รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินหน้าเติมเลือดใหม่เข้า-เลือดเก่าไหลกลับ ทวงคืน เก้าอี้ส.ส. “ภูเก็ตยกทีม” - เมินพรรคเล็กยื่นตีความแก้ รธน. ไม่หวั่นฝ่ายค้านยื่น ป.ป.ช.สอบ “เฉลิมชัย” หลังศึกซักฟอก
วันนี้ (16 ก.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้แจงถึงกรณีที่มีอดีต ส.ส.ของพรรคหลายคนลาออกไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น ในช่วงการเลือกตั้งปี 2560 และจะกลับมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์เช่นเดิมหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น โดยเปิดเผยว่า มีอดีต ส.ส.ของพรรคหลายคน ประสงค์ที่จะกลับมาสังกัดพรรค และหลายคนได้กลับมาสมัครเป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้ว โดยอดีต ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ลาออกไปนั้น ได้มอบหมายให้ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรค เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตามแนวทางที่พรรคมอบหมาย เดินหน้านำเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ พร้อมประกาศยุทธศาสตร์ “ภูเก็ตยกทีม” หลังการแก้ไขเขตการเลือกตั้ง ทำให้จังหวัดภูเก็ต มี ส.ส.เพิ่มได้อีก 1 คน
นายจุรินทร์ ยังยืนยันด้วยว่า จากการลงพื้นที่ทุกภาค ประชาชน และหลายๆ คน พูดตรงกันว่า พรรคประชาธิปัตย์ กำลังเดินขึ้นไม่ใช่เดินลง ทำให้ ส.ส.เก่าหลายคนกลับพรรค และคนรุ่นใหม่ก็มาร่วมงานกับพรรคมากขึ้น และยืนยันว่า พร้อมนำพรรคประชาธิปัตย์ ไปรับใช้ประชาชนในอนาคต และมั่นใจว่า พรรคมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ โดยเฉพาะนโยบายที่เป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาล ทั้งการประกันรายได้เกษตรกร และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคได้ดำเนินการให้เห็นผลสัมฤทธิ์ เป็นจริงได้
นายจุรินทร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคการเมืองขนาดเล็กกำลังระดมรายชื่อ เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 โดยระบุว่า เป็นขั้นตอนที่สามารถดำเนินการได้ ตามกระบวนการในรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจเป็นผลดี ที่ทำให้เรื่องใดที่ยังค้างคาใจได้หมดไป และให้ชัดเจนว่า เป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ส่วนตัวก็มั่นใจแล้วว่า กระบวนการต่างๆ ได้ดำเนินการโดยชอบ จนผ่านการพิจารณาของรัฐสภาในวาระที่ 3 แล้ว
นายจุรินทร์ ยังเปิดเผยด้วยว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ตั้งคณะทำงานชุดหนึ่ง เพื่อยกร่างพระราชบัญญัติแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อให้เนื้อหากฎหมาย สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 แล้ว และเมื่อรัฐธรรมนูญ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม มีผลใช้บังคับแล้ว พรรคก็พร้อมเดินหน้าแก้ไขกฎหมายประกอบต่อได้ทันที โดยเฉพาะการแก้ไขหมายเลขผู้สมัครเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครของพรรคทั้งหมด มีหมายเลขผู้สมัครเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็เห็นด้วย เพื่อให้ประชาชนสะดวกต่อการจดจำ และการลงคะแนน ป้องกันความสับสน ซึ่งในอดีตก็ดำเนินการมาเป็นปกติอยู่แล้ว และการใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศ ก็จะช่วยเสริมสร้างให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งขึ้น
ส่วนที่ฝ่ายค้าน เตรียมยื่น ป.ป.ช. เพื่อตรวจสอบรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ซึ่งมี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ถูกอภิปรายด้วย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่กังวล เนื่องจากเห็นว่า นายเฉลิมชัย สามารถชี้แจงได้ครบถ้วนทุกประเด็น ไม่มีประเด็นใดที่สภายังสงสัย จึงไม่กังวลต่อการยื่นตรวจสอบต่อ ป.ป.ช. ของฝ่ายค้านดังกล่าว
