โฆษก กมธ.งบฯ 65 จี้ รัฐหาวัคซีนโควิดให้ นร. 7 ล้านคน “ผู้ว่าฯ ณรงค์” เดินหน้าทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้เป็นรูปธรรม โชว์ยอดจองห้อง 1.7 แสนในเดือนเดียว พท.ไล่บี้ ทร.แจงรายรับนอกงบฯค่าไฟเขต อ.สัตหีบ
วันนี้ (19 ก.ค.) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ร่วมแถลงข่าวชี้แจงผลการประชุม โดย น.ส.ธีรรัตน์ กล่าวถึงผลการประชุมกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2565 ว่า ปัจจุบันประชุมไปแล้ว 25 วัน รวม 220 ชั่วโมง พิจารณาไปแล้ว 17 กระทรวง 18 กองทุน คิดเป็น 75.6 เปอร์เซ็นต์ ของวงเงินงบประมาณ เมื่อวันที่ 16 ก.ค.พิจารณาในส่วนกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมกรรมาธิการสอบถาม สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายพัฒนาเด็กปฐมวัย ที่มี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธาน ถึงการป้องกันครูและนักเรียนจากเชื้อโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่เพราะเป็นห่วงนักเรียน 7 ล้านคน ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน ได้รับคำตอบว่า จะประสานกระทรวงสาธารณสุขเพื่อจัดหาวัคซีนโควิดที่เหมาะสมกับเด็กปฐมวัย ที่สามารถฉีดให้เด็กปฐมวัยถึงเด็ก 18 ปี โดยหน่วยงานที่จะร่วมมือ มีกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพัฒนาสังคมฯ
ซึ่งการประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ 17 ก.ค.มีการพิจารณางบประมาณในส่วนจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวม 94 หน่วยงาน 76 จังหวัด 18 กลุ่มจังหวัด งบฯ 17,411,012,300 บาท พิจารณาในส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 301 หน่วยงาน จาก 303 หน่วยงาน งบประมาณรวม 78,305,050,700 บาท ยังไม่ได้พิจารณาในส่วนของ กทม.และเมืองพัทยา โดยเฉพาะในส่วนจังหัวดภูเก็ต ที่ประชุมได้สอบถามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่ามีผลตอบรับอย่างไร เพราะถือว่าเป็นการนำร่องในการเปิดประเทศ ในการนำรายได้หลักจากการท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดย นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ชี้แจงว่า ภูเก็ตมีรายได้ 90 เปอร์เซ็นต์ จากการท่องเที่ยว เมื่อโควิดระบาด ทำให้รายได้ตรงนี้หายไป ทำให้ชาวภูเก็ตเดือดร้อนแสนสาหัส คนภูเก็ต จนฉับพลัน จึงยืนยันจะทำโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ให้เป็นรูปธรรม ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าว่า เศรษฐกิจจะต้องได้รับการฟื้นฟูไปพร้อมกับการป้องกันการระบาดโควิด ตั้งแต่ดำเนินโครงการมา 16 วัน มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 6,581 คน มียอดจอดห้องพักในเดือน ก.ค. 178,061 ห้อง คิดเป็น 82 เปอร์เซ็นต์ของยอดจองใน 3 เดือน คือ ก.ค.- ก.ย. ถือว่า ภูเก็ตจะเปลี่ยนแปลงวิกฤตเป็นโอกาส ในการนำรายได้เข้าสู่ประเทศ
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า แม้จะมีการถอนเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือไปแล้ว แต่ยังมีข้อสังเกตรายได้นอกงบประมาณของกองทัพเรือ สังคมไม่ทราบว่า ใน อ.สัตหีบ เป็น อ.เดียวในประเทศไทย ที่ใช้ไฟฟ้าจากกองทัพเรือ มีโรงไฟฟ้าผลิตไฟฟ้าเองมาแต่เดิมเกือบ 100 ปี ซึ่งเป็นผลพวงจากกฎหมายเก่า ปัจจุบันบ้านเรือน รีสอร์ต โรงแรม ที่อยู่ใน อ.สัตหีบ ยังคงใช้ไฟฟ้าจากกรมสวัสดิการกองทัพเรือ ไม่ได้ใช้จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ในอดีตเป็นการใช้ไฟฟ้าแค่ในกองทัพ ต่อมามีการลากสายออกมาจากกองทัพ มาให้บริการถึงประชาชนภายนอก ตรงนี้ ผบ.ทร.ไม่ได้ชี้แจงรายละเอียด ตรงนี้ถือว่าเป็นรายรับนอกงบประมาณกองทัพเรือหรือไม่ ขณะเดียวกัน ยังได้สอบถามไปยังสัมปทานเหมืองแร่ และบ้านพักตากอากาศบนยอดเขาด้วย