นายกรัฐมนตรีสั่งการส่วนราชการ หน่วยงานรัฐ เร่งปรับกฎระเบียบภายในให้เอื้อต่อการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน สร้างบิ๊กดาต้าภาครัฐสนับสนุนการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล
วันนี้ (10 มิ.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ได้รายงานให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทราบถึงความก้าวหน้าของการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ซึ่งแต่ละด้านดำเนินไปตามแผนงาน
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ สศช. ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเห็นว่าเป็นประเด็นที่ควรเร่งรัด คือ ส่วนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ บิ๊กดาต้าของภาครัฐ ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนราชการและหน่วยงานรัฐ ดำเนินการปรับปรุงข้อกฎหมายและระเบียบภายในตามที่ สศช. เสนอ โดยเร็วเพื่อสนับสนุนการเป็นรัฐบาลดิจิทัลให้เป็นรูปธรรมต่อไป
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สศช. ได้รายงานว่าจากการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ของรัฐในระยะที่ผ่าน เช่น กรณีการพัฒนาระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) พบว่า การบรูณาการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐยังมีข้อจำกัด เป็นอุปสรรคสำคัญของการขับเคลื่อนรัฐสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยประเด็นปัญหาหลัก คือ แม้ว่าจะมีกฎหมายหลักที่เกี่ยวข้องกับการบูรณาการข้อมูลและพัฒนารัฐบาลดิจิทัลแล้ว เช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 แต่กฎหมายและระเบียบภายในของหน่วยงานต่างๆ ยังเป็นข้อจำกัดในการเชื่อมโยงและเผยแพร่ข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อการบูรณาการฐานข้อมูลขนาดใหญ่
สศช.จึงเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งปรับปรุงกฎหมายและระเบียบภายในหน่วยงานให้รองรับและสนับสนุนการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับหน่วยงานอื่น ให้สอดคล้องกับกฎหมายหลักด้านการพัฒนารัฐบาลดิจิทัล รวมทั้งสนับสนุนให้บุคลากรทุกหน่วยงานให้มีทัศนคติที่เอื้อต่อการบูรณาการข้อมูลร่วมกับหน่วยงานอื่น โดยชี้ให้เห็นความสำคัญและความจำเป็นในการบูรณาการข้อมูลเพื่อพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการพัฒนานโยบายและการปฏิบัติงานด้วยข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ในสภาพแวดล้อมของประเทศที่มีความซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“นายกรัฐมนตรีย้ำว่าการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพราะจะเป็นการยกระดับบริการภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โปร่งใสตรวจสอบได้ มีการเชื่อมโยงของหน่วยงานและระบบบริการภาครัฐทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน ภาคธุรกิจ และผู้ใช้บริการ นายกรัฐมนตรีจึงให้ทั้งส่วนราชการและหน่วยงานรัฐเร่งดำเนินการตามข้อเสนอของสภาพัฒน์ เพื่อให้การไปสู่รัฐบาลดิจิทัลเกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็ว” น.ส.ไตรศุลี กล่าว