ป.ป.ช. แจ้งมหาดไทย พบข้อพิรุธ! อบจ.หลายพื้นที่ ขาดนำส่ง “ค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ. จากผู้พักโรงแรม” กว่า 10 ปี คาดเสียหายร่วม 100 ล้านบาท “ปลัดฉิ่ง” สั่งผู้ว่าฯ-อบจ. เข้มกฎหมาย “ผู้ควบคุมโรงแรม” หลังพบไม่ปฏิบัติ “เรียกเก็บภาษี” ตามข้อบัญญัติฯ เผย ป.ป.ช. พบ “อบจ.” หลายแห่ง ละเว้นเปรียบเทียบปรับคดีละเมิดข้อบัญญัติฯ ตามอำนาจหน้าที่ทำภาษีรัฐรั่วไหล ด้าน “รัฐบาล-อบจ.” เพิ่งออกฎกระทรวง “งด” เก็บภาษีโรงแรม จากผู้เข้าพักโรงแรมทั้งหมด
วันนี้ (19 ก.ค. 64) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อแจ้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทั่วประเทศ ให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากผู้พักโรงแรม
โดยที่ผ่านมา สำนักงาน ป.ป.ช. ระบุว่า ได้ดำเนินการศึกษาข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ. จากผู้พักโรงแรม โดยข้อเท็จจริง พบว่า การนำส่งค่าธรรมเนียมของผู้พักโรงแรมเป็นเวลากว่า 10 ปี ซึ่งเมื่อประมวลเป็นตัวเงินมีมูลค่าความเสียหายร่วม 100 ล้านบาท
หนังสือของ ป.ป.ช. ระบุว่า กรณีที่ผู้ควบคุมและจัดการโรงแรมไม่ปฏิบัติตามข้อบัญญัติ อบจ.จากผู้พักโรงแรม นั้น เนื่องจาก อบจ. ไม่ดำเนินการเปรียบเทียบปรับคดีละเมิดข้อบัญญัติฯ ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ โดยเฉพาะในการบริหารงานของ อบจ. เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว
การที่ไม่สามารถบังคับใช้ข้อบัญญัติ อบจ. เพื่อจัดเก็บค่าธรรมเนียมได้อย่างเคร่งครัด นั้น ถือว่า เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในทางบริหารหรือทางการปกครองของ อบจ.ที่ต้องพิจารณา กำหนดมาตรการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ละเมิดข้อบัญญัติอบจ. อย่างเคร่งครัด
“คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงเห็นชอบให้แจ้งประสานงานมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าว และพิจารณาแจ้งเวียนหนังสือกำชับไปยังหน่วยงานในสังกัดให้บังคับใช้กฎหมาย กับผู้ละเมิดข้อบัญญัติ อบจ. จากผู้พักในโรงแรมอย่างเคร่งครัด”
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการร้องเรียนการบังคับใช้กฎหมายของ อปท. และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาวการณ์ป้จจุบัน รวมถึงป้องกันมิให้ภาษีของรัฐรั่วไหลต่อไป
ล่าสุด นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือผ่านกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ อบจ.ทุกแห่ง ดำเนินการตรวจสอบเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย ป้องกันการร้องเรียน การบังคับใช้กฎหมายของ อบจ. และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บรายได้ของ อปท. โดยเฉพาะ จากผู้เข้าพักในโรงแรมอย่างเคร่งครัด
สำหรับ ค่าธรรมเนียมบำรุง อบจ. ของผู้เข้าพักในโรงแรมมีหน้าที่เสียค่าธรรมเนียมให้แก่ อบจ. ในอัตราร้อยละ 1.0 ของค่าเช่าห้องพักโดยให้ผู้ควบคุม และจัดการโรงแรมเรียกเก็บจากผู้พักแทน อบจ.
ให้ผู้ควบคุมและจัดการโรงแรมนำส่งเงินค่าธรรมเนียม ณ สำนักงานของ อบจ. ภายในวันที่ 10 ของเดือนถัดไปพร้อมบัญชีผู้พักและรายละเอียดค่าธรรมเนียมเรียกเก็บ
โดยผู้พักใดไม่เสียค่าธรรมเนียม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ควบคุมและจัดการโรงแรมผู้ใดไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ควบคุมและจัดการโรงแรมผู้ใดไม่นำส่งค่าธรรมเนียมต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ใดแจ้งความเท็จให้ถ้อยคำอันเป็นเท็จ หรือนำพยานหลักฐานเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
เมื่อปีที่แล้ว 2563 คณะรัฐมนตรี เพิ่งอนุมัติยกเว้นค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมปีละ 40 บาทต่อห้องพัก เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ลดค่าใช้จ่ายในการประกอบการช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19
สืบเนื่องจากการประกาศพระราชกำหนดการบริการราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ เนื่องจากไม่มีผู้เข้าพักภายในโรงแรม
กระทรวงมหาดไทย ได้ออกกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2563 โดยให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมปีละ 40 บาทต่อห้องพัก ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 - 30 มิถุนายน 2564 ช่วยบรรเทาความเดือดร้อน
เป็นลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่จะต้องชำระค่าธรรมเนียมประกอบธุรกิจโรงแรมในช่วงสถานการณ์ โควิด-19
“โดยหวังให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม ยังคงสามารถประกอบธุรกิจต่อไป ทั้งนี้ ได้มีการประเมินว่า รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 31,354,200 บาทต่อปี จากจำนวนห้องพักของโรงแรม 783,855 ห้อง ในปี 2562”
ขณะที่ อบจ.หลายแห่ง ออกประกาศ งดการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษีโรงแรม จากผู้เข้าพักโรงแรมทั้งหมด
