xs
xsm
sm
md
lg

หน้าแหกอีก 1 อัตรา “เจี๊ยบ นครปฐม” เห็น AI เฟซบุ๊กเซนเซอร์ภาพรุนแรง รีบงับไปด่า “คุกคามสื่อ” **เจ้าสัวซีพี ขอเวลา 100 วัน ปลูกฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ผลิตยา 30 ล้านแคปซูล แจกฟรี !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว


**หน้าแหกอีก 1 อัตรา “เจี๊ยบ นครปฐม” เห็น AI เฟซบุ๊กเซนเซอร์ภาพรุนแรง รีบงับไปด่า “คุกคามสื่อ”
โชว์ฟอร์มโฉ่งฉ่างคงเส้นคงวาจริงๆ สำหรับ ส.ส.ดีกรีลูกสาวกำนัน “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” หรือ “เจี๊ยบ นครปฐม” แห่งพรรคก้าวไกล ซึ่งมักจะหลุดความเฟอะฟะ ออกมาทางโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ

ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ขณะ “คาร์ม็อบ” กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เจ้าหน้าที่เตรียมจะสลายการชุมนุมบริเวณแยกดินแดง ท่าน ส.ส.หญิงผู้ได้ฉายา “เตี้ย หลังม็อบ” ก็คงอยากจะติดตามดูสถานการณ์แบบเรียลไทม์ เลยคลิกเข้าดูไลฟ์สดในเพจ “The Reporters”

ก็ปรากฏว่า ภาพถูกเบลอเอาไว้ พร้อมกับขึ้นสัญลักษณ์รูปลูกตามีเส้นขีดทับเฉียงๆ 1 เส้น และข้อความว่า “เนื้อหาที่ละเอียดอ่อน วิดีโอนี้อาจมีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนต่อบางคน”

อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล
เท่านั้นล่ะ ท่าน ส.ส.ก็แคปเอาภาพไปโพสต์ในแฟนเพจส่วนตัว “Amarat Chokepamitkul อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ทันที พร้อมข้อความว่า “คุกคามเสรีภาพสื่อมวลชน ปิดกั้นเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน” ลงท้ายด้วยแฮชแท็ก #ม็อบ1สิงหา

ยัง ยังไม่พอ ยังเอาภาพและข้อความเดียวกันไปโพสต์ในทวิตเตอร์ @AmaratJeab พร้อมเพิ่มแฮชแท็ก #หยุดคุกคามสื่อ ต่อท้ายเข้าไปอีก

งานนี้ ผู้คนบนโลกโซเซียลฯ เลยขำกลิ้ง หัวร่องอหายกันไปตามๆกัน

โถ….ท่าน ส.ส.ไม่รู้หรือไง ภาพที่เห็นเบลอๆ พร้อมสัญลักษณ์และข้อความแบบนั้นน่ะ มันคือ “มาตรฐานชุมชนของ Facebook” ที่เขาดำเนินการกับเนื้อหาที่มีความรุนแรง โดยให้ระบบ “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI คอยตรวจจับภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหวที่ถูกโพสต์ขึ้นเฟซบุ๊ก


ถ้ามันเข้าข่ายเป็นรูปภาพ และวิดีโอเนื้อหารุนแรง ก็จะปรากฏคำเตือนแจ้งให้คนดูทราบว่าเนื้อหาอาจไม่เหมาะสม หรือรุนแรงเกินไปสำหรับบางคน และอาจให้ดูได้เฉพาะคนอายุมากกว่า 18 ปีเท่านั้น

ถ้าท่าน ส.ส.มั่นใจว่า ตัวเองอายุเกิน 18 ปี ดูภาพพวกนี้แล้วก็ไม่ส่งผลเสียหายอะไร จะคลิกที่ปุ่ม “ดูวิดีโอ” ก็จะดูได้ เขาไม่ได้ปิดกั้น

หรือถ้ายังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไร ก็คลิกที่ปุ่ม “เรียนรู้เพิ่มเติม” ก็ได้ เขามีคำอธิบายไว้เสร็จสรรพ จะได้ไม่ต้องพลาดปล่อยไก่ทั้งฟาร์มแบบนี้

แต่นี่ คงเพราะมีเป้าหมายในใจที่จะตามล้างตามเช็ด “ลุงตู่” ให้ได้ อะไรนิดอะไรหน่อยที่จะเอามาใช้ประโยชน์ได้ ก็หยิบฉวยเอามาหมด


ยิ่งตอนนี้ มีกระแสที่องค์กรสื่อกำลังไฟต์กับรัฐบาลเรื่องข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด แต่ก็ส่อว่าจะละเมิดสิทธิเสรีภาพสื่อมวลชน “เจี๊ยบ นครปฐม” คงกะจะโหนกระแสประเด็นนี้ พอเห็นภาพเบลอๆ บนเฟซบุ๊ก ไม่ทันดูตาม้า ตาเรือ ก็โดดงับทันที “คุกคามสื่อ ปิดกั้นเสรีภาพรับรู้ข่าวสารของประชาชน”
ผลก็คือ หน้าแหกไปตามระเบียบ ถึงจะรีบลบ แต่ชาวเน็ตแคปทันนะจ๊ะ.



** เจ้าสัวซีพี ขอเวลา 100 วัน ปลูกฟ้าทะลายโจร 100 ไร่ ผลิตยา 30 ล้านแคปซูล แจกฟรี !!
เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า “ยาฟ้าทะลายโจร” สามารถรักษาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้ผล โดยเฉพาะในรายที่ติดเชื้อในระยะเริ่มแรก ติดเชื้อแบบไม่แสดงอาการ เชื้อยังไม่ลงปอด
ยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบันที่เตียงเต็ม โรงพยาบาลสนามล้น การบริหารจัดการผูป่วยที่ติดเชื้อโควิดแบบไม่แสดงอาการ หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย หมอก็จะเป็นต้องแนะนำให้ดูแลตัวเองอยู่ที่บ้าน (Home Isolation) หรือ ดูแลในศูนย์ที่ชุมชนจัดตั้งขึ้น (Community Isolation) ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้ คนไข้จะยังไม่ได้รับยา “ฟาวิพิราเวียร์” ดังนั้น “ยาฟ้าทะลายโจร” จึงเข้ามามีบทบาทมาก แทบทุกครัวเรือน ต้องขวนขวายหายาฟ้าทะลายโจร มาติดตู้ยาไว้เป็นเสมือนยาสามัญประจำบ้านไปแล้ว
ยาฟ้าทะลายโจร จึงขาดตลาด ที่มีก็ราคาแพง และยังเจอผู้ฉกฉวยโอกาส ทำยาที่มีการปลอมปนจนไม่ได้มาตรฐานออกขาย

ธนินท์  เจียรวนนท์
ในการประชุม ครม. เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลจึงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแล บริหารจัดการ “ฟ้าทะลายโจร” อย่างครบวงจร โดยมี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีตัวแทนจากกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมเป็นกรรมการ

แม้รัฐบาลจะเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ก็อย่างที่รู้ๆกัน ว่า “ระบบราชการ” ทำอะไรมักจะไม่ทันเวลา … เพราะชินอยู่กับการตั้งคณะกรรมการเพื่อ “ซื้อเวลา”

แต่เรื่องของโรคระบาด โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์ “เดลตา” ที่กำลังเขย่าขวัญคนทั้งโลกในขณะนี้ มีการแพร่กระจายที่รวดเร็ว การวางแผนรับมือ จะมามัวชักช้า สบายๆ เวิร์กฟรอมโฮม ไม่ต้องทำงานแข่งกับเวลา ไม่ได้

“เจ้าสัวซีพี” ธนินท์ เจียรวนนท์ คนที่สังคมไทยยอมรับว่าเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ มองไกล จับสถานการณ์ได้ไวกว่าคนอื่น และมีความพร้อมที่จะทำตามที่คิด จึงได้ประกาศออกมาว่า “เครือซีพี” จะขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมแก้ปัญหา ความเดือดร้อนของผู้ป่วยโควิด ที่ทุกข์หนักอยู่แล้ว ยังต้องมาเจอปัญหายาฟ้าทะลายโจรขาดแคลน อีก

“เจ้าสัว” สั่งปลูกฟ้าทะลายโจร ในพื้นที่ 100 ไร่ ที่ จ.สระบุรี บอกขอเวลา 100 วันนับจากวันนี้ จะมียาฟ้าทะลายโจร 30 ล้านแคปซูล “แจกฟรี” ให้กับพี่น้องประชาชน และชุมชนต่างๆ โดยจะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่มีความรู้ด้านสมุนไพร และสาธารณสุข เพื่อให้การแจกจ่าย และการรับประทาน เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม

“ฟ้าทะลายโจร” ที่ปลูก จะทำแบบปลอดสารพิษทั้งกระบวนการ ใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และมีคุณภาพ ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ของบุคลากรด้านการเกษตรของเครือซีพี มีพร้อมอยู่แล้ว … ดังนั้น เชื่อมั่นได้ว่า “ฟ้าทะลายโจร” ที่เจ้าสัวตั้งใจผลิตนี้ จะต้องมี “คุณภาพ” แน่นอน

สมศักดิ์ เทพสุทิน
“เจ้าสัว” บอกว่า ในยามวิกฤตแบบนี้ “กำลังใจ” เป็นสิ่งสำคัญที่สุด สิ่งที่ช่วยสู้กับไวรัสโควิด จริงๆ แล้ว คือ “ภูมิคุ้มกันของตัวเราเอง” ซึ่งหากเรามีร่างกาย และกำลังใจที่แข็งแกร่งแล้ว ย่อมผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และเราจะก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยกัน

การประกาศผลิต “ยาฟ้าทะลายโจร” 30 ล้านแคปซูล ใน 100 วัน เพื่อ “แจกฟรี” ประชาชนนั้น ก็ถือเป็นกำลังใจ เป็นประกายแห่งความหวัง ที่ “เจ้าสัว” ได้มอบให้กับสังคมไทย

เหมือนเมื่อครั้งที่ โควิดระบาดในรอบแรก “หน้ากากอนามัย” ขาดแคลนเพราะถูกกักตุน แม้แต่บุคลากรทางการแพทย์ ก็ไม่มีใช้ “เจ้าสัว” ก็ประกาศจะใช้ศักยภาพของเครือข่ายการลงทุนที่มีอยู่ทั่วโลก จัดหาเครื่องจักร และวัตถุดิบที่ได้มาตรฐาน สร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัยให้เสร็จภายใน 5 สัปดาห์ มีกำลังการผลิตเดือนละ 3 ล้านชิ้น เพื่อแจกบุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นด่านหน้า และแจกฟรีแก่พี่น้องชาวไทย ที่กำลังประสบปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลนในขณะนั้น

นี่คือ “เพื่อนในยามยาก” ที่ควรได้รับการปรบมือรัวๆ !!

อีกคนหนึ่ง ที่จะต้องพูดถึงและได้รับการชื่นชม คือ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ที่เชื่อมั่นในการใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาผู้ป่วยโควิด เพราะเห็นผลมาจากการใช้รักษาผู้ต้องขังในเรือนจำ แล้วหายเกือบ100% จึงได้สั่งให้ปลูกในพื้นที่ของราชทัณฑ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งในเดือนต.ค.นี้ จะสามารถเก็บเกี่ยวมาทำยาได้ประมาณ 8 ล้านแคปซูล และในเดือนพ.ย.จะเก็บเกี่ยวมาทำยาได้อีกประมาณ 50 ล้านแคปซูล ซึ่งเชื่อว่าจะเพียงพอสำหรับการใช้ในเรือนจำทั่วประเทศ




กำลังโหลดความคิดเห็น