ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - เกาเหลา รายการไม่กินเส้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น
แต่ในซีกพรรคฝ่ายค้านเองก็มีเช่นกัน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ที่ขัดแย้งขัดแข้งขัดขากันมาตั้งแต่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่เสียด้วยซ้ำ
ทุกวันนี้น้อยครั้งแล้วที่จะเห็นพรรคเพื่อไทย กับพรรคก้าวไกลเห็นตรงกัน ตรงกันข้ามแทบจะแตกต่างกันทุกเรื่อง มีจุดร่วมเดียวที่บรรจบกันได้คือ เป็นฝ่ายค้านในสภาเหมือนกัน
คำว่า ทีมเวิร์กไม่มีในพรรคฝ่ายค้านนานแล้ว และนี่คือ จุดสำคัญที่ปฏิบัติการคว่ำรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่สามารถทำได้สำเร็จในเวทีสภา
พรรคเพื่อไทยเอง ในฐานะที่เป็นพรรคเบอร์หนึ่ง มี ส.ส.มากที่สุดในสภา พยายามแสดงความเป็นผู้นำ โดยผูกขาดการตัดสินใจในแต่ละเรื่อง ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่ในยุค ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคก้าวไกล ในยุค พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ พยายามสร้างรอยเท้าของตัวเอง ไม่ให้อยู่ในฐานะลูกไล่ของพรรคเพื่อไทย ที่สั่งซ้ายหัน ขวาหันได้
โดยเฉพาะในยุคที่ม็อบสามนิ้วรุ่งเรือง พรรคก้าวไกลพยายามเข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับม็อบ เพื่อผูกยึดกับฐานเสียงสำคัญเหล่านี้ ในฐานะที่มีวัยใกล้เคียงกัน
พรรคเพื่อไทยเองก็รู้ และพยายามเข้าไปเกาะกระแสม็อบอยู่เป็นระยะๆ เพื่อไม่ให้ตกขบวน และถูกพรรคก้าวไกลแย่งชิงการนำมวลชนไป
ย่างก้าวของพรรคก้าวไกลคือ พยายามชูแนวคิดสุดโต่ง ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของม็อบวัยรุ่น เพื่อให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวัยเดียวกัน เป็นพวกเดียวกัน ทั้งที่บางเรื่องรู้อยู่แล้วว่า ไม่สามารถทำได้ก็ตาม
นั่นเพราะพรรคก้าวไกลรู้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่กล้าทำในสิ่งที่พวกเขาทำ ซึ่งมันคือโอกาสในการหาเสียงล่วงหน้าจากกลุ่มคนวัยนี้
และการเงียบของพรรคเพื่อไทยในประเด็นล่มแหลมนี้เอง ทำให้พรรคก้าวไกลยังสามารถใช้จังหวะนี้เหยียบบ่าพรรคเพื่อไทยทางอ้อมให้ตัวเองดูดีได้ด้วยว่า พรรคเพื่อไทยเป็นนักการเมืองรุ่นเก่าเต่าล้านปี ที่ยังใช้วิธีสู้แบบเดิมๆ ที่ไม่มีวันชนะ ต่างจากพวกเขา
เมื่อพรรคก้าวไกลกล้าในสิ่งที่คนอื่นไม่กล้า มันจึงทำให้พรรคก้าวไกลกลายเป็นความหวังของกลุ่มสามนิ้วขึ้นมา แทนที่พรรคเพื่อไทยในอดีต
พรรคก้าวไกลพยายามก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งและตัวแทนของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเผด็จการ และฝ่ายอนุรักษ์นิยม ด้วยการออกตัวเร็วแทนประชาชนฝ่ายนี้เสมอในทุกๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียกร้อง การยื่นประกันตัว ทุกครั้งที่แกนนำม็อบพลาด เพื่อให้ได้ซีนโดยเร็วที่สุดก่อนพรรคเพื่อไทย
ในขณะที่พรรคเพื่อไทยเอง พยายามรักษาความเป็นผู้นำ แต่หลายๆ ครั้งก็ก้าวเท้าช้ากว่าพรรคก้าวไกลเสมอ จนกลายเป็นแค่เพียงคนเกาะขบวน ทั้งที่เป็นพรรคเบอร์หนึ่งของฝ่ายค้าน
การทำงานในสภา พรรคก้าวไกลจะแว้งกัดพรรคเพื่อไทยทุกครั้งที่อีกฝ่ายพลาด หรือตุกติก ยักคิ้วให้ศัตรู โดยเฉพาะการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลมีปัญหากันบ่อยครั้ง เรื่องตัวผู้ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการจัดสรรเวลา
พรรคก้าวไกลมักจะโวยวายเสมอว่า ถูกพรรคเพื่อไทยกลั่นแกล้ง จัดสรรเวลาให้น้อย พร้อมกับแฉทางอ้อมว่า มีความน่าสงสัยเกิดขึ้นระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะประเด็นมวยล้มต้มคนดู
หลังๆ มานี้ การเลือกรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจของทั้งสองพรรคจึงเห็นไม่ค่อยตรงกัน อย่างล่าสุดตอนแรกมีข่าวลือว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่อภิปราย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เพื่อผูกมิตรไว้กรณีเกิดอุบัติเหตุ พลิกขั้วเปลี่ยนข้าง
แต่พรรคก้าวไกล โดยเฉพาะ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับ อนุทิน ในประเด็นวัคซีน ไม่ยอมแน่ และยืนยันว่าพรรคก้าวไกลจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมว.สาธารณสุข
แต่ก็ดูเหมือนพรรคเพื่อไทยจะแก้เกม ด้วยการยื่นอภิปรายไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นสิบๆ คน ซึ่งภายนอกดูเหมือนเตรียมถล่ม เอาให้ล้มกันเป็นใบไม้ร่วง หากแต่ก็ถูกตั้งข้อสังเกตว่า จะเป็นเหมือนครั้งก่อนหรือไม่ ที่คนถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเยอะ จนฝ่ายค้านเหลือเวลาให้ซักฟอกแต่ละคนเพียงแต่ผิวเผิน ไม่สามารถชำแหละลึกกว่านี้ได้ เพราะเวลาจำกัด
ประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ทันสะเด็ดน้ำดี ล่าสุดพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล ระเบิดศึกกันอีกรอบ กรณีที่ประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เสียงข้างมาก ซึ่งประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ รวมถึงพรรคเพื่อไทย เห็นชอบให้นำงบประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท ที่ตัดงบจากส่วนเกินอื่นๆ ได้ ไปไว้ในงบกลาง
ซึ่งพรรคก้าวไกลเป็นเสียงข้างน้อยจาก 6 ใน 7 เสียงที่ไม่เห็นด้วย พร้อมกับออกมาระเบิดใส่พรรคเพื่อไทยว่าไปสมรู้ร่วมคิดกับพรรครัฐบาลหรือไม่ เพราะการให้นำงบประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาทไปไว้ที่งบกลาง เหมือนเป็นการตีเช็กเปล่าให้กับ พล.อ.ประยุทธ์
พรรคเพื่อไทยจึงออกมาเรียงหน้าตอบโต้ว่า เป็นการนำงบประมาณส่วนนี้ไปช่วยโควิด-19 และตำหนิพรรคก้าวไกลที่ออกมาฟาดงวงฟาดงา เอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น ตลอดจนเสียมารยาทในการอยู่ร่วมกัน
ซึ่งมันไม่ใช่ครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยซัดกับพรรคก้าวไกลออกนอกจอ แต่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ต่างอะไรกับพรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทย ที่ขบเหลี่ยมกันบ่อย