นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มีมติปรับพื้นที่โซนสี พื้นที่ต่างๆ โดยแบ่งเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 4 จังหวัด คือ จ.กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
พื้นที่ควบคุมสูงสุดจำนวน 11 จังหวัด คือ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตรัง นครปฐม ปัตตานีเพชรบุรี สงขลา สมุทรสาคร สระบุรี ยะลา และนราธิวาส
พื้นที่ควบคุมจำนวน 9 จังหวัด คือ จ.จันทบุรี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์พระนครศรีอยุธยา ระนอง ระยอง ราชบุรีสระแก้ว สมุทรสงคราม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง จำนวน 53 จังหวัด
ซึ่งมาตรการพื้นที่ต่างๆ คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดให้สวมใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถาน, ห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 50 คน, ร้านอาหารบริโภคในร้านได้กรณีมีเครื่องปรับอากาศให้นั่งได้ไม่เกิน 50% ของร้านและเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น., งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน, สถานบริการสถานบันเทิงปิดบริการ,
ด้านศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ตามปกติไม่เกิน 21.00 น., สถานศึกษาห้ามใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอน, สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬาปิด ยกเว้นสถานที่เล่นกีฬากลางแจ้งหรืออากาศถ่ายเทได้ดีและเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น. และแข่งขันได้โดยไม่มีผู้ชม
ส่วนพื้นที่ควบคุมสูงสุดให้สวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถาน, การจัดกิจกรรมห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากกว่า 100 คน, ร้านอาหารบริโภคในร้านได้ เปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. และงดการจำหน่ายและดื่มสุราในร้าน, สถานบริการสถานบันเทิงปิดให้บริการ, ศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ตามปกติ, สถานศึกษาทุกระดับให้ใช้อาคารสถานที่ เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก โดยผ่อนคลายตามความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อ, สถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬาเปิดบริการได้ทุกประเภทไม่เกิน 21.00 น. และจัดการแข่งขันได้โดยไม่จำกัดจำนวนผู้ชม
พื้นที่ควบคุมให้สวมหน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เมื่อออกนอกเคหสถาน, การจัดกิจกรรมห้ามจัดกิจกรรมรวมคนมากความ 150 คน, ร้านอาหารบริโภคในร้านได้เปิดได้ตามปกติ งดการจำหน่ายและงดดื่มสุราในร้าน, สถานบริการสถานบันเทิงปิดให้บริการ, ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้าเปิดบริการได้ตามปกติ, สถานศึกษา ทุกระดับให้ใช้อาคารสถานที่เพื่อจัดการเรียนการสอนกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก ตามมาตรการที่กำหนดสถานที่เล่นกีฬาหรือแข่งขันกีฬา เปิดบริการได้ทุกประเภทจัดการแข่งขันได้ โดยจำกัดผู้ชม โดยประกาศดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 21 มิถุนายน 2564