“ศุภชัย” ตอกกลับ “ไทยสร้างไทย” แค่แถแก้เขิน ปมวัคซีนสหรัฐฯ สอนมวยอยากจบข้อสงสัย ให้งัดเอกสารทางการมาโชว์
กรณีที่ นายเทพฤทธิ์ สีน้ำเงิน ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมและข้อมูล พรรคไทยสร้างไทย ตอบโต้ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย กรณีปมข่าววัคซีนโควิด-19 ช่วยเหลือจากสหรัฐฯ โดย นายเทพฤทธิ์ ยืนยันว่า ทางสหรัฐฯ มีการประสานขอบริจาควัคซีนให้ไทยแล้ว แต่ไทยไม่ตอบรับ จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม
วันนี้ (24 ก.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อวานนี้ ตนก็เตือนด้วยความหวังดี เห็นว่า อยู่ในแวดวงทางการเมืองด้วยกัน ก็อยากให้ทำงานกันอย่างสร้างสรรค์ เป็นที่พึ่งของประชาชน อุตส่าห์สร้างพรรคใหม่ขึ้นมา ก็ไม่อยากให้ถูกโจมตีว่าให้ข่าวเท็จ ให้ข่าวคลาดเคลื่อน
เข้าใจว่า ถึงขั้นบินตรงไปสหรัฐฯ กลับมาก็ต้องมีเรื่องที่ทำให้สังคมไทยหวือหวา ยิ่งได้คะแนนทางการเมือง ก็ยิ่งดี แต่ก่อนจะให้ข่าว หรือจะโพสต์ข้อมูล ก็น่าจะรอให้ข้อมูลมันชัวร์ก่อน ไม่ใช่ว่า สื่อสารออกไปแล้ว กลับกลายเป็นโดนหมอโต้ โดนกระทรวงการต่างประเทศโต้ นี่น่าจะเป็นบทเรียนให้ทีมสื่อสารพรรคนั้น ได้เรียนรู้ว่าทุกวันนี้ การตรวจสอบข้อเท็จจริง มันทำได้รวดเร็ว ถ้าข้อมูลที่ปล่อยออกมานั้นไม่จริง ไม่นานอีกฝ่ายก็ต้องปกป้องตัวเอง ด้วยการชี้แจงกลับ
แล้ววานนี้ พรรคไทยสร้างไทย ก็ยังไม่จบ นายเทพฤทธิ์ ไปแปลคำพูด ของ ส.ว.สหรัฐฯ ขึ้นมาอีก ตนไม่ติดใจ และไม่ก้าวล่วงถึงนักการเมืองท่านนั้นด้วย แต่หากพรรคไทยสร้างไทย อยากให้เรื่องนี้กระจ่างว่า สหรัฐฯ ยื่นความประสงค์มาจริง ก็ต้องเอาเอกสารที่เป็นทางการมายืนยัน อย่างที่เคยบอกไปว่า มันต้องมี diplomatic note เพราะครั้งที่แล้ว ก็มีเอกสารตัวนี้ ฝั่งไทยจึงจะดำเนินการต่อไปได้ เรื่องนี้จบง่ายมาก ขอแค่พรรคไทยสร้างไทยไปหาเอกสารที่เป็นทางการมาโชว์ ว่า สหรัฐฯ ทำเรื่องขอบริจาควัคซีนมาแล้วจริงๆ
ประเด็นคือ พรรคไทยสร้างไทย ที่พูดอย่างมั่นใจ เอาเข้าจริงก็ไม่มีหลักฐานที่ว่า พอฝ่ายที่เขามีหน้าที่รับผิดชอบ ทั้งกระทรวงสาธารณสุข ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ยังไม่มีการประสานเข้ามา ก็ไปพูดจาแก้เก้อหาว่าไทยเป็นรัฐราชการ ปกครองด้วยระบอบอำนาจนิยม ซึ่งเป็นการตอบไม่ตรงกับที่เขาถาม ก็ในเมื่อฝ่ายข้าราชการ เขาอธิบายว่า มันไม่มีการประสานเข้ามา คุณก็งัดเอกสารขึันมาโชว์เลย ไม่ใช่ไปวิจารณ์ว่าเขาเป็นรัฐราชการ ห่วยอย่างนั้น อย่างนี้
นอกจากนั้น ฝ่ายพรรคไทยสร้างไทย ยังเอาข่าวตั้งแต่เดือนกรกฎาคมมาผสมโรงอีก ทั้งที่นี่มันจะปลายเดือนกันยายนแล้ว เข้าใจว่า หาเอกสารการขอสนับสนุนวัคซีนที่เป็นปัจจุบันไม่ได้ ก็เลยเอาข่าวเก่ามามั่ว ให้ประชาชนหลงเชื่อ ผมจะเรียนอธิบายกับสาธารณชน ว่า ข่าวที่นายเทพฤทธิ์ ยกมาอ้าง คือ เจตจำนงของสหรัฐฯ ในการบริจาควัคซีนไทยเพิ่มเติม ซึ่งตนและคนไทย ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง แต่นั่นคือ ในเชิงของการข่าว แต่ในเชิงกระบวนการนั้น ยังไม่มีการประสานเข้ามาอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้รับคำยืนยันแล้ว ทั้งจากนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค และ นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
“ตนขออ่านคำให้สัมภาษณ์ของหมอโอภาส คุณหมอบอกว่า หลังจากสหรัฐฯบริจาคลอตแรก 1.5 ล้านโดส ยังไม่ได้มีการแจ้งว่าจะบริจาคเพิ่มเติมในช่องทางใดๆ ให้กับประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ แม้กระทั่งกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น กระแสข่าวที่บอกว่าประเทศไทยปฏิเสธหรือไม่ตอบสนองต่อการบริจาควัคซีนนั้น เป็นเรื่องไม่จริง และตนจะอ่านคำให้สัมภาษณ์ของนายธานี ที่บอกว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้รายงานว่า ในขณะนี้ ฝ่ายสหรัฐฯ ยังอยู่ระหว่างดำเนินการภายใน โดยยังไม่ได้กำหนดการส่งมอบวัคซีน และสหรัฐฯ ยังไม่ได้ประสานงานด้านเอกสารกับหน่วยราชการไทยใดๆ ทั้งสิ้น นี่คือ ข้อมูลจริงๆ แต่ที่พรรคไทยสร้างไทย มาพูดช่วงหลังๆ นั้น มันออกแนวแถแก้เขิน”
ผมจะไม่ตอบโต้อีกต่อไป เพราะถ้ามานั่งตามข่าวกันดีๆ ฝ่ายที่มีอำนาจรับผิดชอบ และมีความน่าเชื่อถือ เป็นคนอยู่หน้างาน ได้ชี้แจงจนครบถ้วนทุกประเด็นแล้ว หมอเขาพูดชัดมาก แถมยังมีอ้างอิงสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน มันเคลียร์ที่สุดแล้ว มันก็น่าจะจบ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับสังคมแล้วว่าจะเชื่อหมอ ที่เขาดูแลเรื่องโดยตรง จะเชื่อหน่วยงานที่เขาประสานเรื่องโดยตรง หรือคุณจะเชื่อคนอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนี้เลย