รองเลขาธิการพรรคพลังธรรมใหม่ ทำนายม็อบ 7 ส.ค.เกิดเหตุรุนแรงแน่ เหตุแกนนำเจตนาร้ายหวังล้มล้างสถาบัน จงใจซ้ำเติมทำบ้านเมือง แนะ ตำรวจทำตาม กม.ได้เต็มที่ เพราะเหมือนจับโจรกลุ่มหนึ่ง
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์ รองเลขาธิการพรรคพลังธรรมใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ เยาวชนปลดแอก-Free YOUTH ปลุกระดมม็อบในวันเสาร์ที่ 7 สิงหาคมนี้ โดยนัดบุกพระบรมมหาราชวังว่า ถ้อยคำที่เยาวชนกลุ่มนี้ นำออกมาโพสต์แสดงให้เห็นชัดแล้วว่า กำลังคิดจะทำอะไรกันอยู่ เหตุผลที่ออกมาก่อความวุ่นวายไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิดหรือการบริหารประเทศของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา แต่เป้าหมายหลักคือ การล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ตนก็เชื่อว่าสถานการณ์ในวันที่ 7 ส.ค.นี้ จะมีความรุนแรงเกิดขึ้น เนื่องจากแกนนำจงใจ และมีเจตนาต้องการก่อความวุ่นวาย ซ้ำเติมทำบ้านเมืองให้วิกฤตหนักกว่าเดิม
“นายพริษฐ์ ชิวารักษ์,นายอานนท์ นำภา และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ล้วนเป็นผู้ต้องหามาตรา 112 มีคดีติดตัวทั้งนั้น มีหลักฐานการแสดงความผิดชัดเจน บรรดาแกนนำหยุดพูดเสียทีว่า เป็นการชุมนุมที่ถูกต้องตามสันติวิธี และหากเกิดการปะทะกันขึ้น กรุณาอย่าโยนความผิดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่าใช้ความรุนแรงละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ดูสิ่งที่พวกคุณกล่าวอ้าง ว่ามันจาบจ้วงเกินเลยไปถึงเพียงใด ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่ ที่ปฎิบัติหน้าที่จริงๆ เพราะทุกคนรู้ดีว่า การชุมนุมทุกครั้งที่ผ่านมา ผู้ร่วมชุมนุมมีเจตนาในการพกพาอาวุธครบมือเพื่อก่อความวุ่นวาย รวมถึงบรรดาแกนนำสามกีบผิดเงื่อนไขการประกันตัว และศาลสามารถเพิกถอนการประกันตัวได้ นี่คือการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่”นายณัฐดนัย กล่าว
นายณัฐดนัย กล่าวต่อว่า ตนขอแนะนำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะวันนี้การกระทำของคนกลุ่มนี้สถานะไม่แตกต่างจากโจร โดยโจรบางคนยังมีสามัญสำนึก รู้ผิดรู้ชั่ว มากกว่า ดังนั้นถ้าอยู่ข้างนอกแบบคนปกติไม่ได้ ก็ควรเข้าไปอยู่ในคุก