นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เก็บตัวอย่างดินและน้ำรอบโรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด มาตรวจสอบคุณภาพน้ำและสารพิษ สารเคมีปนเปื้อนไปแล้ว หลังประชาชนมีความกังวลใจและสอบถามเรื่องคุณภาพน้ำบาดาลหลังเกิดเหตุไฟไหม้ สามารถใช้อุปโภค-บริโภคได้หรือไม่ จากการตรวจสอบสภาพพื้นที่เบื้องต้นเรื่องคุณภาพน้ำบาดาลไม่น่ามีปัญหา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะดินเหนียวบริเวณนั้นหนามากกว่า 20 เมตร ถือเป็นป้อมปราการอย่างดีในการป้องกันการซึมลงสู่ชั้นน้ำบาดาล และสารเคมีจะเคลื่อนที่ได้ช้ามาก หรือดูดซับไว้ไม่ให้ผ่านลงไปถึงชั้นน้ำระดับลึกได้ โดยบ่อน้ำบาดาลที่ขุดเจาะเพื่อใช้น้ำลึกมากกว่า 150 เมตร
สารสไตรีนโมโนเมอร์ เป็นสารอินทรีย์ระเหยง่าย ชนิดเบา มีความหนาแน่นน้อยกว่าน้ำและละลายน้ำได้น้อย โดยไม่ผสมเป็นเนื้อเดียวกับน้ำ และจะลอยอยู่บนผิวน้ำมีค่าครึ่งชีวิต 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาวะออกซิเจนและแบคทีเรีย ดังนั้น สารเคมีจะระเหยขึ้นไปในอากาศมากกว่าที่จะซึมลงดิน แต่เพื่อความสบายใจของประชาชน จึงส่งทีมเจ้าหน้าที่นักธรณีวิทยาและนักวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างดิน น้ำผิวดิน และน้ำบาดาลจากบ่อสังเกตการณ์ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล บ่อน้ำของประชาชน และโรงงานเอกชนในพื้นที่รัศมี 15 กิโลเมตรรอบโรงงานอีกครั้ง รวม 72 ตัวอย่าง เพื่อมาตรวจวิเคราะห์คุณลักษณะทางด้านกายภาพและเคมี สารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว สารหนู และสารอินทรีย์ระเหยง่ายที่สัมพันธ์กับสารสไตรีนโมโนเมอร์ หากผลวิเคราะห์คุณภาพน้ำบาดาลออกมาจะแจ้งให้ประชาชนรับทราบต่อไป คาดว่าจะรู้ผลสัปดาห์หน้า