โฆษก ศบค. เผย ปรับแผนจัดสรรวัคซีนวางเป้าฉีด 10 ล้านโดส ก.ค.นี้ ใน จว.ควบคุมสูงสุด เข้มงวด-ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน จัดหาเพิ่ม 150 ล้านโดส ภายในปี 65
วันนี้ (18 มิ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่าที่ประชุม ศบค.เห็นชอบความก้าวหน้าการดำเนินงานฉีดวัคซีน ข้อมูลล่าสุด วันที่ 18 มิ.ย. 2564 โดยมีเป้าหมายการจัดหาวัคซีนเดือน มิ.ย.จำนวน 6 ล้านโดส ซึ่งสามารถจัดหาได้ตามแผน ขณะที่การให้บริการฉีดวัคซีนในเดือน มิ.ย. 2564 พบว่า ผลการฉีดวัคซีนสะสมของในประชากรเป้าหมายขณะนี้กว่า 7.2 ล้านโดส คาดว่า จะสามารถให้บริการครบ 10 ล้านโดส ภายในสิ้นเดือน มิ.ย.ส่วนในเดือน ก.ค. 2564 จะจัดหาวัคซีน เพื่อรองรับการฉีด จำนวน 10 ล้านโดส ประกอบด้วย วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 5-10 ล้านโดส วัคซีนชิโนแวค 3-5 ล้านโดส และวัคซีนอื่นๆ 1-2 ล้านโดส ส่วนการพิจารณาให้กรุงเทพมหานครได้รับการจัดสรรวัคซีนอย่างน้อย 5 ล้านโดส ภายในเดือน ก.ค. 2564 และพิจารณาให้ภูเก็ตได้รับวัคซีนเข็มสอง อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือน ก.ค.นี้
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนในแต่ละจังหวัดโดยมีเป้าหมายให้บริการวัคซีน 10 ล้านโดส ในเดือนก.ค.ข้อมูล ณ วันที่ 18 มิ.ย. 64 ในจังหวัดที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดในระดับควบคุมสูงสุดเข้มงวดและจังหวัดเศรษฐกิจท่องเที่ยว 5 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพฯ จำนวนวัคซีน 2.5 ล้านโดส นนทบุรี ปทุมธานีและสมุทรปราการ จำนวนวัคซีน 6 แสนโดส และภูเก็ต จำนวนวัคซีน 2 แสนโดส ส่วนจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดหรือมีความจำเป็นเร่งด่วนในการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ภายหลังการระบาดจำนวน 23 จังหวัดเฉลี่ยจังหวัดละ 1 แสนโดส ประกอบด้วย เชียงราย เชียงใหม่ตาก หนองคาย สระแก้ว ระนอง นราธิวาส ยะลาปัตตานี สงขลา ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรีนครปฐม พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี บุรีรัมย์ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุยเกาะพะงัน เกาะเต่า) พังงา และกระบี่ จำนวนวัคซีน 2.5 ล้านโดส ส่วนจังหวัดที่เหลือของประเทศไทย 49 จังหวัดเฉลี่ยจังหวัดละ 7 หมื่นโดส จำนวนวัคซีน 3.5 ล้านโดส และส่วนอื่นๆ ได้แก่ หน่วยฉีดส่วนกลาง องค์กรภาครัฐและสำรองส่วนกลาง สำหรับตอบโต้การระบาด จำนวนวัคซีน 1 ล้านโดส ทั้งนี้ การจัดสรรขึ้นอยู่กับจำนวนวัคซีนที่บริษัทผู้ผลิตส่งมอบและสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในจังหวัดที่อยู่ในประเภทการจัดสรร
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศบค.ยังเห็นชอบแผนการจัดหาวัคซีนจาก 100 ล้านโดส ภายในปี 2564 เพิ่มเติมเป็น 150 ล้านโดส ภายในปี 2565 โดยขณะนี้ประเทศไทยมีการจัดหาดำเนินการเจรจาจองวัคซีนแล้ว 105.5 ล้านโดส ประกอบด้วย แอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส, ซิโนแวค 19.5 ล้านโดส, ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน 5 ล้านโดส ดังนั้นประเทศไทยต้องเตรียมงบประมาณจัดหาจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมให้ครบ150ล้านโดส โดยให้ภาครัฐจัดหาวัคซีนดังต่อไปนี้วัคซีนซิโนแวคประมาณ 28 ล้านโดส วัคซีนโควิด-19 อื่นๆ ประมาณ 22 ล้านโดส แต่ทั้งนี้ ขึ้นกับผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนและสถานการณ์ของเชื้อกลายพันธ์ุ.