โฆษก ศบศ.เผย นายกฯ เรียกประชุม ศบศ.พรุ่งนี้ หารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน ส่วนเยียวยาลูกจ้าง-นายจ้าง-ผู้ประกันตน และอาชีพอิสระ คาดต้น ส.ค.เงินเข้าบัญชี
วันนี้ (21 ก.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 (ศบศ.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของมาตรการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาเร่งด่วนผู้ประกอบการนายจ้าง ลูกจ้าง ตลอดจนแรงงานกลุ่มอาชีพอิสระ และพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย 9 ประเภทกิจการ ในพื้นที่ 10 จังหวัด ล่าสุด ครม. ได้อนุมัติกรอบวงเงินสำหรับโครงการเยียวยา ม.33 เพิ่มอีก 10,985.316 ล้านบาท (จากเดิมที่ได้เห็นชอบไปแล้ว 2,519.38 ล้านบาท รวมเป็น 13,504 .696 ล้านบาท) ขณะนี้สำนักงานประกันสังคมได้เปิดให้ผู้ประกอบการรายใหม่และผู้ประกอบอาชีพอิสระ ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 40 ตามลำดับ ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2564 เพื่อได้รับการช่วยเหลือเยียวยาจากภาครัฐ และความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ประกันสังคม โดยขณะนี้ ยอดจำนวนผู้ประกอบการและผู้ประกันตนที่อยู่ในระบบประกันสังคม มาตรา 33 ใน 9 หมวดกิจการ ของพื้นที่ 10 จังหวัด แบ่งเป็นผู้ประกอบการ 161,839 ราย และลูกจ้างมาตรา 33 สัญชาติไทย จำนวน 2,871,592 ราย ที่เข้าสู่ระบบแล้ว ส่วนอีก 3 จังหวัดที่ ศบค.ได้มีประกาศเพิ่มเติม ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และอยุธยา นั้น จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือตามลำดับต่อไป
นายธนกร กล่าวต่อว่า สำหรับการจ่ายเงินเยียวยาลูกจ้าง นายจ้าง และผู้ประกันตนทั้งมาตรา 33, 39 และ 40 ในครั้งนี้ เมื่อสำนักงานประกันสังคมได้รับจัดสรรเงินงบประมาณจากรัฐบาล และตรวจสอบข้อมูลถูกต้องครบถ้วนแล้ว จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับบัตรประชาชน เว้นแต่นายจ้างมาตรา 33 ที่เป็นนิติบุคคลที่เคยผูกบัญชีกับธนาคารเอาไว้แล้ว จะโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ลงทะเบียนไว้ตั้งแต่แรก โดยรายละเอียดการจ่ายเงินให้กับลูกจ้างตามมาตรา 33 กระทรวงแรงงานจะจ่ายเงินกองทุนประกันสังคมเป็นเงินเยียวยา 50% ของเงินเดือน (สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท) โดยโอนเข้าบัญชีให้กับลูกจ้างที่กรอกมาในระบบ E-Service และรัฐบาลจะสมทบเพิ่มเติมอีก 2,500 บาท ผ่านพร้อมเพย์ ส่วนนายจ้างตามมาตรา 33 รัฐบาลจะจ่ายเงินเยียวยาให้นายจ้าง 3,000 บาท ต่อจำนวนลูกจ้างไม่เกิน 200 คน ผ่านพร้อมเพย์ และสำหรับผู้ประกันตนมาตรา 39 และมาตรา 40 จะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล 5,000 บาท โอนเงินผ่านพร้อมเพย์เช่นเดียวกัน ซึ่งคาดว่ากระทรวงแรงงานจะสามารถโอนเงินช่วยเหลือรอบแรกได้ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้
นายธนกร กล่าวอีกว่า ผู้ที่มีอาชีพอิสระ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปี แต่ไม่เกิน 65 ปี ที่ยังไม่เคยเข้าระบบประกันสังคมมาก่อน สามารถลงทะเบียนมาตรา 40 เพื่อรับการช่วยเหลือและความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคม ได้ง่ายขึ้น เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวสมัครผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บิ๊กซี (Big C) หรือสมัครด้วยตนเองที่ www.sso.go.th โดยสามารถเลือกการจ่ายเงินสมทบเพื่อได้รับความคุ้มครองที่ต่างกันใน 3 ทางเลือก คือ จ่าย 70 บาท จ่าย 100 บาท และจ่าย 300 บาท ต่อเดือน ซึ่งจะได้รับความคุ้มครองทันทีเมื่อชำระเงินงวดแรก ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จึงสั่งการให้เร่งช่วยเหลือโดยเร่งด่วน และในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค. 64) นายกฯ จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ครั้งที่ 3/2564 เพื่อหารือสถานการณ์เศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน รวมไปถึงมาตรการเยียวยาต่างๆ ด้วย