รองนายกฯรายงานวงประชุมครม. เผย กกต.ส่งร่างกฎหมายลูกเลือกตั้งให้ครม.เคาะพ.ย.นี้ ขั้นตอนเสร็จสมบูรณ์อย่างช้าก.ค.65 นายกฯ สั่งหาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งต่างชาติ "จุติ" รับห่วงจุดประเด็นชุมนุมต้าน
วันนี้ (19ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมครม. โดยบรรยากาศการการประชุมเป็นไปด้วยดีนายกรัฐมนตรีและพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีท่าทีผ่อนคลายและพูดแซวทักทายกันเหมือนเช่นทุกครั้ง โดยนายกรัฐมนตรีได้ให้รองนายกฯรายงานภารกิจการลงพื้นที่ต่างจังหวัดของแต่ละคนในที่ประชุมครม.
นอกจากนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรียังรายงานกรอบเวลาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ …) ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า ระหว่างนี้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้ยกร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการเลือกตั้ง
โดยเมื่อแล้วเสร็จจะนำส่งมายังครม.เพื่อพิจารณาประมาณเดือนพ.ย. 64 จากนั้นครม.จะต้องส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ ก่อนที่จะส่งกลับมายังครม.อีกครั้ง จากนั้นนำเข้าที่ประชุมสภาฯเพื่อพิจารณา เมื่อสภาฯพิจารณาหากสภาฯเห็นว่าต่องมีการแก้ไขก็จะต้องส่งกลับมาที่ครม.อีกครั้ง โดยครม.จะต้องส่งให้กกต.ปรับแก้ไข ทั้งนี้ ขั้นตอนเร็วที่สุดประมาณเดือนมี.ค.2565 อย่างช้าสุดจะเสร็จสิ้นในเดือนก.ค.2565 ดังนั้นจึงต้องทำความเข้าใจให้เข้าใจตรงกัน เพราะเกรงว่าสาธารณชนจะมองว่าทำไมขั้นตอนเสร็จช้า
นอกจากนี้ ในวาระสถานการณ์ โควิด-19 นายกฯยังได้สั่งการให้สาธารณสุขเตรียมรับการเปิดประเทศเพื่อรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย.และเตรียมรับการเปิดสถานบันเทิงในวันที่ 1 ธ.ค. รวมถึงในช่วงหนึ่งที่ประชุมครม.พูดคุยถึงปัญหาเรื่องพลังงานและราคาสินค้า โดยนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)กล่าวว่าอยากให้ดูเรื่องราคาน้ำมัน เพราะเป็นห่วงว่าฝ่ายตรงข้ามจะนำมาเป็นประเด็นโจมตีและถือโอกาสนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็นในการชุมนุมได้
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน กล่าวด้วยว่า ราคาแก๊สและไฟฟ้ากระทรวงพลังงานได้มีการตรึงราคาไว้อยู่แล้ว ส่วนราคาน้ำมันมีเงินอุดหนุนในกองทุน ก็จะต้องไปดูว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ไปหาแหล่งเชื้อเพลิงธรรมชาติภายในประเทศว่ามีหรือไม่ เพื่อนำมาใช้ทดแทนจะได้ไม่ต้องพึ่งพิงต่างประเทศ.
