“ชินวรณ์” มั่นใจร่างแก้ไข รธน.ผ่านวาระ 3 แน่ เผย คุย ส.ว.ระดับแกนนำ ยังยืนยันให้ความร่วมมือโหวตเห็นชอบ เชื่อ ไม่มีใครยื่นศาล รธน.เสี่ยงถูกครหาทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง จ่อ เสนอร่าง กม.ลูก 2 ฉบับ หวังได้พิจารณาสมัยประชุมหน้า
วันนี้ (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (7 ก.ย.) ว่า เป็นการพิจารณาเรื่องการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ซึ่งพรรคยืนยันว่า ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไข และมีมติเห็นชอบในชั้นรับหลักการ และชั้นแปรญัตติวาระ 2 ดังนั้น การลงมติวาระ 3 พรรคจึงเห็นควรมีมติให้ความเห็นชอบ เพื่อจะได้นำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ นำไปสู่การประกาศใช้ต่อไป และหวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของทางออกปัญหาทางการเมือง แม้การแก้ไขจะเป็นประเด็นเดียว คือ เรื่องระบบเลือกตั้ง แต่ก็เกี่ยวข้องกับบริบททางการเมืองที่จะทำให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเฉพาะบัตร 2 ใบ ที่จะทำให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ 60 ยังมีจุดอ่อน เช่น การคำนวณ ส.ส.ที่ทำให้มี ส.ส.ปัดเศษ นำไปสู่ข้อกล่าวหาว่าทำให้ในการซื้อเสียงมากขึ้น ทำให้เกิดพรรคเล็กเรียกรับผลประโยชน์ ส่วนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เคยใช้มาแล้วในรัฐธรรมนูญ 40-50 ซึ่งเป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
“แม้การลงมติจะต้องใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 คือ จำนวน 84 เสียง เสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน ร้อยละ 20 แต่ผมก็มั่นใจว่าการลงมติในวาระ 3 ครั้งนี้ จะไม่มีเหตุผลอื่น เพราะในการพิจารณาชั้น กมธ. ก็มีการแก้ไขประเด็นที่เห็นต่างแล้ว จึงมั่นใจว่า การลงมติวาระ 3 จะมีความเห็นชอบอย่างพร้อมเพียงกัน” นายชินวรณ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้มี ส.ว.บางส่วนออกมาส่งสัญญาณว่าอาจโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์ กล่าวว่า จากการทำงานในชั้น กมธ.ด้วยกัน ส.ว. ที่เป็นหลักยังเห็นด้วย และในฐานะที่ตนเป็นรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ก็ได้รับการประสานจาก ส.ว. ระดับแกนนำที่ยังยืนยันให้ความร่วมมือเห็นชอบวาระ 3 ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่ผันผวนอื่นยังมั่นใจว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้รับความเห็นชอบในวาระ 3 อย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีที่หากที่ประชุมรัฐสภาโหวตผ่านวาระ 3 แล้ว มีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าใครก็ตามที่ไปยื่นจะเป็นภาระความรับผิดชอบของบุคคลนั้นทันที ว่า เป็นการไปยื่นตีความเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นว่า แม้การลงมติวาระ 3 ผ่านไปก็จะไม่มีใครไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายสลัดผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วมาร่วมกันถอดสลักทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วยกันน่าจะเป็นประโยชน์กว่า
เมื่อถามถึงการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง นายชินวรณ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการคุยเรื่องดังกล่าวโดยมอบหมายให้ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าคณะยกร่างและจะเชิญบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาเป็นคณะกรรมการด้วย และเมื่อร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา กระบวนการต่อจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการพิจารณายกร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนี้ โดยเร็ว เพื่อจะได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาในสมัยประชุมหน้าต่อไป
วันนี้ (8 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 8 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานวิปพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ (7 ก.ย.) ว่า เป็นการพิจารณาเรื่องการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 ซึ่งพรรคยืนยันว่า ในฐานะผู้เสนอร่างแก้ไข และมีมติเห็นชอบในชั้นรับหลักการ และชั้นแปรญัตติวาระ 2 ดังนั้น การลงมติวาระ 3 พรรคจึงเห็นควรมีมติให้ความเห็นชอบ เพื่อจะได้นำรัฐธรรมนูญฉบับนี้ขึ้นทูลเกล้าฯ นำไปสู่การประกาศใช้ต่อไป และหวังว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของทางออกปัญหาทางการเมือง แม้การแก้ไขจะเป็นประเด็นเดียว คือ เรื่องระบบเลือกตั้ง แต่ก็เกี่ยวข้องกับบริบททางการเมืองที่จะทำให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น โดยเฉพาะบัตร 2 ใบ ที่จะทำให้พรรคการเมืองมีความเข้มแข็งขึ้น นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญ 60 ยังมีจุดอ่อน เช่น การคำนวณ ส.ส.ที่ทำให้มี ส.ส.ปัดเศษ นำไปสู่ข้อกล่าวหาว่าทำให้ในการซื้อเสียงมากขึ้น ทำให้เกิดพรรคเล็กเรียกรับผลประโยชน์ ส่วนบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เคยใช้มาแล้วในรัฐธรรมนูญ 40-50 ซึ่งเป็นประชาธิปไตยมากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จึงหวังว่า จะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)
“แม้การลงมติจะต้องใช้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 คือ จำนวน 84 เสียง เสียง ส.ส.ฝ่ายค้าน ร้อยละ 20 แต่ผมก็มั่นใจว่าการลงมติในวาระ 3 ครั้งนี้ จะไม่มีเหตุผลอื่น เพราะในการพิจารณาชั้น กมธ. ก็มีการแก้ไขประเด็นที่เห็นต่างแล้ว จึงมั่นใจว่า การลงมติวาระ 3 จะมีความเห็นชอบอย่างพร้อมเพียงกัน” นายชินวรณ์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้มี ส.ว.บางส่วนออกมาส่งสัญญาณว่าอาจโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์ กล่าวว่า จากการทำงานในชั้น กมธ.ด้วยกัน ส.ว. ที่เป็นหลักยังเห็นด้วย และในฐานะที่ตนเป็นรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ก็ได้รับการประสานจาก ส.ว. ระดับแกนนำที่ยังยืนยันให้ความร่วมมือเห็นชอบวาระ 3 ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ที่ผันผวนอื่นยังมั่นใจว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะได้รับความเห็นชอบในวาระ 3 อย่างแน่นอน
เมื่อถามถึงกรณีที่หากที่ประชุมรัฐสภาโหวตผ่านวาระ 3 แล้ว มีผู้ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายชินวรณ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าใครก็ตามที่ไปยื่นจะเป็นภาระความรับผิดชอบของบุคคลนั้นทันที ว่า เป็นการไปยื่นตีความเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง ซึ่งส่วนตัวเชื่อมั่นว่า แม้การลงมติวาระ 3 ผ่านไปก็จะไม่มีใครไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ขอให้ทุกคนทุกฝ่ายสลัดผลประโยชน์ของตัวเอง แล้วมาร่วมกันถอดสลักทางการเมืองที่เกิดขึ้นขณะนี้ด้วยกันน่าจะเป็นประโยชน์กว่า
เมื่อถามถึงการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง นายชินวรณ์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้มีการคุยเรื่องดังกล่าวโดยมอบหมายให้ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าคณะยกร่างและจะเชิญบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง มาเป็นคณะกรรมการด้วย และเมื่อร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภา กระบวนการต่อจากนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการพิจารณายกร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับนี้ โดยเร็ว เพื่อจะได้เสนอให้ที่ประชุมพิจารณาในสมัยประชุมหน้าต่อไป