ไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคแถลงในวันพฤหัสบดี (8 ก.ค.) เตรียมขออนุมัติจากคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบในสหรัฐฯ ยุโรปและอื่นๆ สำหรับฉีดวัคซีนของพวกเขาเข็มที่ 3 ด้วยเชื่อว่ามันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
คำแถลงนี้ถูกเผยแพร่ออกมา หลังข้อมูลเบื้องต้นจากการทดลองที่อยู่ระหว่างดำเนินการ พบวัคซีนข็มที่ 3 ช่วยกระตุ้นให้ระดับแอนติบอดีในร่างกายเพิ่มขึ้น 5 หรือ 10 เท่า ในการต่อต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวดั้งเดิมและตัวกลายพันธุ์เบตา ซึ่งพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ เมื่อเปรียบเทียบกับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม
"ทางบริษัทคาดหมายว่าจะเผยแพร่ข้อมูลที่ได้ข้อสรุปกว่านี้อย่างเร็วที่สุด เช่นเดียวกับเผยแพร่ในวารสารหลังผ่านการทบทวนโดยผู้เชี่ยวชาญ (peer-reviewed journal) และมีแผนยื่นข้อมูลดังกล่าวต่อสำนักงานอาหารและยาแห่งสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) องค์การยาแห่งยุโรป (อีเอ็มเอ) และเจ้าหน้าที่ควบคุมกฎระเบียบอื่นๆ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า"
ในถ้อยแถลงระบุต่อว่า ทางบริษัทคาดหมายว่าวัคซีนโดสที่ 3 จะมีประสิทธิภาพคล้ายกันกับตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่กระจายเชื้อได้ง่ายมาก ซึ่งเวลานี้มันกำลังกลายเป็นสายพันธุ์หลักของโลกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกันทางไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทคก็กำลังพัฒนาวัคซีนสำหรับสายพันธุ์เดลตาโดยเฉพาะ โดยล็อตแรกของวัคซีนดังกล่าวจะผลิตที่โรงงานของไบโอเอ็นเทค ในเมืองไมนซ์ ประเทศเยอรมนี
ทั้ง 2 บริษัทคาดหมายว่าการศึกษาทางคลินิกจะเริ่มขึ้นได้ในเดือนสิงหาคม แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเห็นชอบทางกฎระเบียบต่างๆ นานา
ถ้อยแถลงอ้างอิงข้อมูลประสิทธิภาพวัคซีนที่ลดลงในอิสราเอลหลังผ่านไป 6 เดือน ดังนั้นพวกเขาจึงเชื่อว่าวัคซีนโดสที่ 3 อาจมีความจำเป็นภายใน 6 ถึง 12 เดือน หลังฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว
"ในขณะที่ประสิทธิภาพป้องกันการติดเชื้ออาการรุนแรงยังคงสูงอยู่ตลอด 6 เดือนเต็ม ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการลดลงเมื่อเวลาผ่านไปและการปรากฏตัวอย่างต่อเนื่องของตัวกลายพันธุ์ต่างๆ นานา เป็นสิ่งที่คาดหมายไว้แล้ว" ถ้อยแถลงระบุ
(ที่มา : เอเอฟพี)