไทยอีกครั้ง และกราบผู้มีพระคุณ” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ก่อนที่ น.ส.แพทองธาร จะให้สัมภาษณ์ กับสื่อมวลชนถึงบทบาทในการทำงานในพรรคเป็นครั้งแรก ว่า ตนตั้งใจเข้ามาปกิรูป 3 เรื่อง คือ การศึกษา เทคโนโลยี และการส่งเสริมซอฟต์เพาเวอร์ ตนมีไอเดียที่ได้เสนอให้พรรคได้นำไปทำงานต่อแบบเป็นกลุ่ม เป็นทีม อย่างไรก็ตาม การเข้ามาทำงานในพรรคครั้งนี้ ตนไม่ได้เข้ามาเป็นนักการเมือง และตนไม่ใช่นักการเมือง เป็นเพียงที่ปรึกษาพรรค ซึ่งตนจะมาทำงานด้วยความตั้งใจอย่างเต็มที่ด้วยหัวใจที่อยากผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสที่มากขึ้นกว่านี้ เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะทำงานการเมืองต่อหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า อันนั้นเป็นเรื่องของอนาคต วันนี้ขอเป็นที่ปรึกษาพรรค และจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด นี่คือก้าวแรกที่ได้เป็นที่ปรึกษายังตื่นเต้น และกลัวทำได้ไม่ดี จึงขอเอาตรงนี้ให้ดีก่อน แล้วอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง เมื่อถามว่า วันนี้การมาเปิดตัวบนเวทีเหมือนเป็นตัวแทนคุณพ่อ มีแนวทางที่จะสานต่องานการเมืองอย่างไร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ความจริงไม่ต้องให้ตนมาพูดตรงนี้ ก็แยกไม่ออกภาพตนกับคุณพ่อ เพราะตนเป็นลูกคุณพ่ออยู่แล้ว ไปไหนก็เป็นลูกของคุณพ่อซึ่งคือความภูมิใจ และไม่ได้อยากเปลี่ยนอยู่แล้ว เมื่อถามว่า การตัดสินใจในครั้งนี้คิดนานไหม และได้คุยกับคุณพ่ออย่างไรบ้าง
น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่า จริงๆ เรื่องของนวัฒกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เป็นเรื่องที่เราคุยกันอยู่แล้วในครอบครัว เราอยากส่งเสริมและเน้นตรงนี้จริงๆ ซึ่งเราเองไม่ได้ถนัดการเมือง ดังนั้น การเข้ามาตรงนี้โดยไม่ใช่นักการเมือง ตนคิดว่า รู้สึกสบายใจมากกว่า เมื่อถามย้ำว่าถ้าในอนาคตถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคคิดว่าตนเองจะสามารถทำตรงนั้นได้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ยังค่ะ คิดว่าขอทำตรงนี้เพื่อดูตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร และเสียงตอบรับของคนในพรรคด้วย ไปไหนเราก็ทำงานร่วมกันเป็นทีม”
เมื่อถามย้ำอีกว่า แปลว่าถ้าเสียงตอบรับในพรรคยินดี ก็แปลว่าสามารถทำได้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เดี๋ยวตอนนั้นให้พี่มาสัมภาษณ์อีกทีหนึ่ง” เมื่อถามว่า คิดอย่างไรถ้าแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยเป็นน.ส.แพทองธาร น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้เพิ่งมาใหม่ตรงนี้ อย่างไรก็ขอกำลังใจด้วย ถ้าทำงานผิดพลาดตรงไหนอย่างไรก็ขอให้แนะนำกันด้วย ทั้งนี้ คุณพ่อ คุณแม่ พี่ๆ สามี ลูก ให้กำลังใจเสมอ เราขอตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตรงนี้ให้ดีที่สุด
จากนั้น นายสมพงษ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตนตัดสินใจมานานแล้วเพียงแต่ยังไม่มีโอกาส ยืนยันว่า การลาออกครั้งนี้ไม่มีการกดดันจากใคร ตนตั้งใจมานานและได้บอกคณะกรรมการบริหารพรรคบางคนไว้แล้ว เพราะที่ผ่านมาแผนงานและโครงสร้างของพรรคที่กำลังวางยังไม่เสร็จจึงปล่อยให้ยาวมา หลังจากนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคทำงานให้กับพรรค สิ่งไหนที่เราทำได้ก็ทำ เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคที่ออกมาก่อนหน้านี้ มองว่าเป็นการกดดันหรือไม่
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนเตรียมการลาออกมาระยะหนึ่งแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีจังหวะเวลาที่เหมาะสม ทราบเป็นการภายในไม่กี่คนเพราะไม่ต้องการให้กระทบการจัดการประชุมใหญ่ แต่กลับมีข่าวหลุดออกมาก่อนทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่ามีการกดดันให้ตนลาออก ซึ่งไม่เป็นความจริง เมื่อถามว่า จะมีการฝากงานให้กับหัวหน้าพรรคคนใหม่หรือไม่
นายสมพงษ์ กล่าวว่า ถ้าเขามาปรึกษาเราก็ให้คำปรึกษา เมื่อเขาปรึกษาเราก็แนะนำได้ ส่วนงานของพรรคเพื่อไทยนั้น จะไม่มีกระทบทั้งในและนอกสภาฯ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ของพรรค เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งตนเป็นส่วนหนึ่งในการร่างนโยบายวางแนวทาง ส่วนกรณีที่มีการหยิบยกเหตุผลเรื่องอายุ และสุขภาพส่วนตัวมาประกอบการลาออกนั้นด้วยวัยของตนถือเป็นคนรุ่นเก่า ต้องการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่คนรุ่นตนควรถอยออกมาในลักษณะของที่ปรึกษาเท่านั้น แต่ยืนยันว่า ยังมีความพร้อมที่จะทำงานการเมืองต่อไป เพราะสุขภาพก็ไม่ถือเป็นปัญหา เพราะเป็นนักกีฬาเก่า เคยนักรักบี้มาก่อน และทุกวันนี้ก็ยังเตะลูกรักบี้ลอยอยู่