“แรมโบ้” ยืนยัน นายกฯ ไม่คิดหนีพร้อมชี้แจงซักฟอกในสภาฯ ซัด “หมอชลน่าน” เหมาะสมหรือไม่เอาเวลาแก้ไขปัญหาโควิด-19 มาเป็นประเด็นการเมือง ตอกกลับ “ช่อ พรรณิการ์” คนที่ไม่ทำประโยชน์ หาทางเอาตัวรอดให้ตัวเองพ้นผิด น่าจะเป็นคณะก้าวหน้ามากกว่า
วันนี้ (10 ส.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี เพราะความล้มเหลวบริหารราชการแผ่นดิน ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดย นายเสกสกล ยืนยันว่า นายกฯ ไม่ได้กลัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และพร้อมที่จะชี้แจงในทุกประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องของการใช้งบประมาณที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.สงพรรคเพื่อไทยกล่าวหา
นายเสกสกล มองว่า แม้การยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสามารถทำได้ แต่ก็ขอให้พรรคฝ่ายค้านได้คิดก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะดำเนินการในช่วงนี้ ที่ประเทศชาติกำลังต้องการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่เป็นวิกฤตอยู่ในขณะนี้ ที่นายกฯ และรัฐมนตรี จะต้องเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มเทกับเรื่องนี้ แต่พรรคร่วมฝ่ายค้านกลับมาใช้เวทีสภาฯมาอภิปรายมาโจมตี กล่าวหา นายกฯและรัฐบาล
“ผมมองว่าสิ่งที่ฝ่ายค้านควรทำมากที่สุดในขณะนี้ คือ เอาเวลาไปคิดหาทางช่วยรัฐบาล หรือช่วยเหลือประชาชน ในยามนี้จะดีกว่าในฐานะเป็นผู้แทนที่ประชาชนเลือกเข้ามา ไม่ใช่จะคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง พรรคตัวเอง ว่าจะทำอย่างไรถึงจะได้เข้ามามีอำนาจ ซึ่งผมก็ขอเตือนว่าหากคิดแต่เรื่องเช่นนี้ไม่มีวันสำเร็จได้ แต่หากพรรคฝ่ายค้านทำงานเพื่อประชาชน เพื่อบ้านเมือง ทำให้ประชาชนเห็นในความดีของฝ่ายค้าน ไม่แน่ว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปประชาชนก็อาจจะเลือกเข้ามาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ถ้าคิดแต่เรื่องการเมืองและทอดทิ้งประชาชน อย่าคิดหวังว่าประชาชนจะเลือกกลับเข้ามา”
ส่วนที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า สงสัยถึงการเตรียมออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) จำกัดความรับผิดสำหรับบุคลากรสาธารณสุขในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ได้ชี้แจงไปแล้ว ว่าทำเพื่อผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการการจัดบริการทางการแพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับงานโควิด-19 ซึ่งหากนางสาวพรรณิการ์ มีอคติกับรัฐบาล ตนเองมองว่าชี้แจงในเรื่องใดไปแล้วก็คงจะไม่เข้าใจ และก็จะหาเรื่องโยนใส่นายกฯ ตลอดเวลา พฤติกรรมเช่นนี้ใครก็อ่านทางออก หวังตีกินทางการเมืองเพื่อด้อยค่าคนอื่นเท่านั้น
ขณะที่การบริหารสถานการณ์โควิด-19 ของนายกฯ ยืนยันทำงานกันอย่างเต็มที่ไม่มีใครได้พัก ไม่เคยเอาบุคลากรทางการแพทย์มาบังหน้า หรือประชาชนเป็นตัวประกัน และไม่เคยหาทางเอาตัวรอด พ้นผิดลอยนวล ในทางกลับกันคนอย่าง น.ส.พรรณิการ์ที่ไม่เคยช่วยเหลือใครเลย วันๆ มีแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนคอยหนุนหลังม็อบ 3 นิ้วให้ออกมาเคลื่อนไหวจนประชาชนได้รับความเดือดร้อน เสี่ยงติดโควิด-19 พอแกนนำม็อบถูกจับก็เอาตัวรอดลอยนวล ก็น่าจะเป็น น.ส.พรรณิการ์ กับคนของคณะก้าวหน้านี่ใช่ไหมที่เป็นอีแอบหลังม็อบตลอดเวลา
“คงต้องพึ่งหวังพี่น้องประชาชนช่วยกันสาปแช่งประณามคนเหล่านี้ เพราะทนเห็นพฤติกรรมของคนที่มีอคติต่อรัฐบาล จงเกลียดจงชังรัฐบาล ไม่ยึดโยงเอาประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก จ้องแต่จะเล่นการเมืองในยามวิกฤตที่ประชาชนเดือดร้อน ไม่ห่วงใยให้กำลังใจบุคลากรที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก มีแต่คิดจ้องทำลายขวัญกำลังใจเหยียบย่ำซ้ำเติมกันตลอดเวลา จนผมเองอดนึกในใจไม่ได้ว่า คนเหล่านี้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย มีเลือดเนื้อเชื้อไขหรือเป็นคนไทยหรือเปล่า และผมเองก็เชื่อมั่นว่า คนไทยส่วนใหญ่ก็คงคิดเหมือนกับตนเช่นเดียวกัน” นายเสกสกล กล่าว