รองนายกฯ ระบุหาก “ประยุทธ์” ถูกมติไม่ไว้วางใจยังต้องรักษาการต่อทั้ง ครม. จนกว่าจะตั้งคนใหม่ ชี้ไม่จำเป็นต้องเลือกในแคนดิเดต บอกนายกฯถูกคว่ำเคยเกิดขึ้นแล้วหลายคราว ย้อนให้จำสมัย “บรรหาร”
วันนี้ (3 ก.ย.) เมื่อเวลา 14.10 น. ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์อีกครั้งกรณีหากที่ประชุมสภาฯ มีมติไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กระบวนการหลังจากนั้นจะเป็นอย่างไร ว่า นายกฯถูกไม่ไว้วางใจก็ต้องพ้นจากตำแหน่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ จะพ้นตามไปด้วยตามมาตรา 167 ขณะเดียวกัน มาตรา 168 ระบุว่า คณะรัฐมนตรีที่พ้นจะอยู่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ารับหน้าที่ โดยจะยะเวลาไม่ได้มีการกำหนดไว้ ขึ้นอยู่กับประธานสภาจะหานายกฯใหม่ได้เมื่อไหร่ ดังนั้น นายกฯและคณะรัฐมนตรีจะรักษาการต่อไปจนกว่าจะได้นายกฯใหม่ และตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่แล้วเสร็จกระทั้งเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนเข้ารับหน้าที่
เมื่อถามว่า ขั้นตอนการเลือกนายกฯต้องเริ่มจากแคนดิเดตนายกฯของพรรคการเมืองที่มีอยู่หรือไม่ หรือสามารถเลือกคนนอกได้เลย นายวิษณุ ตอบว่า จะต้องเลือกในตะกร้าก่อน หรือจะไม่เลือกในตะกร้าก่อนก็ได้ ถ้าตกลงว่าจะใช้วรรคสอง เพราะในรัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุว่าเลือกในตะกร้าจนกว่าจะไม่ได้แล้วค่อยไปเลือกนอกตะกร้า บอกแต่เพียงว่ากรณีที่ต้องการเอาคนภายนอกก็ให้เสียงกึ่งหนึ่งของสภาฯยื่นญัตติแล้วโหวตกันสองในสาม ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการที่นำมาใช้แทนกันได้ จึงต้องใช้เสียง ส.ว. ดังนั้น ถ้าไม่ลองตะกร้าก่อนใครจะกระโดดไปเลือกนอกตะกร้า เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะผูกโยงไปกับการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อยู่ที่ว่าวันที่ 10 ก.ย. นี้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านวาระสามหรือไม่ ถ้าผ่านก็เท่ากับว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จสิ้น เดินหน้าต่อไป
เมื่อถามว่า จากการประเมินคิดว่าเหตุการณ์ข้างต้นจะเกิดขึ้นหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่มองอะไรทั้งนั้น ไม่ขอตอบเพราะตนไม่รู้ และไม่ประเมินอะไรทั้งนั้น เมื่อสื่อถามก็ตอบตามที่ถาม เมื่อถามว่า ในอดีตเคยมีเหตุการโหวตล้มรัฐบาลเช่นนี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “มีหลายคราว ยังจำได้หรือไม่สมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา นายกฯรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่ครั้งนั้นจบลงด้วยการยุบสภา”