อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ส่งทนายความแจ้งความ “จิรายุ ห่วงทรัพย์” ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ตามคำท้า ที่ สถานีตำรวจภูธรสายบุรี จ.ปัตตานี ข้อหา “หมิ่นประมาท”
วันนี้ (13 ก.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรสายบุรี จ.ปัตตานี นายยูนัยดี อาชง อายุ 35 ปีทนายความ รับมอบหมายจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เข้าร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ อายุ 52 ปี ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในข้อหา “หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา” โดยมี พ.ต.ท.อรุณ เติมพร้อม พนักงานสอบสวน รับแจ้งความ นอกจากนี้ จะมีการยื่นสอบจริยธรรมกับ ปปช.ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายจิรายุ ได้แถลงข่าวที่รัฐสภา ท้าอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ฟ้องกรณีข้อพิพาทในคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565
ขณะที่นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง สั่งการให้ฝ่ายเลขานำบันทึกการสนทนาชวเลขและขอเทปบันทึกภาพการประชุมมารายงาน เพื่อตรวจสอบหลังนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ระบุว่าถูกอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลข่มขู่ขณะพิจารณาตัดงบประมาณ
ขณะที่แหล่งข่าวจากที่ประชุมกรรมาธิการในวันดังกล่าว ระบุถึงบรรยากาศการประชุมวันนั้นว่า น่าจะมีการเล่นใหญ่ เนื่องจาก อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลชี้แจง ถึงการงบถูกตัดงบประมาณว่าอาจจะกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะเป็นเงินค่าน้ำค่าไฟ ค่าเบี้ยเลี้ยง คนทำงานสำรวจน้ำบาดาลและไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด นอกจากนี้ ยังได้ย้อนอธิบายไปในปีที่แล้วว่า ยอมตัดงบประมาณไป 10% ของงบประมาณ คือ 4 ล้านบาท เนื่องจากมีเหตุการณ์เรื่องกรรมาธิการตบทรัพย์ 5 ล้านบาท จึงยอมให้ตัดไป แต่ก็จำเรื่องนั้นจนวันตาย เพราะเจ้าหน้าที่ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลต่อว่า งบประมาณที่ถูกตัดไปเป็นค่าน้ำค่าไฟ ค่ายาม ค่าถ่ายเอกสาร ค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ และค่าจ้างยาม ถือว่าโหดร้าย กับคนทำงาน ซึ่งไม่น่าจะเป็นเรื่องข่มขู่ตามที่กล่าวอ้างมา