“แรมโบ้” เย้ย “สุดารัตน์” คงผิดหวัง “บิ๊กตู่” ได้ไปต่อ ตีกินไม่สำเร็จ ก็ปั่นหัวประชาชนให้ออกมาไล่นายกฯ แนะให้สู้ตามกติกา หัดทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง อย่าเรียนลัด ชาวบ้านรู้ทัน ซัด “จาตุรนต์” ไร้ราคา ไม่สมเคยเป็นรองนายกฯ เอาแต่เล่นวาทะตีกิน หมดราคาความเป็นผู้ใหญ่
วันนี้ (5 ก.ย.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า อภิปรายให้ตาย นายกฯ ก็ยังอยู่ ซึ่งต้องไล่และเขียนรัฐธรรมนูญประชาชน ไปพร้อมกัน โดย นายเสกสกล กล่าวว่า การที่นายกฯ ได้ทำหน้าที่ต่อนั้น เพราะสมาชิกสภาฯส่วนใหญ่ยังไว้วางใจ และมั่นใจให้นายกฯ ได้ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาโดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป ซึ่งยืนยันว่า ที่ผ่านมา นายกฯ และรัฐมนตรี คณะแพทย์ ทุกหน่วยงานได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้น คนหายป่วยมีจำนวนมากขึ้นกว่าคนที่ติดเชื้อ
“คุณหญิงสุดารัตน์คงจะผิดหวังกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ที่นายกฯ ได้ไปต่อ เพราะอยากจะอาศัยจังหวะนี้มาตีกินทางการเมือง แต่พอไม่ได้ก็ออกมาปั่นให้ประชาชนออกมาไล่นายกฯ ถือว่าเป็นนักการเมืองไม่ใช่มืออาชีพเลย และผมขอยืนยันไว้ว่า นายกฯ จะยังคงทำหน้าที่ต่อจนครบวาระ ซึ่งหากคุณหญิงอยากเข้ามาเป็นรัฐบาล ขอให้ไปสู้ตามกระบวนการตามรัฐธรรมนูญในสนามเลือกตั้ง แต่ขอให้ระวังไว้ว่าหากยังมีพฤติกรรมที่จะเล่นแต่การเมือง ไม่ทำประโยชน์อะไร ประชาชนอาจเบื่อหน่าย เลือกตั้งครั้งต่อไปอาจไม่มีโอกาสเข้ามาอีกก็ได้ ซ้ำร้ายคุณหญิงสุดารัตน์อาจจะตกม้าตาย เพราะความไม่ยึดมั่นในกติกาชอบหาวิธีเรียนลัดเข้าสู่อำนาจเสียจนเคยชินด้วยวิธีคิดแคมเปญทำลายคนอื่น ประชาชนเขาจับได้ไล่ทันจะเสียผู้เสียคนเอาได้”
นายเสกสกล กล่าวอีกว่า ส่วนที่ นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำกลุ่มก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าคะแนนโหวตอภิปราย สะท้อนความขัดแย้งในรัฐบาล และปัญหาต่อไปจะมีนายกรัฐมนตรีที่บริหารล้มเหลวอย่างร้ายแรงนั้น ก็ถือเป็นแนวคิดของคนที่เห็นต่างนายกฯ และอยากเข้ามามีอำนาจเช่นเดียวกันกับคุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมกับย้ำว่า การลงคะแนนโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจยืนยันพรรคร่วมยังทำงานร่วมกันเป็นเอกภาพ ซึ่งลงคะแนนโหวตถือเป็นธรรมดาที่จะมีใครได้มาก ได้น้อย แต่ไม่แตกต่างกันมาก
“ที่ นายจาตุรนต์ บอกว่า จากนี้ไปนายกฯ จะบริหารงานล้มเหลวอย่างร้ายแรง ผมมองว่าก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนายจาตุรนต์ ซึ่งต่อให้นายกฯ ทำดีแค่ไหนนายจาตุรนต์ก็คงไม่ยอมรับ ดังนั้น ผมก็มองว่าไม่ควรให้ค่าให้ราคาในคำพูดนายจาตุรนต์ ขอแนะนำว่า หากนายจาตุรนต์ว่างมาก ควรเอาเวลาไปปรึกษากับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำสู้แล้วรวย เพื่อเตรียมจัดตั้งพรรคใหม่ซึ่งน่าจะเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็น “พรรคเผาบ้านเผาเมือง” จะดีกว่า เพราะทราบข่าวว่า ที่ทำงานพรรคใหม่จดทะเบียนที่บ้านนายณัฐวุฒิ จ.นครศรีธรรมราช
“ความคิดของนายจาตุรนต์คงเหมือนกัน เอาความคิดเผาทำลายคนอื่นได้ทุกสิ่งจริงๆ จึงทำให้ด้อยค่าตัวเองเสื่อมศรัทธาในสายตาประชาชนตกต่ำไปเรื่อยๆ ความมคิดไม่สมราคาที่เคยผ่านการเป็นรองนายกฯ และรัฐมนตรีมาแล้ว ยิ่งคิดยิ่งน่าอับอายขายขี้หน้าประชาชน”
“ผมคิดว่า ประชาชนไม่ได้โง่ ฉลาดรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองปลิ้นปล้อนกันหมดแล้ว จะมาใช้วาจาเล่นวาทะตีกินทางการเมือง และด้อยค่าคนอื่นเช่นนี้บ่อยๆ จะยิ่งไม่เหลือค่าราคาความเป็นผู้ใหญ่ในวงการการเมืองอีกต่อไป” นายเสกสกล กล่าว