เลขาฯ มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ แนะคนไทยใช้สติให้ความยุติธรรม “ซิโนแวค” หลังสังคมมีอคติเกินจริง ชี้ หากไม่ฉีดช่วงที่ผ่านมา อาจมีบุคลากรทางการแพทย์ และ ปชช.ตายมากกว่านี้
วันนี้ (18 ก.ค.) ศาสตราจารย์นายแพทย์ ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้ทวีตหัวข้อ “ให้ความจริงและความเป็นธรรมกับวัคซีนซิโนแวค” โดยมีเนื้อหาดังต่อไปนี้
ผมคิดว่าจะไม่เขียนเรื่องวัคซีนโควิด-19 แล้วเชียว เพราะมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากสื่อสารกับสังคมตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่เมื่อคืนก็ยังมีคนโทร.มาปรึกษา ว่าจะได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวค ควรจะไปฉีดหรือ “ควรรอวัคซีนที่ดีกว่านี้”
ผมจึงขอแสดงความคิดเห็นที่อาจจะเป็นประโยชน์ โดยเฉพาะ “ให้ความจริง และความเป็นธรรมกับวัคซีนซิโนแวค” รวมทั้งให้ความสบายใจกับคนที่ได้รับการฉีด หรือกำลังจะได้รับการซิโนแวคในอนาคต
ผมเป็นแพทย์โรคทางเดินหายใจ แต่ด้วยอายุมาก จึงไม่ได้เป็นแพทย์ ”ด่านหน้า” ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 แต่ผมก็ติดตามการทำงานงานของลูกศิษย์ โดยเฉพาะหมอทางโรคปอดด้วยความเป็นห่วง เพราะลำบากสาหัสทั้งคนไข้ และทีมแพทย์ พยาบาล ที่ดูแลผู้ป่วย โควิด-19 อาการหนักในไอซียู
ในภาวะวิกฤตที่สังคมไทยกำลังเผชิญ ผมพยายามช่วยสิ่งที่จะลดจำนวนคนไข้ที่จะติดโควิด-19 ด้วยการเชียร์ให้คนไปฉีดวัคซีน ผมเองได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเมื่อปลายเดือน มี.ค.ตามเกณฑ์สำหรับคนอายุมากกว่า 60 ปี
ผมรู้สึกว่า คนในสังคมไม่น้อย มีอคติกับวัคซีนซิโนแวคมาก อย่างไม่ได้สัดส่วนกับความเป็นจริง ถึงขนาดบอกว่า เป็นวัคซีนประสิทธิภาพตำ่ ไม่อยากรับ คนได้รับแล้วก็เสียดายที่ได้วัคซีนนี้
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวว่า จนถึงวันที่ 10 ก.ค. มีบุคลากรทางการแพทย์ได้รับการฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้ว เกือบ 700,000 ราย มีคนที่ติดเชื้อโควิด-19 รวม 880 ราย
ในจำนวนนี้เสียชีวิต 7 ราย
- 5 ราย ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีน
- 1 ราย ได้รับการฉีดซิโนแวค 1 เข็ม
- 1 ราย ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม
นั่นหมายความว่า เสียชีวิต 1 ราย จากจำนวนคนที่ได้รับการฉีดครบ 2 เข็ม เกือบ 7 แสนคน
นพ.โสภณ ยังให้ข้อมูลที่เปิดเผยโดยศูนย์ควบคุมโรค CDC สหรัฐอเมริกา ว่า จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มีคนอเมริกาที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เสียชีวิต 750 ราย โดยที่อเมริกาใช้แต่วัคซีน mRNA เกือบทั้งหมด นั่นคือ คนที่ฉีดซิโนแวค หรือคนที่ฉีดวัคซีน mRNA ก็มีการเสียชีวิตเหมือนกัน
ที่สรุปกันตอนนี้คือ วัคซีนทุกชนิด ลดการป่วยหนักและเสียชีวิต แม้ว่าจะไม่ 100% และวัคซีนซิโนแวคจะป้องกันการติดเชื้อ/แพร่เชื้อได้น้อยกว่าวัคซีนที่ทำด้วยเทคนิคแบบใหม่
จะไม่พูดถึงการเมืองเรื่องการจัดหาวัคซีน เพราะมีคนพูดกันมากอยู่แล้ว
แต่อยากให้ลองคิดว่า หากในช่วงเวลาที่ผ่านมา หากประเทศไทยไม่ได้มีวัคซีนซิโนแวค ฉีดให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนอื่นๆ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งประชากรกลุ่มอื่นๆ จะเป็นอย่างไร จะมีคนตายมากกว่านี้อีกเท่าไร
ลองคิดดูว่าวัคซีนที่เราจะมีโอกาสได้มาใช้ในจำนวนที่มากพอและเร็วที่สุด คือ แอสตร้าเซนเนก้า เราหามาได้เร็วและมากเท่าซิโนแวคที่เราใช้ไปแล้วหรือไม่ ไม่ต้องพูดถึงว่าวัคซีนพวก mRNA เราจะได้มาเมื่อไร และเท่าไร
เราจึงควรให้ความยุติธรรม และยอมรับคุณค่ากับสิ่งที่วัคซีนซิโนแวคได้ทำประโยชน์แก่สังคมไทยส่วนรวมไปแล้ว ในสภาพการณ์และสถานการณ์จริงในช่วงเวลานั้นๆ
ส่วนเมื่อสถานการณ์การระบาดของโรคเปลี่ยนไป เชื้อโรคมีการกลายพันธุ์ ทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนเปลี่ยนไป วัคซีนที่เหมาะสมในสถานการณ์ใหม่ จะเป็นตัวไหนอย่างไร เป็นเรื่องที่เราต้องว่ากันไปตามเหตุและผล เพื่อแสดงถึงวุฒิภาวะของสังคมไทยว่า เราใช้สติ ไม่ใช่เพียงอคติในการวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมไทย