“มงคลกิตติ์” ศิษย์พระราม 7 ไม่สลดท้าลงนวม “บิ๊กตู่” หาทางออกประเทศแบบลูกผู้ชาย ลั่น ถ้าไม่รับคำท้า ถือว่าหน้าตัวเมีย เสียชื่อนักเรียนนายร้อย ยันไม่รังแกคนแก่ ใช้มือเดียว โว หมัดเดียวคงเอาอยู่ ไล่ “สิระ” เป็นนายกฯ ก่อนค่อยขอมาชกแทน
วันนี้ (20 ส.ค.) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ขอยุติปัญหาของบ้านเมืองด้วยสันติวิธี ด้วยการสวมหัวใจของประชาชนที่เดือดร้อนทั่วประเทศ ขอท้า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มาต่อยกันที่สนามมวยลุมพินี แบบมวยคาดเชือกหนึ่งต่อหนึ่ง รวมทั้งไม่ต้องส่งตัวแทนมา เพราะไม่ใช่นายกฯ ซึ่งตนน้ำหนัก 79 กิโลกรัม และนายกฯน้ำหนัก 78-79 กิโลกรัม อายุห่างกัน 27 ปี พลเอก ประยุทธ์ 67 ปี ผมอายุ 40 ปี ดังนั้น ตนไม่ต้องการรังแกคนชรา ตนจะขอใช้แค่มือขวามือเดียว และมือกับเข่าขอพันผ้าก็อตเท่านั้น อีกทั้งขออนุญาตใส่คอนแทคเลนส์ เพราะตนสายตาสั้น 600 ส่วนนายกฯสามารถใช้มือและเท้าได้
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวย้ำว่า ตนไม่ใช่นักมวย แต่เคยเป็นครูสอนเพาะกายมาก่อน จึงเคลื่อนไหวไม่เร็วมาก แต่ขอหมัดเดียว ในกติกา 3 นาที 3 ยก ให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่านค้าน เป็นกรรมการ ซึ่งหาก พลเอก ประยุทธ์ แพ้ ต้องสัญญากับประชาชนว่า จะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ทันที เปิดทางให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป แต่ถ้าตนแพ้ ถือว่า ประชาชนแพ้ด้วย และต้องลาออกจาก ตำแหน่ง ส.ส. ทันที นี่คือสิ่งที่ตนให้คำสัตย์ไว้
“ผมขอท้า พลเอก ประยุทธ์ ภายใน 10 วัน หรือ วันที่ 30 ส.ค.นี้ ถ้า พลเอก ประยุทธ์ ไม่รับคำท้าผม ถือว่า หน้าตัวเมีย ใจปลาซิว เสียชื่อกองทัพบกหมด เคยเป็นอดีตผู้นำกองทัพบก เป็นนายกรัฐมนตรี เรื่องนี้ใช้กีฬาเป็นการตัดสิน ใครจะมายื่นจริยธรรมผมคงไม่ได้ เพราะต่อยสนามมวย เป็นไปตามกติกาสากล ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่รักษาบ้านเมืองไว้ได้ การต่อยไฟต์นี้เรียกว่า เท็นไฟต์เท็น ต่อยเพื่อบ้านเมือง เพื่ออิสระของประชาชน ให้ปลดแอกจากระบอบ พลเอก ประยุทธ์ และระบอบ คสช.ที่ยังคงเหลือ ถ้าไม่กล้าก็รีบเซ็นใบลาออก ถ้าใจปลาซิวก็ไม่ใช่ลูกชาย เสียชื่อนักเรียนนายร้อย จปร. ผมขอใช้สิทธิเด็กพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ไม่กล้าอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่ถึงตาย” นายมงคลกิตติ์ กล่าว
นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า ครั้งหนึ่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงพระเยาว์ ทรงชนไก่กับมังกะยอชวา เพื่อรักษาบ้านเมืองไว้ การต่อยครั้งนี้เพื่อไม่ให้คาร์ม็อบคาร์ปาร์กมันเสียเวลา ส่วนที่ไม่ใช้กระบวนการทางกฎหมายจัดการ พลเอก ประยุทธ์ เนื่องจากใช้เวลานานหลายปีไม่ทันต่อยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทะลุหลักล้านแล้ว และกลไลทางรัฐสภาไม่สามารถเอาพลเอกประยุทธ์ ลงได้ เพราะมีองคาพยพที่แต่งตั้งมา นอกจากสามัญสำนึกของ พลเอกประยุทธ์
เมื่อถามว่า นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ออกมาปกป้องนายกฯและมองว่าการใช้กำลังแก้ปัญหาเป็นเรื่องไม่ดีนั้น นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ก็แล้วแต่นายสิระ ถ้าสามารถยับยั้งการเจ็บการป่วยของประชาชนได้ หรือการบริหารการแผ่นดินที่ล้มเหลว ตนจะไม่ว่า พลเอก ประยุทธ์ เลย และจะเป็นลูกน้องที่ดี
เมื่อถามย้ำว่า นายสิระ สามารถต่อยแทน พลเอก ประยุทธ์ ได้หรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า ต้องให้นายสิระ เป็นนายกฯก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้สัมภาษร์แล้วเสร็จ นายมงคงลกิตติ์ ได้โชว์ตั้งการ์ดด้วยมือขวามือเดียว และง้าหมัดต่อย และบอกว่า ขอเสยปลายคา พลเอก ประยุทธ์ หมัดเดียว