ศบค. เผย ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 6,519 ราย กทม. ยังอันดับ 1 ติดเชื้อและเสียชีวิตสูง ภาคอีสาน กทม. และปริมณฑล พบสายพันธุ์เดลตาเป็นส่วนใหญ่ ผู้ป่วยทุกระดับสีใน กทม. ยังมีรอเตียง รับการรักษาหลายราย ระบุความสามารถในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยขณะนี้ราว 500 เที่ยวต่อวัน ส่วนในต่างจังหวัดยังพบคลัสเตอร์ใหม่เพิ่ม โรงงานสัปปะรดหัวหิน คลัสเตอร์ติดเชื้อใหม่เพิ่ม 220 ราย
วันนี้ (7 ก.ค.) เวลา 12.30 น. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,519 ราย โดยแบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 6,464 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 55 ราย พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 301,172 ราย รักษาหายป่วยเพิ่ม 4,148 ราย สะสม 231,171 ราย กำลังรักษาอยู่ 67,614 ราย แบ่งเป็นรักษาในโรงพยาบาล 33,991 ราย และโรงพยาบาลสนาม 33,623 ราย เป็นผู้ป่วยอาการหนัก 2,496 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 676 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 54 ราย รวมเสียชีวิต 2,387 คน
ผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ 6,519 ราย เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 4,958 ราย จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,490 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 55 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine 16 ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตทั้ง 54 ราย ชาย 32 ราย หญิง 22 ราย กทม. 30 ราย ปัตตานี 4 ราย สมุทรปราการ ปทุมธานี จังหวัดละ 3 ราย นครราชสีมา ยะลา สมุทรสาคร จังหวัดละ 2 ราย เชียงราย เพชรบุรี ชลบุรี นครปฐม ชัยภูมิ นราธิวาส นครศรีธรรมราช พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย โรคประจำตัวยังเป็นปัจจัยเสี่ยง มากสุดความดันโลหิตสูง เบาหวาน มี 4 รายที่ไม่มีโรคประจำตัว อายุค่ากลาง 69 ปี อายุน้อยสุด 26 ปี อายุมากสุด 89 ปี เป็นชาวไทย 49 ราย เมียนมา 3 ราย ลาว 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย
สำหรับผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ยังคงพบผู้ที่ลักลอบเข้ามาในประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติ 1 ราย โดยเดินทางมาจากกัมพูชา ทางจ.จันทบุรี
แนวโน้มทั้งในประเทศขณะนี้พบผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดมากขึ้น ใน กทม. และปริมณฑลมีแนวโน้มทรงตัว (แต่ยังสูง) โดยอยู่ในอัตราส่วน 50:50 สะท้อนการเดินทางข้ามพื้นที่ และมีการพบเชื้อใน 40 จังหวัด โดยเฉพาะในภาคอีสาน กทม. และปริมณฑล พบสายพันธุ์เดลตาเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งก็จะกระจายต่อไปต่างจังหวัดด้วย ในต่างประเทศ มีอัตราการพบเชื้อสายพันธุ์เดลตา เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทั้งในผู้ที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว ทั้ง 1 และ 2 เข็ม อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีเพียง 8% ที่มีอาการหนัก เน้นย้ำ เชื้อสายพันธุ์เดลตา กระจายได้เร็ว การรักษามาตรการป้องกันส่วนบุคคล และการรับวัคซีน
ส่วนสถานการณ์ใน กทม. และปริมณฑล ยังคงอยู่ในระดับที่สูง กทม. พบคลัสเตอร์ใหม่ 2 แห่ง คือ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ เขตมีนบุรี และโรงงานจิวเวลรี่ เขตบางนา รวมทั้งหมดที่ กทม. เฝ้าระวังอยู่ 118 คลัสเตอร์ โดยใน กทม. ขณะนี้มีผู้ป่วยรอเตียงระดับสีแดงราว 40-50 ราย/วัน สีเหลือง 200-300 ราย/วัน ความสามารถในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในขณะนี้ราว 500 เที่ยวต่อวัน (ทุกระดับสี) ข้อจำกัดในขณะนี้คือ จำนวนเตียง, จำนวนการขนย้ายผู้ป่วย เตรียมเพิ่มอัตราการส่งต่อผู้ป่วยให้กับผู้ป่วยระดับแดง และเหลืองเข้ม เป็นหลัก ผู้ป่วยอาการเบา จะส่งต่อไปยังศูนย์พักคอยที่ตอนนี้มีเปิดแล้ว ซึ่งสถานะตอนนี้เตียงมีจำกัด กันไว้ให้ผู้ป่วยระดับแดง/เหลืองเป็นหลัก เตรียมขยายเตียง รพ.สนามระดับสูง ที่สนามบินสุวรรณภูมิ (อาคารสนามบินสุวรรณภูมิ SAT1 ) ราว 5 พันเตียง คาดเปิดได้ ส.ค. นี้
สำหรับการทำ Home Isolation มีข้อจำกัดพอสมควร จึงจะประเมินผู้ป่วยแต่ละรายตามความเหมาะสม เนื่องจากการทำ Home Isolation ต้องประเมินความพร้อมผู้ป่วย เช่น การกักตัว, การแยกตัวจากคนในบ้าน, การตรวจวัด-เช็กอาการต่างๆ, พฤติกรรมของผู้ป่วย (เช่นการสูบบุหรี่, การป่วยอื่นๆ) ทำให้จำเป็นต้องมีการประเมินความพร้อม และอนุญาตเป็นรายกรณีไป
10 อันดับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ วันที่ 7 ก.ค. 2564 คือ 1. กรุงเทพมหานคร 1,549 ราย 2. สมุทรปราการ 548 ราย 3. สมุทรสาคร 434 ราย 4. นครปฐม 266 ราย 5. ชลบุรี 262 ราย 6. ฉะเชิงเทรา 252 ราย 7. ประจวบคีรีขันธ์ 241 ราย 8. นนทบุรี 235 ราย 9. ปทุมธานี 212 ราย 10. ปัตตานี 190 ราย
ส่วนจังหวัดอื่นๆ ยังมีการพบคลัสเตอร์ใหม่
- นนทบุรี พบคลัสเตอร์ใหม่ ในโรงงานน้ำจิ้ม อ.บางบัวทอง ติดเชื้อแล้ว 61 ราย
- ปทุมธานี พบคลัสเตอร์ใหม่โรงพยาบาลเอกชน อ.คลองหลวง
- ตาก พบคลัสเตอร์ใหม่ โรงงานพืชไร่ อ.แม่สอด
ทั้งนี้ หลายจังหวัดที่เหลือยังคงพบการติดเชื้อเพิ่มเติมในคลัสเตอร์เดิม ที่พบต่อเนื่อง อย่างประตวบคีรีขันธ์ คลัสเตอร์โรงงานสัปปะรด อ.หัวหิน ติดเชื้อเพิ่ม 220 ราย
ขณะที่ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ระลอกเดือนเมษายน เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย. 64 เป็นต้นมา พบผู้ติดเชื้อแล้ว 272,309 ราย หายป่วยสะสม 203,745 ราย เสียชีวิตสะสม 2,293 ราย
สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ทั่วโลก วันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564 เวลา 10.00 น. ยอดผู้ติดเชื้อรวม 185,381,383 ราย อาการรุนแรง 77,694 ราย รักษาหายแล้ว 169,720,398 ราย เสียชีวิต 4,008,981 ราย
อันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด
1. สหรัฐอเมริกา จำนวน 34,622,690 ราย
2. อินเดีย จำนวน 30,662,896 ราย
3. บราซิล จำนวน 18,855,015 ราย
4. ฝรั่งเศส จำนวน 5,790,584 ราย
5. รัสเซีย จำนวน 5,658,672 ราย
ประเทศไทย อยู่ในอันดับที่ 64 จำนวน 301,172 ราย
