“หมอระวี” จี้ถามรัฐบาลแทนคนไทย 3.2 ล้านคน จะฉีดเข็ม 3 กระตุ้นให้หรือไม่ ย้ำ ต้องแจ้งให้ชัด หลังพบ “ซิโนแวค” 2 เข็ม ต้านเดลตาไม่ได้ แนะ หยุดซื้อซิโนแวคอีก หากไม่เร่งหาวัคซีนเข้ามา กระทบแผนเปิดประเทศแน่
วันนี้ (14 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ขอสนับสนุนคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ในการตัดสินใจ กำหนดให้มีการเปลี่ยนการฉีดวัคซีนซิโนแวค ร่วมกับแอสตร้าเซนเนก้า ที่แพทย์ไทยได้ศึกษาวิจัยชัดเจนพอสมควรแล้วว่า จะมีผลดีมากกว่าฉีดซิโนแวค 2 เข็ม การตัดสินใจครั้งนี้สอดคล้องกับการที่ประเทศไทยที่มีเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรามีวัคซีนซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า เป็นหลัก เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมของวงการแพทย์ไทยที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO และประเทศจีนเองตามเราไม่ทัน
“เมื่อมีการกำหนดให้บุคลากรทางการแพทย์เกือบ 700,000 คน ที่ฉีดซิโนแวคไป 2 เข็มแล้ว ให้ฉีดแอสตร้าเซนเนก้ากระตุ้นเป็นเข็มที่ 3 ซึ่งจะกระตุ้นให้ป้องกันเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าได้ดีมากด้วย ซึ่งจะเริ่มทำการฉีดได้เลย แต่ผมมีคำถามถึงรัฐบาลว่า สำหรับคนไทย 3.2 ล้านคน ที่ฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว เขาจะได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้ากระตุ้นเข็มที่ 3 หรือไม่ รัฐบาลต้องเร่งแจ้งกับประชาชน เพราะจากเหตุผลที่หลังฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็ม 3-4 เดือน ภูมิคุ้มกันจะลดลงมาก รัฐบาลจำเป็นจะต้องเร่งหาวัคซีนมาฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 อย่างช้าไม่เกิน 4 เดือน หลังฉีดครบ 2 เข็ม ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นด้วยแอสตร้าเซนเนก้า หรือ mRNA วัคซีนก็ได้ โดยรัฐบาลต้องเร่งปรับแผนจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมโดยด่วน”
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า สถานการณ์ที่เกิดการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิดและประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวคจะส่งผลต่อเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วัน อย่างแน่นอน ยกเว้นรัฐบาลเร่งการจัดหาวัคซีนทุกรูปแบบจากทุกประเทศโดยเร่งด่วน นอกจากนี้ ตนขอเสนอให้ยุติแผนการจัดซื้อซิโนแวคเพิ่มมาอีก