เด็ก พปชร. ซัด “มงคลกิตติ์” ทบทวนมาตรฐานจริยธรรม ส.ส. ทั้ง 4 ข้อ ทำภาพลักษณ์สภาฯตกต่ำ ไร้มารยาท ท้าต่อยไม่ใช่วิธีลูกผู้ชาย เหน็บคนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบท้าต่อย
วันนี้ (20 ส.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขตจอมทอง-ธนบุรี อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.พรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ท้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชก มีเดิมพันหากใครเป็นฝ่ายแพ้ต้องลาออก และว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับคำท้าไม่ใช่ลูกผู้ชายว่า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นข้อเรียกร้องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะเสนอข้อคิดเห็นนี้ และเป็นเรื่องไร้มารยาททางการเมืองและทางสังคม ผิดหลักการรัฐสภา ทั้งที่ นายมงคลกิตติ์ มีเวทีรัฐสภาในการตรวจสอบ รวมถึงเสนอข้อแก้ไขต่างๆ ผ่านกลไกสภาฯ ได้ แต่กลับเลือกใช้เวทีมวยและการท้าต่อยมาแก้ปัญหา
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ยืนหยัดแก้ไขปัญหาอย่างมุ่งมั่น ร่วมกับคณะแพทย์-ผู้เชี่ยวชาญทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมถึงภาคประชาสังคมหลายส่วน จนตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดมีแนวโน้มลดลง และหากมาตรการล็อกดาวน์มีประสิทธิภาพสูงสุดในช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ไปจนถึงต้นเดือนกันยายนสถานการณ์ก็จะดีขึ้นตามลำดับ
“สิ่งที่นายมงคลกิตติ์ได้กระทำนั้น ควรทบทวนตนเองถึงจริยธรรมของ ส.ส. ทั้ง 4 ข้อดังนี้ ข้อ 10 และ ข้อ 13 แห่งข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563
ข้อ 10 สมาชิกและกรรมาธิการต้องรักษาไว้ซึ่งชื่อเสียงของสภาผู้แทนราษฎรและไม่กระทำการใดๆ อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติภูมิของประเทศชาติและสภาผู้แทนราษฎร
ข้อ 13 ต้องไม่แสดงอาการข่มขู่ อาฆาตมาดร้าย หรือใช้กำลังประทุษร้ายต่อบุคคลอื่นในที่ประชุม บริเวณสภา หรือที่อื่นใด
และบัญชีท้ายข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 12 และข้อ 17 แห่งมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561
ข้อ 12 ยึดมั่นหลักนิติธรรม และประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีของประชาชน
ข้อ 17 ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง
“อยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตรวจสอบจริยธรรมเพื่อภาพลักษณ์ เกียรติภูมิของรัฐสภา และการประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดีรวมถึงการไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง ส.ส. ส่วนนายมงคลกิตติ์นั้น ตนเข้าใจว่า นายมงคลกิตติ์ อาจมีนิสัยส่วนลึกที่คุ้นชินกับพฤติกรรมใช้กำลังท้าต่อย โดยไม่ได้ตระหนักถึงความเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาไทย เพราะคนดีเขาชอบแก้ไข คนอะไรชอบท้าต่อย” น.ส.ทิพานัน กล่าว