ที่ปรึกษา ปธ.กมธ.กฎหมายฯ ร้อง กกต.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคไทยสร้างชาติ ตัดสิทธิ์ “หญิงหน่อย” สมัครรับเลือกตั้งและยุบพรรคไทยสร้างชาติ ระบุกำลังประมวลทุกคำพูด พรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกล จ่อร้อง ป.ป.ช.ต่อไป
วันนี้ (12 ก.ค.) นายสนธิญา สวัสดี ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมายการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคไทยสร้างชาติ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างชาติ และกรรมการบริหารพรรคไทยสร้างชาติ เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรา 15(11) ที่ว่าด้วยจริยธรรมของพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งเทียบเท่า ส.ส.และกระทำผิดมาตรา 45 ฝ่าฝืน ก่อกวนทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชนซึ่งก็เป็นไปตามกระบวนการ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92(3)(4) จากกรณีให้สัมภาษณ์กล่าวหารัฐบาลเป็นฆาตกร
วันนี้ตนจึงได้มายื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อพิจารณาวินิจฉัยให้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค และเพิกถอนสิทธิการสมัครรับเลือกตั้ง จากกรณีการกระทำของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างชาติ ที่แถลงภารกิจนโยบาย 9 ข้อของพรรค ซึ่ง 1 ใน 9 ข้อเรียกร้องรวบรวมรายชื่อได้กว่า 1 แสนรายชื่อแล้ว เพื่อที่จะฟ้องว่ารัฐบาลเป็นฆาตกร
“ผมขอถามว่า พี่น้องประชาชนที่ไปรักษาพยาบาลอยู่ที่ไหนก็ตาม หรือขณะนี้ถ้ารักษาอยู่ที่บ้าน หรืออยู่ในกระบวนการทางสาธารณสุขก็จะให้การดูแลให้ยา ให้อาหาร 3 มื้อ ให้กับพี่น้องประชาชน ถามว่า ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทอดทิ้งประชาชนหรือเป็นฆาตกรตรงไหน จึงเป็นที่มายื่นเรื่องต่อ กกต.วินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวของคุณหญิงสุดารัตน์ ฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45 กรณีที่พรรคการเมืองหรือกรรมการบริหารพรรคการเมืองกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือก่อกวนทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างนี้นั้น จึงร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ตามมาตรา 92(3)(4) เพื่อให้ กกต.ส่งเรื่องให้กับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคและตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคการเมืองต่อไป”
นายสนธิญา กล่าวอีกว่า โดยประเด็นหลักที่เรียกร้องวันนี้ ขอกราบเรียนถามไปถึงคุณหญิงสุดารัตน์ ด้วยความเคารพ ในฐานะเป็นประธานที่ปรึกษาพรรคไทยสร้างชาติ หากท่านจำได้ ในปี พ.ศ. 2547 ในสมัยที่ ฯพณฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี สถานการณ์ที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในวันที่ 25 ตุลาคม 2547 ที่มีการชุมนุมของพี่น้องมุสลิม และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้น คือ มีการจับผู้ชุมนุมกว่า 1,200 คน มีผู้เสียชีวิต 84 คน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ การที่ตนยกตัวอย่างนี้เพื่อจะเรียนถามคุณหญิงสุดารัตน์ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และร่วม ครม.อยู่ในรัฐบาล ดร.ทักษิณ ด้วยนั้น เป็นฆาตกรมั้ย หรือนโยบายปราบปรามยาเสพติดที่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนเสียชีวิตพันกว่าคน ได้รับการต่อต้านจากทั่วโลก สิ่งเหล่านั้น การกระทำเหล่านั้นเป็นรัฐบาลฆาตกรหรือไม่ และหากเทียบอายุความขณะนี้ก็ยังไม่ถึง 20 ปี
นายสนธิญา กล่าวต่อว่า ขณะที่สิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำเนินการมากับคณะกรรมการต่างๆ ทั้งแพทย์ ปลัดกระทรวง เลขา สมช. ฯลฯ ที่รวมกันเรียกว่า ศปก.ศบค.ซึ่งแต่งตั้งบูรณาการคณะกรรมการชุดนี้มาตั้งแต่ปี 2563 ดำเนินการกระบวนการต่างๆ อยู่ภายใต้การบริหาร ศปก.ศบค.ทุกสัปดาห์ ซึ่งหลายท่านอาจเข้าใจว่า นายกฯตัดสินใจเองเพียงคนเดียว แต่จริงๆ แล้ว จะมีการประชุมของคณะกรรมการ ศปก.ศบค.ทุกๆ สัปดาห์ ออกมาเป็นนโยบายต่างๆ จนถึงปัจจุบันนี้ ถ้าหากจะว่ารัฐบาลนี้เป็นฆาตกร ก็ขอถามว่า พี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่ติดโรคในปัจจุบันนี้ ถามว่าคัดกรองโรคฟรีหรือไม่ เข้ารักษาพยาบาลฟรีมั้ย พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ได้ทำงานจากสภาวะฉุกเฉินหรือล็อกดาวน์อะไร รัฐบาลก็มีนโยบายการเยียวยาช่วยเหลือทดแทน อย่างเช่น วันนี้ที่กำลังจะมีการปิดอีก 14 วัน ผมเข้าใจว่าภายในวันนี้รัฐบาลก็จะมีนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนใน 10 จังหวัดสีแดงเข้ม คือ กรุงเทพฯและปริมณฑล 6 จังหวัด รวมถึงภาคใต้อีก 4 จังหวัด
“วันนี้มายื่นยุบพรรคไทยสร้างชาติ มีสิ่งหนึ่งที่จะฝากไปยังพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นพรรคฝ่ายค้าน หรือพรรคการเมืองไหนก็ตาม หากไปดูบริบท พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 15(11) ที่ว่าจริยธรรมของพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองเทียบเท่ากับจริยธรรมของ ส.ส. เพราะฉะนั้นสิ่งที่พูด สิ่งที่กระทำนั้น ผมกำลังประมวลไม่ว่าพรรคเพื่อไทย พรรคไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกล ว่าทุกคำขัดต่อจริยธรรม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองฯ มาตรา 15(11) หรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจะนำเรื่องไปร้องต่อ ป.ป.ช.ซ้ำอีก เพราะขณะนี้ผมเรียกร้องด้วยความจริงใจว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ไม่น่าที่จะออกมาเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น โปรดปล่อยให้สถานการณ์ตรงนี้สงบไป พี่น้องประชาชนเข้าสู่สถานการณ์เยียวยาดูแลตัวเองว่าที่ไหนก็ตามเพื่อให้สถานการณ์สงบขึ้น อีก 15 วัน หรือ 1 เดือน ค่อยมาว่ากันใหม่ทางการเมืองก็ไม่สาย”