พรรคกล้า ยื่นหนังสือถึง นายกฯ-ศบค. เสนอตั้งสถานกักตัวชุมชน แยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดในบ้านแบบทวีคูณ ย้ำ พบผู้ติดเชื้อ ต้องให้ยาทันที หนุนใช้ฟ้าทะลายโจรแทน หากฟาวิพิราเวียร์ไม่พอจ่ายผู้ติดเชื้อ
วันนี้ (2 ก.ค.) ทีมพรรคกล้า นำโดย นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร กรรมการบริหารพรรค นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรค ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุขของพรรค และ นายแสนยากรณ์ สิงห์วีรธรรม โฆษกพรรคกล้า เข้ายื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ผ่าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยนำเสนอปัญหาที่พบจริงหลังการลงพื้นที่ พร้อมข้อเสนอป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า สถานการณ์ยังไม่ส่อแววว่าจะดีขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อจริงอาจจะสูงกว่าที่ ศบค. รายงานไว้ เพราะมีคนอีกจำนวนมากยังไม่เข้าถึงการตรวจ เนื่องจากไม่มีกระบวนการรักษารองรับ หลายรายได้รับการตรวจเชิงรุกแล้ว แต่ไม่ได้นำชื่อผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรอรับเตียง สุดท้ายผู้ติดเชื้อก็ต้องกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวตามเดิม บางบ้านใช้วิธีกักตัวเอง แยกห้องกับสมาชิกครอบครัวคนอื่น แต่ไม่ใช่ทุกบ้านที่จะทำแบบนี้ได้ หลายครอบครัวจึงเกิดการติดเชื้อแบบ “ทวีคูณ” ภายในครัวเรือน จากติด 1 คน กลายเป็นติดทั้งบ้าน
พรรคกล้าจึงมีข้อเสนอที่น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการระบาดอย่างเป็นระบบ ดังนี้ 1) “จัดตั้ง Community-City Quarantine”
หากพบผู้ติดเชื้อ แต่บ้านที่มีขนาดกลาง-เล็ก มีสมาชิกในครอบครัวจำนวนมาก หรือวิถีชีวิตไม่สามารถแยกกักตัวที่บ้านได้ (Home Isolation) ให้มีกระบวนการแยกผู้ติดเชื้อออกจากสมาชิกในครอบครัวหรือคนใกล้ชิดทันที แล้วนำมากักตัวในพื้นที่เฉพาะที่ชุมชนหรือจังหวัดตั้งขึ้น โดยขอให้รัฐผ่อนคลายกฎระเบียบต่างๆ เกี่ยวการใช้สถานที่เพื่อการรักษาพยาบาลชั่วคราว เพื่อจัดตั้งสถานกักตัวในชุมชน ใช้อาสาสมัครหรือสร้างรายได้ด้วยการจ้างคนในชุมชนที่ผ่านการฝึกอบรมแล้ว เป็นผู้ดูแลแทนแพทย์และพยาบาลไปพลางก่อน
2) “ติดเชื้อปุ๊บ รับยาทันที"เมื่อพบว่ามีการติดเชื้อ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่กักตัวเองอยู่ที่บ้าน หรืออยู่ในสถานกักตัวชุมชนตามข้อเสนอข้างต้น ซึ่งอยู่ระหว่างการรอเตียงเข้ารับการรักษา ต้องได้รับยาทันที ซึ่งทราบว่ายาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) มีเหลืออยู่ในคลังถึง 2.9 ล้านเม็ด และมีแผนจัดหาในเดือนกรกฎาคมอีก 5 ล้านเม็ด ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงกันยายนอีก 3 ล้านเม็ด ซึ่งมีปริมาณมากพอ เหลือแต่เพียงการกระจายให้ผู้ป่วยอย่างทั่วถึง
และที่น่าสนใจคือ การให้ยาสมุนไพร “ฟ้าทะลายโจร” ได้ทันทีเมื่อพบว่าติดเชื้อ โดยพบว่าสารแอนโดรกราโฟไลด์ในฟ้าทะลายโจร สามารถบรรเทาอาการและรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้ โดยร่างกายต้องได้รับสารแอนโดรกราโฟไลด์ 180 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมีการทดลองแล้วว่า เมื่อได้รับยาติดต่อกัน 5 วัน จะเกิดภาวะปอดอักเสบน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร ประกอบกับต้นทุนราคาถูกกว่า สามารถหาซื้อได้ง่าย จึงเหมาะสมเป็นอีกหนึ่งยาหลักที่ผู้ติดเชื้อควรได้รับทันที
ข้อเสนอของพรรคกล้าทั้ง 2 ข้อ มีจุดประสงค์เพื่อชะลอการระบาดไม่ให้สถานการณ์ไปถึงจุดวิกฤต หากสถานการณ์ผู้ติดเชื้อใหม่ต่อวันสูงถึง 5,000 ถึง 6,000 คน ต่อไปเรื่อยๆ สิ่งที่จะตามมาก็คือ วิกฤตระบบสาธารณสุข บุคลากร-เครื่องมือทางการแพทย์ไม่เพียงพอ จำนวนผู้เสียชีวิตก็จะมากขึ้นตามลำดับ ดังนั้น พรรคกล้าจึงเห็นว่า การแก้ปัญหาที่ต้นทางเป็นเรื่องที่จำเป็น "เพราะการรักษาที่เร็วที่สุด คือการรักษาที่ดีที่สุด”
ด้าน นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวคิดการให้ยาฟาวิพิราเวียร์ หรือยาสมุนไพร หรือยาฟ้าทะลายโจรทันทีที่ติดเชื้อ สอดคล้องกับแนวทางที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการเบื้องต้นไปแล้ว ส่วนแนวคิดการจัดตั้งสถานกักตัวตัวชุมชน เพื่อแยกผู้ติดเชื้อออกจากครอบครัว ป้องกันการระบาดแบบทวีคูณ คงเป็นเรื่องที่คณะกรรมการ ซึ่งประกอบด้วย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญคงจะมีการพิจารณากัน โดยจะนำเรื่องนำเสนอต่อ นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และกรรมการ ศบค. เพื่อนำเสนอฝ่ายที่เกี่ยวข้องและนายกรัฐมนตรีต่อไป