“ไทยสร้างไทย” ยื่น มท. เร่งรัดปรับปรุงกฎหมาย กทม. ย้ำจุดยืนประชาธิปไตยเพื่อประชาชน ป้อง “ส.ข.” คือ ผู้แทน ปชช.ต้องมาจากการเลือกตั้ง เบรก “แต่งตั้ง” เหมือน ส.ว. เหตุไม่ยึดโยงพื้นที่-ปชช.
วันนี้ (2 ก.ค.) เวลา 10.00 น. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย ได้มอบหมายให้แกนนำและสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย นำโดย นายชุมพร พลรักษ์, นายประเสริฐ ทองนุ่น, นายประพนธ์ เนตรรังษี, นายณรงค์ รุ่งธนวงศ์ และ น.ส.เกณิกา ตาปสนันทน์ เข้าพบ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อยื่นหนังสือขอให้เร่งรัดการปรับปรุงพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหาหานคร (พ.ร.บ.กทม.) โดยสาระสำคัญ คือ การให้คงไว้ซึ่งสภาเขต และตำแหน่งสมาชิกสภาเขต (ส.ข.) เนื่องด้วยหลังจากการลงพื้นที่สอบถามประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการให้การเลือกตั้ง ส.ข. กลับคืนมา เพราะเป็นผู้แทนที่มีความใกล้ชิดเชื่อมโยงกับพื้นที่ และมาจากการเลือกตั้ง สอดคล้องกับหลักการกระจายอำนาจและหลักการประชาธิปไตยที่ประชาชนมีสิทธิเลือกตัวแทนของตนเข้าไปทำหน้าที่ และที่สำคัญ อำนาจหน้าที่ของ ส.ข.ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ
นายชุมพร กล่าวว่า ประชาชนใน กทม.ทราบกันดีว่า ส.ข.สำคัญเพียงใด เพราะมีที่มาที่ยึดโยงประชาชน มาจากการเลือกตั้ง แตกต่างจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่มาจากการแต่งตั้งทั้งหมด ซึ่งประชาชนไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยมาลงพื้นที่ดูแล ที่ผ่านมาเกิดวิกฤตการระบาดของโรคโควิด-19 ประชาชนยิ่งคิดถึง ส.ข. เพราะหลายปีมาแล้วที่ไม่มีผู้แทนท้องถิ่นคอยดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด ซึ่งการผลักดันให้ ส.ข. กลับคืนมารับใช้พี่น้องประชาชนนั้นไม่ยาก โดยในวันนี้พรรคไทยสร้างไทยได้ยกร่างการแก้ไข พ.ร.บ.กทม. มาเสนอแล้ว หากผู้เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญสามารถเร่งเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อแก้ไขให้ทันก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กทม. และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ซึ่งจะสามารถจัดการเลือกตั้งในคราวเดียวกันได้เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ
“สมาชิกพรรคไทยสร้างไทยเราลงพื้นที่อย่างหนัก ระหว่างการลงพื้นที่ใน กทม.ประชาชนจำนวนมากก็มาสอบถามว่า ส.ข.เขาหายไปไหน จะมีการเลือกตั้งเมื่อไร เราก็มาพิจารณากฎหมายแล้วพบว่า พ.ร.บ.กทม.ฉบับปัจจุบัน ไม่ได้ยกเลิก ส.ข. แต่แช่แข็งไว้ โดยให้งดเว้นการเลือกตั้ง ประชาชนชาว กทม. จึงขาดผู้แทนระดับฐานรากที่ดูแลใกล้ชิดมากว่า 7 ปี
นายชุมพร กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวยังกำหนดว่า ให้ดำเนินการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการ กทม.ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ การคงไว้ซึ่ง ส.ข. ไม่ได้ขัดหรือแย้งกับกฎหมายฉบับใด ไม่ว่าจะเป็นรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นๆ และยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ที่มุ่งส่งเสริมให้มีการกระจายอำนาจและถ่ายโอนภารกิจไปให้กับชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ภาครัฐและระบบบริหารราชการส่วนกลางมีขนาดเล็กลง
“ที่ผ่านมา กระบวนการปรับปรุงกฎหมายล่าช้า และกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนก็ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่กว้างขวาง มีผู้แสดงความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงกฎหมายฉบับดังกล่าวน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับจํานวนประชากรทั้ง กทม. จึงขอเรียกร้องให้ทางกระทรวงมหาดไทยเห็นความสำคัญและเร่งรัดแก้ไขด้วย โดยพรรคไทยสร้างไทยจะติดตามอย่างใกล้ชิด” นายชุมพร ระบุ