ที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา รับทราบวาระประชุมสำคัญ 1 พ.ย. ให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ถูกเสนอชื่อเป็น กสม. ติดตามความคืบหน้าแผนปฏิรูปประเทศ-ยุทธศาสตร์ชาติ เห็นชอบคงมาตรการป้องกันโควิด-19 และผ่อนปรนบางมาตรการ พร้อมเห็นชอบร่างกำหนดการประชุมวาระการติดตามการปฏิรูปประเทศและยุทธศาสตร์ชาติ ในสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2
วันนี้ (27 ต.ค.) นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญได้เห็นชอบให้เผยแพร่ผลการประชุม คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) ครั้งที่ 23/2564 เป็นพิเศษ วันพุธที่ 27 ตุลาคม 2564 ซึ่งมีศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญ กิจการวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยมีเรื่องพิจารณาที่น่าสนใจ ดังนี้
1. ระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภา ในเรื่องที่สำคัญ
มติที่ประชุม
- ที่ประชุมรับทราบระเบียบวาระการประชุมวุฒิสภาในเรื่องที่สำคัญ ดังนี้
ครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2564 มีระเบียบวาระที่สำคัญ คือ
1. ให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นกรณีที่คณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติดำเนินการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (เพิ่มเติม) ตามมาตรา 8(1) โดยคณะกรรมการสรรหาได้เสนอชื่อ นายวิวัฒน์ ตามี่ บุคคลผู้มีประสบการณ์ในการทำงานด้านสิทธิมนุษยชนต่อเนื่องกัน ตามมาตรา 8(1) ต่อวุฒิสภา เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ จากนั้น ที่ประชุมวุฒิสภาเมื่อวันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม 2564 ได้มีมติตั้ง คณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะกรรมาธิการได้ดำเนินการตรวจสอบประวัติฯ เสร็จสิ้นแล้ว จึงเสนอรายงานต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณาต่อไป
2. ความคืบหน้าในการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ
2. มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของวุฒิสภา
ในคราวประชุมคณะกรรมการกำหนดแนวทางการประชุมวุฒิสภาและคณะกรรมาธิการเพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ครั้งที่ 9/2564 วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2564 เห็นควรคงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของวุฒิสภาที่เคยกำหนดไว้เดิม และผ่อนปรนบางมาตรการให้สอดคล้องกับคำสั่ง ศบค. ดังนี้
1. การประชุมวุฒิสภา คณะกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการ และคณะกรรมการต่างๆ 1) การประชุมวุฒิสภา ควรปฏิบัติมาตรการต่างๆ อย่างเคร่งครัด ขอความร่วมมือสมาชิกวุฒิสภา ให้ใช้เวลาการอภิปรายอย่างกระชับท่านละ 5-10 นาที อนุญาตให้สมาชิกวุฒิสภาอภิปรายโดยไม่สวมใส่หน้ากากอนามัย ณ โพเดียมที่มีฉากกั้นเท่านั้น กรณีสมาชิกวุฒิสภาอภิปราย ณ ที่นั่งของตนเอง ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา ขอความร่วมมือสมาชิกวุฒิสภาสวมใส่หน้ากากอนามัยสองชั้น
2) เห็นควรให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภานำชุดตรวจ ATK (Antigen Test Kits) มาให้บริการ ตรวจคัดกรองสมาชิกวุฒิสภาที่ประสงค์จะตรวจก่อนเข้าร่วมประชุมด้วย และควรจัดให้มีการตรวจผู้ปฏิบัติงานของสมาชิกวุฒิสภา บุคลากรของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับการประชุมวุฒิสภา ที่มีความเสี่ยงสูง
2. มาตรการเพื่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เชิงรุก 1) ขอความร่วมมือสมาชิกวุฒิสภางดนำผู้ติดตามเข้าพื้นที่บริเวณหน้าห้องประชุมวุฒิสภา ชั้น 2 ส่วนพื้นที่ห้องทำงานประธานคณะกรรมาธิการและห้องทำงานสมาชิกวุฒิสภา ชั้น 5-6 ให้มีผู้ติดตามได้ไม่เกิน 2 คน 2) การจัดเลี้ยงอาหาร และอาหารว่าง ให้จัดเป็นอาหารกล่อง และจัดให้มีอาหารร้องปรุงสุกสด ใหม่ จัดให้มีที่สำหรับรับประทานอาหารภายในห้องอาหารสมาชิกวุฒิสภา โดยจัดที่นั่งไม่เกิน 50 ที่นั่ง 3) งดการให้บริการอาหารว่าง และน้ำชา กาแฟ บริเวณหน้าห้องประชุมวุฒิสภา โดยจะให้บริการ น้ำดื่มชนิดขวดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
3. ร่างกำหนดการประชุมวุฒิสภา ระเบียบวาระการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ และ การจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ (คณะกรรมาธิการ ตสร. เป็นผู้เสนอ)
มติที่ประชุม
1. เห็นชอบร่างกำหนดการประชุมวุฒิสภา ระเบียบวาระการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูป ประเทศและการจัดทำและดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติ ในการประชุมวุฒิสภา (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 - วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ตามที่คณะกรรมาธิการ ตสร. เสนอ
2. รับทราบกรณีที่ประธานวุฒิสภาอนุญาตให้ขยายเวลาการพิจารณาระเบียบวาระการประชุมเรื่องนี้ จาก 2 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมง
3. รับทราบความคืบหน้าในการจัดทำรายงานของคณะกรรมาธิการ ตสร. “สรุปผลการศึกษา วิเคราะห์รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศ ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญ (เดือนเมษายน-มิถุนายน 2564)”
