"ธนาธร" ไปฝรั่งเศส สลิ่มมโนว่าลี้ภัย - สามกีบแก้ต่างให้! ในจังหวะที่โดนคดีตามหลังรัวๆ **“ยิ่งลักษณ์” บอกเห็นราคาข้าวแล้วสงสารชาวนา แต่ไม่เคยนึกถึง “บุญทรง” ที่รับกรรมเพราะจำนำข้าว

ข่าวปนคน คนปนข่าว



**"ธนาธร" ไปฝรั่งเศส สลิ่มมโนว่าลี้ภัย - สามกีบแก้ต่างให้! ในจังหวะที่โดนคดีตามหลังรัวๆ

กรณีปรากฏภาพว่อนเน็ต "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า พาภรรยาและลูก ขณะจะเช็กอิน ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเห็นว่า จะไปเข้าร่วมแข่งวิ่งเทรล ที่ฝรั่งเศสในวันที่ 23-29 ส.ค.นี้ ประเทศเดียวกับคู่หู "ปิยบุตร แสงกนกกุล" ที่บินไปหาภรรยาเมื่อเดือนก่อน ป่านนี้ยังไม่กลับ

หลังจากตกเป็นข่าวออกมาไม่นานก็มีรายงานว่า “ธนาธร” ถูกหมายเรียกจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรัวๆ ทั้งคดี ม.112 ตามติดด้วยข้อกล่าวหา ผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งทนายคาดว่ามาจากกรณี "ไลฟ์สดวัคซีน" แล้วยังมีคดีหุ้นสื่อที่เงียบไปนาน จู่ๆก็มีข่าว “พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข” ผบ.ตร.ให้สั่งฟ้อง


เรียกว่า “ธนาธร” อยูในประเทศตั้งนาน ไม่มีหมายเรียก พอหอบบุตรจูงมือภรรยาบินนอกเท่านั้นแหละ คดีตามหลังมาเป็นพรวน ความนี้ก็เลยเกิดเป็นดรามาในโซเชียลฯ เป็นศึกสงครามคีย์บอร์ดของฝ่าย “ประชาธิปไตย 3กีบ และติ่งส้ม” ไฝว้กับ “ฝ่ายสลิ่ม” อย่างเมามัน

ฝ่ายกองเชียร์ธนาธร และ 3 กีบ แก้ต่างให้เป็นพัลวัล รวมถึง “ปิยะบุตร” ที่หัวร้อนแทนเพื่อนธร เรื่องที่ถูกแอบถ่าย โดยเปิดศึกกับ "ดร.ไอโอ" ได้ทวีตข้อความใน ทวิตเตอร์ Piyabutr Saengkanokkul ระบุว่า ดอกเตอร์ไอโอ 2 คน ปล่อยข่าวเที่ยวบินของธนาธร แล้วข้อความนี้ก็ว่อนในกรุ๊ปไลน์ต่างๆ แล้วที่สนามบินสุวรรณภูมิจึงมี “ชายหัวเกรียน” จำนวนมาก ไปดักรอถ่ายรูปธนาธรเดินทาง

แน่นอน “ฝ่ายสลิ่ม” ย่อมมโนว่า งานนี้ “ธนาธร” คงรู้แกว จึงวางทางหนีทีไล่ไว้ล่วงหน้า เพราะ คดี ม.112 อัตราโทษมีโอกาสได้เข้าไปเป็นเพื่อนน้องๆ แกนนำ 3 นิ้วสูง สู้ขอลี้ภัยไปประเทศที่คู่หู ปิยะบุตรและภรรยา อาศัยอยู่ อย่างน้อยก็อุ่นใจ ไม่ขาดเพื่อนคู่คิดมิตรคู่กาย

ความมโนของฝ่ายสลิ่ม ยังถูกขยี้บี้ซ้ำจากสื่อเชียร์ลุงตลอดทั้งวัน ในประเด็นถ้า “ธนาธร” ไม่กลับใครจะรับผิดชอบ ?... ไอ้ตี๋ปากดี หนีไม่หนีเดี๋ยวก็รู้...ใจปลาซิว


ที่สุดแล้วก็เป็น “ธนาธร” ที่ออกมา ทวีตข้อความบนทวิตเตอร์ส่วนตัว ระบุว่า "เพิ่งโดนหมายเรียกผู้ต้องหาคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เพิ่มอีก 2 หมาย ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจากกรณีไหน แต่คาดว่า มาจากการไลฟ์วิจารณ์การบริหารจัดการวัคซีนของรัฐบาลเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา เสร็จภารกิจทางนี้แล้ว ผมจะเดินทางกลับเพื่อไปตามหมายเรียก ไม่หนีครับ ไม่ต้องปั่น เดี๋ยวเจอกัน"

งานนี้ แม้ว่าเจ้าตัวจะยืนยัน ไม่หนี ไม่ลี้ แต่เชื่อเถอะว่า ดรามาน่าจะลุกท่วมจอโซเชียลฯไปอีกหลายวัน จนกว่า รายการวิ่งจะจบ… แบบว่า “พนันกันมั๊ย” ว่า ธนาธรกลับมาจริงๆ หรือชิ่งจะขอวิ่งต่อในต่างแดนไปเรื่อยๆ...เอาเป็นว่า รอชมกันต่อไป.



** “ยิ่งลักษณ์” บอกเห็นราคาข้าวแล้วสงสารชาวนา แต่ไม่เคยนึกถึง “บุญทรง” ที่รับกรรมเพราะจำนำข้าว

การเมืองกำลังอยู่ในช่วงโหมโรง ศึกซักฟอก “สองพี่น้อง” ที่อยู่แดนไกล ก็ได้อาศัยโซเชียลฯ ช่วยโหมกระแส …
วันก่อน “พี่โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร เพิ่มเข้าคลับเฮาส์ บอก “ก้าวไกล” ให้ใจเย็นๆ จะตีใคร ด่าใคร ต้องให้ได้ผล ไม่ใช่ด่า “ประวิตร-ธรรมนัส” แล้วจะได้ประชาธิปไตย
คิวถัดมาเป็น “น้องปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก บอกเห็นราคาข้าวช่วงนี้ ที่เหลือ7-8พันบาท แล้วสงสารชาวนา เพราะรัฐบาลล้มเหลว ไม่รู้เท่าทันปัญหา... โอดครวญเสียดายโอกาส อุตสาห์วางรากฐานเอาไว้ตอนเป็นนายกฯ แต่ไม่มีใครสานต่อ...


วันนี้รัฐบาลมองไม่รอบด้าน ไม่ทันต่อสถานการณ์ ก็อยากจะแนะแนวทางให้ เอาไปทำได้ทันที เช่น สนับสนุนต้นทุนการผลิต เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง ค่าเช่านา เพื่อลดต้นทุนการผลิต แล้วเข้าไปดูแลด้านราคา แก้ปัญหาการขนส่ง...

เสียดายของดีดี ที่ทำไว้ เมื่อตอนที่เป็นนายกฯแต่ไม่มีใครสานต่อ อย่างเกษตรโซนนิ่ง พัฒนาพันธุ์ข้าว นำเทคโนโลยีมาใช้ ขยายตลาดใหม่ ๆ เพื่อให้ชาวนาที่เป็นกระดูกสันหลังของชาติได้กลับมาเข้มแข็ง...

หาก “ยิ่งลักษณ์” จะโพสต์โจมตีรัฐบาลในเรื่องอื่น ก็คงไม่เท่าไร ... แต่มาพูดถึงเรื่องข้าว ภาพจำเรื่อง “ยิ่งลักษณ์กับจำนำข้าว” ก็โผล่ขึ้นมาทันที …

อันดับแรกเลยที่ “ยิ่งลักษณ์” ต้องเผ่นออกนอกประเทศ ไปอยู่กับ “พี่โทนี่” ไม่ใช่เพราะโครงการจำนำข้าวที่เต็มไปด้วยช่องทางหาประโยชน์ เข้าพกเข้าห่อ เข้าพรรคเข้าพวกหรอกหรือ ...

เริ่มตั้งแต่จำนำข้าวทุกเมล็ด ตันละหมื่นห้า ก็ทำให้กลไกตลาดถูกบิดเบือน กระตุ้นเกษตรกรมุ่งปลูกข้าวเพื่อมาขายรัฐ เน้นปริมาณไม่สนคุณภาพ … พ่อค้าข้าวก็ล่มจม เพราะซื้อข้าวแข่งรัฐไม่ได้ ยิ่งร้องก็ยิ่งเจ็บ ต้องปรับตัวหันมาเปิดโกดัง รับเก็บข้าวเปลือกให้รัฐ เป็นเสือนอนกินรูปแบบใหม่ รัฐต้องรับภาระค่าโกดัง-ค่าดูแลข้าวปีละเฉียดพันล้าน

การค้าข้าวอยู่ในมือรัฐบาล กลายเป็น "พ่อค้าข้าวขาใหญ่ที่สุดในประเทศ" โดยใช้เงินภาษีคนทั้งประเทศมาหมุน แต่ส่วนต่างกลับไปอยู่กับคนในรัฐบาลยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเช่าโกดัง การเวียนเทียนขายข้าว การนำข้าวเพื่อนบ้านเข้ามาจำนำ และยังมี "สต๊อกลม"มีแต่ตัวเลขในบัญชี แต่ไม่มีข้าว


มีการตบตาว่าสามารถระบายข้าวออกนอกประเทศ แบบ “จีทูจี” จนถูกจับได้ไล่ทัน และถูกล้อว่า เป็น “จีทูเจี๊ยะ” หรือ “จีทูเจ๊” เพราะเอาข้าวมาวนอยู่ในประเทศ ไม่ได้มีการส่งออกแต่อย่างใด
และผลจาก “จีทูจี” เก๊ นี่เอง ที่ทำให้ “บุญทรง เตริยาภิรมย์” รมว.พาณิชย์ กับ “ภูมิ สาระผล” รมช.พาณิชย์ ในยุคนั้น รวมทั้งข้าราชการระดับสูง พ่อค้าข้าวหลายราย ต้องติดคุกคนละหลายสิบปี ป่านนี้ยังไม่มีใครได้ออกมาสักคน
มีแต่ “ยิ่งลักษณ์” เจ้าของนโยบาย ที่เผ่นไปเสวยสุขอยู่เมืองนอก ทิ้ง “ขี้” ให้รัฐบาลลุงตู่ ตามล้าง ตามเช็ด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระงบประมาณ ข้าวที่เน่าคาโกดัง ต้องขายเอาไปทำปุ๋ย ทำพลังงาน …
เอาเป็นว่า โครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐบาลงุงตู่ ต้องตามมาใช้หนี้ชาวนา ค่าข้าวเปลือกตามใบประทวน กว่า 8.84 แสนล้าน ยังมีค่าบริหารโครงการ ขององค์การคลังสินค้า (อคส.) องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ค่าภาระดอกเบี้ย ค่าเช่าคลังของเอกชน ในการเก็บรักษาข้าว และค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีก 8.4 หมื่นล้าน รวมค่าใช้จ่าย9.68 แสนล้านบาท
ดังนั้น เมื่อ “ยิ่งลักษณ์” พูดถึงเรื่องสงสารชาวนา ก็ทัวร์ลงขนานใหญ่ เพราะไม่ใช่ว่ายุคยิ่งลักษณ์ แล้วชาวนาจะร่ำรวยกันทุกคนไป ชาวนาถูกโกง เป็นหนี้เป็นสิน ต้องสิ้นเนื้อปะดาตัว จนต้องผูกคอตาย ก็ให้เห็น ให้เป็นข่าว … นอกจากจะทำให้ประเทศชาติเสียหายเกือบล้านล้านแล้ว ยังทำให้พวกพ้องบริวาร ที่รับใช้ ต้องเดือดร้อนไปตามๆ กัน
แน่นอนยอมมีคนแซะว่า ไม่ต้องสงสารชาวนาหรอก เพราะความจริงแล้วควรจะสงสารประเทศไทย กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำไว้ รวมทั้งสงสาร “บุญทรง” กับพวกที่อยู่ในคุกมากกว่า