“สนธิญา” ร้อง กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย ชี้ให้ข้อมูลเท็จช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน สร้างความเข้าใจเรื่องวัคซีนที่ไม่ถูกต้อง ผิด ม.45 กม.พรรคการเมือง ถึงขั้นยุบพรรค
วันนี้ (8 ก.ค.) นายสนธิญา สวัสดี จะเดินทางไปที่ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เพื่อร้องยุบพรรคเพื่อไทย จากกรณีการกระทำการที่ฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 45 ของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย 3 ท่าน ที่กระทำผิดมาตรา 45 และเป็นไปตามบทกำหนดโทษ ในมาตรา 92(3) และ (4) เพื่อ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิทางด้านการเมืองของกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยทั้งหมด
นายสนธิญา กล่าวว่า การแถลงข่าวของกรรมการบริหารพรรค 3 คน ประกอบด้วย น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย มีการระบุถึงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ว่า ขยะเขาคือสมบัติของเรา วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ในต่างประเทศเขาไม่ใช้แล้ว เป็นขยะที่เขาไม่รับ ทั้งที่ข้อเท็จจริงวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ายังเป็นวัคซีนหลักของประเทศเรา โดยตนได้แจ้งเรื่องนี้ต่อ ปอท.แล้ว อีกทั้งทางกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ระบุว่า วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีคนจองมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมากว่า 3 พัน 9 ล้านโดส การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยแถลง ถือเป็นการใช้ความเท็จ ขัดต่อ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.โรคติดต่อร้ายแรง ทำให้ประชาชาเกิดความกลัวในการเข้ารับวัคซีน
ส่วน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงสถานะหนี้ของประเทศ 9 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนร้อยละ 60 แต่จากการแถลงของกระทรวงการคลัง ระบุว่า หนี้สาธารณะของประเทศไทยอยู่ที่ 8.8 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนร้อยละ 8.1 ดังนั้น การที่นายพิชัยพูดตัวเลขหนี้อีกกว่า 1 ล้านล้านบาท เอามาจากไหน อย่าลืมว่า 1 ล้านล้านบาทเท่ากับ ร้อยละ 40 ของรายจ่ายประเทศไทยทั้งประเทศ 1 ปี การแถลงไม่ตรงกับความเป็นจริง ในสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ ถือว่าเป็นการก่อกวน ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อยในประเทศ
และการที่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด แถลงว่า รัฐบาลชุดนี้จะปราบโกง แต่พบพวกตัวเองโกงมากกว่าอีก จึงขอถามกลับไปที่นายอนุสรณ์ ว่าที่เคยแถลงมา มีไปฟ้องร้องต่อ ป.ป.ช หรือหน่วยงานไหนหรือไม่ หากพบทุจริตจะต้องร้องกับหน่วยงานต่างๆ ทุกแห่งอย่างที่ตนทำ ไปร้องจนนายกฯประยุทธ์อยู่ประเทศไทยไม่ได้เหมือนนายกฯทักษิณ และ นายกฯยิ่งลักษณ์ แต่เรื่องที่แถลงไม่เห็นเคยนำไปสู่การแจ้งความหรือดำเนินคดี รวมทั้งข้อมูลการอภิปรายในสภาฯ ก็ไม่สามารถนำไปสู่การโค่นล้มรัฐบาลได้
ฉะนั้น การแถลงของบุคคลทั้ง 3 ไม่ตรงตามข้อเท็จจริง และแถลงในนามนักการเมืองและกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 45 และบทลงโทษตาม มาตรา 92 กกต.พิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณายุบพรรคและตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค และในเรื่องลักษณะเช่นนี้จะใช้ตรวจสอบพรรคก้าวไกลต่อไปที่ให้ข้อมูลเท็จ
นายสนธิญา ยังเรียกร้องทุกพรรค ทุกฝ่ายมาร่วมกันแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.โรคติดต่อ การจะให้ข้อมูลไปสู่ประชาชนน่าจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ โดย 2 วันที่แล้วตนยังไปฉีดแอสตร้าเซนเนก้า สิ่งเหล่านี้อยากให้การแถลงข่าวเป็นประโยชน์ประชาชน อย่าก่อกวน แต่อ้างรัฐธรรมนูญให้สิทธิ
“วันนี้การกระทำนั้นเป็นการก่อกวน แล้วทำให้พี่น้องประชาชนคนไทย ไม่สงบเรียบร้อย และบางส่วนก็เป็นที่มาของการไม่เข้าไปฉีดวัคซีน และเรียกร้องวัคซีนใหม่ แต่วัคซีนทุกๆ ตัว ก็ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก และผ่าน อย. และกรมการแพทย์ เพื่อให้เป็นวัคซีนที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ซึ่งผมก็ฉีดแล้ว ไม่มีผลกระทบ หรือฟีดแบกใดๆ
