xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” ชี้ รธน.วาระ 3 ผ่านหรือไม่ต้องอาศัย 3 ฝ่าย ร่วมมือกัน ลั่นทำเกินกำลังแล้ว ไม่มีอำนาจสั่งใครต้องทำตาม ปชป.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (9 ก.ย.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงมติ ร่างรัฐธรรมนูญวาระ 3 ในวันพรุ่งนี้ ว่า พรรคก็ทำเต็มกำลังความสามารถของพรรคประชาธิปัตย์แล้ว ไม่สามารถประเมินได้ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน เพราะยังไม่ทราบว่าผลจะออกมาอย่างไร ขณะนี้เท่าที่ทราบ และได้ติดตามการลงมติขากวาระ 1-2 ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. ก็ร่วมกันลงมติผ่านมาได้ ส่วนการลงมติวาระ 3 ไม่สามารถตอบได้ ใครตัดสินใจอย่างไรก็ต้องเป็นผู้อธิบายเองว่าทำไมถึงตัดสินใจอย่างนั้น

เมื่อถามว่า หากแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ พรรคจะมีท่าทีในการร่วมรัฐบาลหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เกินกำลังของพรรคที่จะไปสั่งการ ให้ ส.ส.ฝ่ายค้าน รัฐบาล หรือ ส.ว. ให้เขาทำอย่างนั้นอย่างนี้ หรือให้สมาชิกดำเนินการตามความประสงค์ของพรรคประชาธิปัตย์ได้ แต่อย่างน้อยที่สุดการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ได้พูดคุยกันไว้กับพรรคพลังประชารัฐ ในการร่วมรัฐบาลแล้ว ซึ่งทุกคนก็ทราบข้อนี้กันดี ถ้าเราไม่ทำหน้าที่ ไม่ทำในสิ่งที่พูดไว้อีกเรื่องหนึ่ง

“แต่ถ้าทำหน้าที่สุดความสามารถแล้วจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ขึ้นอยู่กับ 3 ฝ่ายต้องร่วมมือกัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ได้เปรียบเสียเปรียบกันทุกพรรค มีได้มีเสียกันทุกพรรค ไม่มีใครได้ฝ่ายเดียว บัตรสองใบ บัตรใบเดียวก็มีข้อดีข้อเสีย แต่เราต้องคำนึงถึงหลักการควรจะแก้อย่างไร ให้พรรคการเมือง และระบอบประชาธิปไตยมีความเข้มแข็งในระยะยาว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง” นายจุรินทร์ กล่าว

เมื่อถามว่า มี ส.ว.บางส่วนมองว่า แก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่ขอวิจารณ์ และไม่ฝากอะไรทั้งสิ้น เพราะรัฐธรรมนูญจะผ่านได้ต้องอาศัยความร่วมมือทั้ง 3 ส่วน ถ้าขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไปก็ไม่ผ่าน เพราะฉะนั้นทุกฝ่ายต้องมีส่วนร่วม และร่วมมือกัน ส่วนที่มองว่าเป็นการกินรวบก็เถียงกันไม่มีที่ยุติ เพราะทุกระบบมีจุดอ่อน จุดแข็ง บัตร 2 ใบ ก็มีบัตรก็มีจุดอ่อนจุดแข็ง บัตรใบเดียวก็มี สุดท้ายผลออกมาก็เบี้ยหัวแตก แล้วมันก็มีข้อวิจารณ์อีกได้เช่นเดียวกันว่าเขียนมาเพื่อใคร เพราะฉะนั้นมันมีจุดอ่อนจุดแข็งทั้งสิ้น ถ้าเอาจุดอ่อนจุดแข็งมาพูดกันมันก็เถียงกันไม่จบ แต่เราเอาหลักดีกว่าเป็นประโยชน์ในการที่จะสร้างพรรคการเมืองในอนาคตให้เข้มแข็งหรือไม่ เพราะมันเป็นรากฐานสำคัญของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระยะยาว


กำลังโหลดความคิดเห็น