ผอ.ศปก.ศบค. เผย เร่งแก้ปัญหาผู้ป่วยโควิดรอเตียงนาน “ประยุทธ์” สั่งตั้งศูนย์พักคอย 1 เขต 1 ศูนย์ใน กทม. เชื่อสถานการณ์ดีขึ้น จ่อขยายคู่สายประสานรักษา
วันนี้ (19 ก.ค.) เวลา 16.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ผอ.ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ผ่านทางเพจไทยคู่ฟ้า ถึงกรณีการแก้ปัญหาผู้ป่วยโควิด-19 ตกค้างอยู่บ้านและรอเตียงนาน ศบค.มีการแก้ไขเรื่องนี้หรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยเรื่องดังกล่าวและได้สอบถามกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพฯ และตน ว่า เรามีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร โดยในชั้นต้นจะต้องเร่งคัดกรองตรวจหาผู้คัดกรองให้เป็นระบบ หลังจากนั้น เข้าสู่ระบบแยกกับตัวที่บ้าน (home isolation) โดยนายกรัฐมนตรีสั่งการว่า ให้จัดการระบบดังกล่าวให้สมบูรณ์โดยเร็ว ในขณะที่ระบบยังไม่สมบูรณ์ให้จัดตั้งศูนย์พักคอยการส่งต่อ โดยเฉพาะอย่างเช่นในกรุงเทพฯมี 50 เขต ปัจจุบันมี 20 เขต โดยนายกฯเร่งรัดให้ทุกเขตจัดตั้งศูนย์พักคอยอย่างน้อยศูนย์ละ 1 แห่ง เมื่อผู้ที่ติดเชื้อต้องการสถานพยาบาล หรือต้องการเตียงเมื่อไม่สามารถอยู่เนี่ยในมาตรการกักตัวที่บ้านได้สามารถไปติดต่อที่ศูนย์พักคอย ซึ่งสามารถติดต่อไปที่สำนักงานเขตในพื้นที่ที่ตนอยู่ได้ โดยไม่จำเป็นต้องพักคอยอยู่ที่บ้าน ให้อยู่ในศูนย์พักคอย เพื่อรอการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสนาม คาดว่า ถ้าทุกส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการคาดว่าสถานการณ์การขาดแคลนเตียงน่าจะดีขึ้น แต่อาจจะไม่ได้ในทันที แต่ ศปก.ศบค.จะติดตามและแก้ไข ทั้งนี้ ผู้ว่าฯ กรุงเทพฯ ระบุว่า อย่างน้อยภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนพักคอยต่างๆ ในแต่ละเขตจะต้องมีอย่างน้อย 1 แห่ง
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า สำหรับเบอร์ติดต่อเพื่อเข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีจำนวนหลายเบอร์ จะมีแนวทางรวมเป็นหนึ่งเบอร์และมีหลายคู่สายได้หรือไม่นั้น ต้องขอความเห็นใจว่าที่มีเบอร์โทรศัพท์หลายเบอร์ไม่ใช่มีหน่วยงานเดียว ซึ่งแต่ละหน่วยงานมาร่วมมือกันพยายามที่จะขยายคู่สายให้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่เพียงพอ จึงต้องขออภัยประชาชน แต่การแก้ปัญหาคือจะขยายไปที่เขตหรือในจังหวัดในพื้นที่อำเภอทำนั้น จำนวนเบอร์โทรศัพท์ยังคงเดิม แต่ขยายคู่สายให้เพิ่มมากขึ้น คาดว่า จะทำให้ปัญหาดังกล่าวคลี่คลายได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะจากมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้น ซึ่งขอบคุณประชาชนที่ร่วมมือมาเป็นอย่างดี สถานการณ์จะคลี่คลาย แต่ขอให้เข้มงวดอีก 14 วันนี้ เพื่อให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิผลและจะได้มีการผ่อนคลายมาตรการต่อไป