เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ เน้นย้ำในวันจันทร์ (12 ก.ค.) หลังประชุมร่วมกับไฟเซอร์ อิงค์ ว่าอเมริกันชนที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแแล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้ารับเข็มกระตุ้น (booster shot) จากการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ไฟเซอร์เผยว่ามีแผนขออนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบในสหรัฐฯ สำหรับฉีดวัคซีนโควิด-19 ของพวกเขาเข็มที่ 3 บนหลักฐานที่ว่าพบความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้นหลังฉีดวัคซีนไปแล้ว 6 เดือน และจากการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก
เจ้าหน้าที่ของสาธารณสุขและบริการมนุษย์ได้รับฟังรายงานสรุปจากไฟเซอร์เมื่อวันจันทร์ (12 ก.ค.) เกี่ยวกับข้อมูลเบื้องต้นล่าสุดของพวกเขาในเรื่องวัคซีน และทางโฆษกเผยว่าจากนี้จะมีการพูดคุยหารือกันอย่างต่อเนื่อง ว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นมีความจำเป็นหรือไม่ในอนาคต และหากจำเป็นควรดำเนินการเมื่อไหร่
ไฟเซอร์ระบุว่ามีแผนเผยแพร่ข้อมูลที่ชัดเจนกว่านี้อย่างเร็วที่สุด ในวารสารทางการแพทย์ที่ผ่านการทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญแล้ว (peer-reviewed journal)
“ทั้งไฟเซอร์และรัฐบาลสหรัฐฯ มีสำนึกแห่งความเร่งด่วนร่วมกัน ในการอยู่นำหน้าไวรัสที่เป็นต้นตอของโรคโควิด-19 และเรายังเห็นพ้องกันว่าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จะเป็นตัวกำหนดก้าวย่างถัดไปในกระบวนการกฎระเบียบต่างๆ ที่เข้มข้นแม่นยำ กระบวนการที่เราปฏิบัติตามมาตลอด” โฆษกของไฟเซอร์ระบุ
การแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตา ซึ่งพบครั้งแรกในอินเดียและเวลานี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในหลายประเทศ ก่อความกังวลว่าวัคซีนที่มีอยู่ในปัจจุบันจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันมากพอหรือไม่ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่าวัคซีนเข็มกระตุ้นมีเหตุผลอันควร หากพบจำนวนผู้ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลหรือผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว
ในส่วนขององค์การอนามัยโลกเรียกร้องในวันจันทร์ (12 ก.ค.) ว่าประเทศร่ำรวยไม่ควรให้วัคซีนเข็มกระตุ้นแก่ประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้ว เนื่องจากยังมีผู้คนในประเทศอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
(ที่มา : รอยเตอร์ส)
