วันนี้ (7 ส.ค.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันที่ 7 ส.ค.ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเตรียมการ พกพาอาวุธครบมือ ที่จะก่อจลาจล หวังจะจาบจ้วงสถาบัน แต่ไปไม่ถึงพระบรมมหาราชวัง สุดท้ายก็มาก่อการร้าย ทำลายทรัพย์สินของราชการ มุ่งหวังจะฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ พฤติกรรมชั่วช้าเช่นนี้เกิดขึ้นเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลากคอแกนนำที่ปลุกปั่น ยุยงผู้ชุมนุม ที่อยู่เบื้องหลังมาเข้าคุกให้ได้ ไม่ใช่ปล่อยให้ work from home ปลุกปั่นทางโซเชียลเช่นนี้ คนกลุ่มนี้ถ้ายังปล่อยให้ลอยนวล บ้านเมืองก็จะวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้น เพราะพฤติกรรมแบบโจรก่อการร้ายแบบนี้ จะปล่อยให้อยู่ในสังคมสร้างความพินาศให้กับบ้านเมืองไม่ได้แล้ว สุดท้ายแกนนำไปมุดหัวอยู่ที่ไหน กล้าทำ แต่ไม่กล้ายอมรับ ไร้วุฒิภาวะ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย เมื่อทำผิดก็กลับไม่กล้าติดคุก ติดตาราง ตนไม่ทราบว่า นายเพนกวิน ไม่คิดถึงหนุ่มๆ ในเรือนจำบ้างหรือ
นายสิระ กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่า หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขอเอกสารรับรองเงินเดือน ส.ส.จากสภา เพื่อนำไปเตรียมประกันตัวผู้ต้องหาที่จะออกมาก่อความไม่สงบ ใช่หรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น หมายความว่า นายพิธา รู้ล่วงหน้า ว่าจะเกิดการก่อจลาจล จาบจ้วง หวังล้มล้างสถาบันหรือไม่ ตนขอให้ ส.ส.ทั้งสภาดูพฤติกรรมการปกป้องผู้กระทำผิดต่อสถาบันของนายพิธาด้วย ว่า ยังมีความเหมาะสมที่จะเป็น ส.ส.ต่อไปหรือไม่ ในเมื่อตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.ทุกคนก็ถวายสัตย์ฯ กล่าวคำปฏิญาณ แต่วันนี้กลับเลือกเข้าข้างพวกนิยมใช้ความรุนแรง หรือเป็นเพราะว่า ตัวของนายพิธาเองก็ชอบใช้ความรุนแรง ทำร้ายร่างกายภรรยาจนขอเลิกตามข่าวที่ออกมาใช่หรือไม่ ทั่งนี้ หากนายพิธาใช้เอกสิทธิ์ยื่นประกันผู้ต้องหาจริง ตนจะไปยื่นให้ตรวจสอบจริยธรรมนายพิธา และยื่นยุบพรรคก้าวไกล รวมถึงจะส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สอบสวนว่า มีการเชื่อมโยงกันในก่อการร้ายครั้งนี้หรือไม่ด้วย
“ผมมองว่า ควรยกเลิกเอกสิทธิ์ ส.ส.และ ส.ว.เรื่องการประกันตัวตนเองและบุคคลอื่น เพราะ ส.ส.และ ส.ว.ถือเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น อะไรที่ผิดกฎหมายก็ไม่ควรให้มีการใช้เอกสิทธิ์ดังกล่าวไม่ว่าจะคดีใดๆ ควรจะใช้หลักทรัพย์ส่วนตัวมากกว่า ผมจึงขอเรียกร้องให้สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา พิจารณาตัดเรื่องเอกสิทธิ์นี้ออกไป เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม ส.ส.ไม่ควรเหนือกว่าประชาชน” นายสิระ กล่าว
นายสิระ ยังกล่าวต่อว่า จะยังมีนักสิทธิมนุษยชนคนไหนเสนอหน้าออกมาปกป้องพฤติกรรมชั่วช้าของกลุ่มผู้ชุมนุมอีกหรือไม่ ตนอยากจะเห็นน้ำหน้าของคนพวกนี้จริงๆ จะเอาเหตุผลอะไรออกมากล่าวอ้างกันอีก และได้ทราบหรือไม่ว่า เจตนาในการก่อความวุ่นวายที่พระบรมมหาราชวังวันนี้ ต้องการจะทำเลวอะไรกันบ้าง ตนขอประกาศไว้เลย วันนี้จะไม่ยอมให้องค์กรหรือนักสิทธิบ้าบอหน้าไหนออกมาพูดมั่วๆ แบบไม่รับผิดชอบต่อสังคมอีกต่อไป ใครออกมา ตนก็พร้อมด่าแบบไม่ไว้หน้าเช่นกัน
“วันนี้ผมขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ขั้นตอนการสลายการชุมนุมได้ปฏิบัติตามหลักสากลทุกประการ จนไม่มีผู้ที่เสียชีวิตตามมา แต่ที่อดเห็นใจไม่ได้ คือ บุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำหน้าที่เสียสละ เหน็ดเหนื่อยให้กับคนที่ติดเชื้อโควิด เพื่อช่วยให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤต แต่คนเลวๆ พวกนี้ออกมาซ้ำเติมสถานการณ์โควิด ที่จะเกิดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่กลางเมืองหลวง สร้างปัญหาและเพิ่มงานให้กับหมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนให้หนักขึ้นไปอีก ทั้งๆ ที่วันนี้ทุกคนก็มีงานล้นมืออยู่แล้ว” นายสิระ กล่าว