“อัษฎางค์” เตือนอย่าล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “พระสยามเทวาธิราช” มีจริง! “ตุ้ม-สุรภักดิ์” เคยโพสต์ลบหลู่ดูหมิ่น เพื่อนเผย เตรียม “โปรเจกต์เลิก ม.112” ก่อนตาย “สมยศ” ย้อนอดีตเคยเป็นเพื่อนร่วมรบเสื้อแดง-ท่อน้ำเลี้ยง “24 มิถุนา”
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (14 มิ.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า
“อัษฎางค์ เตือนอย่าล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ “พระสยามเทวาธิราช” มีจริง! ร.5 โปรดให้สร้าง แปลงเค้าพระพักตร์ให้เหมือน ร.4
#อัษฎางค์ #พระสยามเทวาธิราช #สิ่งศักดิ์สิทธิ์”
โดยเนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า
“จากกรณีที่ นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง หรือ ตุ้ม อายุ 50 ปี ซิ่งบีเอ็ม Z4 ฝ่าสายฝน เสียหลักพุ่งข้ามเกาะกลาง ชนเก๋งซูซูกิ เสียชีวิต 3 ราย บนถนนพื้นที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ โดยขับมาด้วยความเร็ว ซึ่งระหว่างทางมีฝนตกลงมาตลอด ทั้งยังขับแซงรถทุกคันที่อยู่ด้านหน้าด้วย
ซึ่ง นายสุรภักดิ์ เคยต้องคดี ม.112 ในความผิดฐานหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ตามประมวลกฎหมายกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 3, 14, 17
ก่อนหน้านี้ เคยโพสต์ข้อความเคลื่อนไหวทางการเมืองและมีการพูดถึง พระสยามเทวาธิราช โดยระบุข้อความว่า
พระสยามเทวาหญ้าแฝก ไปกินโป่ง อยู่ ไม่เห็นแสดงอิทธิฤทธิ์ช่วยสลิ่มเลย อุตส่าห์ ไปเป่านกหวีด จนติ่งคล้ำ ..ห้อย เพื่อให้ได้คนดีอย่างไอ้ตูบ มาบริหารแผ่นดิน อิซิๆๆ
ล่าสุด นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ โพสต์เกี่ยวกับพระสยามเทวาธิราช ระบุว่า
“พระสยามเทวาธิราช”
อย่าล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมือง ทั้งที่มองไม่เห็นตัวตน เช่น พระแก้วมรกต และ พระสยามเทวาธิราช รวมถึงพระมหากษัตริย์ ซึ่งคนไทยถือว่า เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีตัวตน
หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงเล่าว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดการศึกษาประวัติศาสตร์ มีพระราชดำริว่า
“เมืองไทยเรานี้มีเหตุการณ์หวิดๆ จะต้องเสียอิสรภาพมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว แต่เผอิญให้มีเหตุรอดพ้นได้เสมอมา ชะรอยจะมีเทพยดาองค์ใดองค์หนึ่งที่คอยพิทักษ์รักษาอยู่ จึงสมควรจะทำรูปเทพพระองค์นั้นขึ้น ไว้สักการบูชา”
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระองค์เจ้าดิษฐวรการ (หม่อมเจ้ารัชกาลที่ ๑) นายช่างเอกทรงปั้นรูปเทพพระองค์นั้น เป็นรูปทรงต้นยืนถือพระขรรค์ในพระหัตถ์ขวา ขนาด ๘ นิ้วฟุตงดงามได้สัดส่วนแล้วหล่อด้วยทองคำแท่งทั้งพระองค์ ทรงถวายพระนาม “พระสยามเทวาธิราช” แล้วประดิษฐานไว้ในพระวิมานกลางพระที่นั่งไพศาลทักษิณจนทุกวันนี้
ท่านผู้ใหญ่ชั้นคุณย่าของข้าพเจ้าเล่าว่า ในรัชกาลที่ ๔ ทรงถวายเครื่องสังเวยเป็นราชสักการะทุกวัน และเป็นที่นับถือกันว่า ศักดิ์สิทธิ์นัก บัดนี้เนื่องแต่ทางพระราชสำนักต้องตัดทอนรายจ่ายมากมายมาแต่ในรัชกาลที่ ๗ จึงคงยังมีเครื่องสังเวยถวายแต่เฉพาะวันอังคาร และวันเสาร์ อาทิตย์ละ ๒ ครั้ง และในเวลาปีใหม่ก็มีการบวงสรวงสังเวยเป็นพิธีใหม่ มีละครรำของกรมศิลปากรในเวลาเช้าวันสังเวยนั้น..
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ต่างๆ ดังเราท่านได้ประสบมาด้วยตนเอง ยิ่งนานวันก็ยิ่งเห็นว่า พระสยามเทวาธิราชนั้นมีจริง เราจงพร้อมใจกันอธิษฐานด้วยกุศลผลบุญที่เราได้ทำมาแล้วด้วยดี ขอให้เทพเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์พระองค์นี้ จงได้ทรงคุ้มครองป้องกันภัย และโปรดประสิทธิ์ประสาทความสมบูรณ์พูนสุขให้แก่ประชาชนชาวสยามทั่วกันเทอญ..”
ส่วนเด็กสาววัย 18 ที่คนในสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ตำหนิที่มีคลิปเสียงพูดเชียร์ของเธอ ให้ซิ่งเลย ซิ่งเลย ผมกลับเห็นว่า อย่าจับเอาคำพูดนี้หรือพฤติกรรมเด็กวัย 18 ปี มาวิจารณ์เลย เพราะคิดดูดีๆ ต้องถือว่าเพิ่งพ้นวัยเด็กน้อยมาได้เพียงไม่กี่วันเอง ถึงจะ 18 แต่ถือว่ายังเด็กมาก ย่อมมีพฤติกรรมอย่างเด็กแบบนั้น
ใครทำอะไรได้อย่างนั้น ทำบุญได้รับบุญ ทำบาปต้องรับกรรมที่ทำไว้ เห็นกันอยู่ชัดๆ เห็นไหมนั่งด้วยกันมา 2 คน คนหนึ่งตาย คนหนึ่งรอด (มาได้ยังไง) เรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมา ปล่อยให้มันผ่านไป อโหสิกรรมให้แก่กัน เถิดพี่น้องไทย การอโหสิกรรมคือการทำบุญใหญ่ ใครทำใครได้ ใครทำอะไรได้อย่างนั้น เห็นกันอยู่ชัดๆ ใครไม่สนใจทำบุญ แต่เราทำ นะพี่น้องไทย
หมายเหตุ โพสต์นี้มีเจตนาชี้เรื่องบุญกรรม ความเชื่อของคนไทย และการทำบุญด้วยการอโหสิกรรมต่อกัน
สำหรับพระสยามเทวาธิราช เป็นเทวรูป หล่อด้วยทองคำสูง ๘ นิ้ว ประทับยืนทรงเครื่องกษัตริยาธิราช ทรงฉลองพระองค์อย่างเครื่องของเทพารักษ์ มีมงกุฎเป็นเครื่องศิราภรณ์ พระหัตถ์ขวาทรงพระแสงขรรค์ พระหัตถ์ ซ้ายยกขึ้นจีบดรรชนีเสมอพระอุระ องค์พระสยามเทวาธิราชประดิษฐานอยู่ในเรือนแก้วทำด้วยไม้จันทน์ ลักษณะแบบวิมานเก๋งจีน มีคำจารึกเป็นภาษาจีนที่ผนังเบื้องหลัง แปลว่า “ที่สถิตแห่งพระสยามเทวาธิราช” เรือนแก้วเก๋งจีนนี้ประดิษฐานอยู่ในมุขกลางของพระวิมานไม้แกะสลักปิดทอง ตั้งอยู่เหนือลับแลบังพระทวารเทวราชมเหศวร์ ตอนกลางพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ในพระบรมมหาราชวัง
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงถวายเครื่องสังเวยเป็นราชสักการะเป็นประจำวัน เครื่องสังเวยที่ถวายเป็นประจำนั้น จะถวายเฉพาะวันอังคาร และวันเสาร์ก่อนเวลาเพล โดยจะมีพนักงานฝ่ายพระราชฐานชั้นใน เป็นผู้เชิญเครื่องตั้งสังเวยบูชา เครื่องสังเวยประกอบด้วย ข้าวสุกหนึ่งถ้วยเชิง หมูนึ่งหนึ่งชิ้น พร้อมด้วยน้ำพริกเผา ปลานึ่งหนึ่งชิ้นพร้อมด้วยน้ำจิ้ม ขนมต้มแดงและขนมต้มขาว กล้วยน้ำว้า มะพร้าวอ่อนหนึ่งผล ผลไม้ตามฤดูกาลสองอย่าง และน้ำสะอาดอีกหนึ่งถ้วย โปรดเกล้า ฯ ให้จัดพระราชพิธีสังเวยเทวดา ในวันขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ของทุกปี
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเลียนแบบพระสยามเทวาธิราชแต่แปลงเค้าพระพักตร์ให้เหมือนสมเด็จพระชนกาธิราช เพื่อทรงสักการะ พระบรมรูปองค์นี้ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
ต่อมาในสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่า พระอภิเนาว์นิเวศน์พระพุทธมณเฑียร และพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งเป็นโครงสร้างเสาไม้หุ้มปูน ที่ได้สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ชำรุดทรุดโทรมลงมาก ยากที่จะบูรณะให้คงสภาพเดิมไว้ได้ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รื้อลงทั้งหมด และอัญเชิญพระสยามเทวาธิราชไปประดิษฐานไว้ ณ พระวิมานทองสามมุขเหนือลับแลบังพระทวารเทวราชมเหศวร์ ในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ตราบจนถึงทุกวันนี้
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH ยังโพสต์เกี่ยวกับ “ตุ้ม สุรภักดิ์” ว่า
“นายสราวุทธิ์ กุลมธุรพจน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่จังหวัดเชียงราย หนึ่งในแกนนำม็อบกลุ่มราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กชื่อ “สราวุทธิ์ เซียนแว่น กุลมธุรพจน์” ถึงอุบัติเหตุรถสปอร์ตของนายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง หรือ ตุ้ม อายุ 50 ปี ข้ามเกาะกลางชนรถซูซูกิ จนตัวเองและคนในรถซูซูกิเสียชีวิต รวม 3 ราย... ว่า ผิดก็คือผิดนั้นแหละ ยิ่งความผิดนั้นทำให้คนอื่นตายไปด้วยยิ่งผิดเข้าไปใหญ่ ไม่มีอะไรมาทดแทน หรือเยียวยาอีกฝั่งหนึ่งได้
“ในมุมของเพื่อนฝูง ก็เสียใจต่อการจากไปของเขา และเสียใจต่อครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากการประมาทของฝ่ายเรา ในส่วนตัวผมสนิทกับพี่ตุ้ม อาจจะเป็นเพราะเราทั้งคู่ต่างโดน 112 จากการยัดคดีของเจ้าหน้าที่ และเรากำลังจะมีโปรเจกต์ยกเลิก 112 ด้วยกัน พูดคุยกันหมดแล้ว รอแค่เวลาที่เหมาะสม แต่พี่ตุ้มก็จากไปเสียก่อน เราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และเราก็เสียใจที่พี่ตุ้มเสียชีวิต”
ต่อมา นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้โพสต์ข้อความระบุว่า แจ้งเหตุฉุกเฉินด่วน ใครติดต่อญาติสุรภักดิ์ ภูไชยแสง ได้รับอุบัติเหตุ ติดต่อไปที่ 091-0284050 รพ.หนองไผ่ - ใครติดต่อยายแต้ม แม่สุรภักดิ์ ได้ช่วยติดต่อให้ด้วยนะครับ
และต่อมาก็ได้โพสต์ข้อความต่อว่า สู่สุคติ สวรรคาลัย สุรภักดิ์ ภูไชยแสง เพิ่งเจอกันวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ร้านอาหารครกไม้ไทยลาว ลาดปลาเค้า เวลา 12.00 น. พร้อมกับทนายเซี้ยง ธิติพงษ์ ศรีแสง ตุ้มชวนให้ไปเที่ยวที่อัมพวา ด้วยกันในระหว่างเสาร์-อาทิตย์ (12-13 มิ.ย.) ทนายเซี้ยง บอกว่า ติดทำคดีต้องเดินทางวันอาทิตย์ ส่วนผมติดกำไล EM ออกนอกเขตกรุงเทพฯไม่ได้ ตุ้มก็เลยไปเที่ยวคนเดียวที่เขาค้อ เพชรบูรณ์ พร้อมกับพริตตี้สาว
ตุ้มเป็นเพื่อนสนิทในกลุ่มเสรีปัญญาชน ที่ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับคนเสื้อแดงในปี 2552-2554 ในกลุ่มนี้ที่สำคัญ มี เปิ้ล กริชสุดา คุณะแสน ลี้ภัยอยู่เยอรมัน เบียร์ อิทธิพล สุขแป้น และ สยาม ธีรวุฒิ ซึ่งถูกอุ้มหายไปในปี 2562 ตุ้มจึงติดตามการสูญหายของผู้ลี้ภัยการเมืองมาโดยตลอด
สนิทสนมกันมาก ช่วงที่ติดคุกอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตุ้ม ต่อสู้คดีที่ถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 จนชนะคดี ด้วยเหตุที่พิสูจน์ได้ว่า หลักฐานที่ตำรวจนำมาใช้ในศาลนั้น สร้างขึ้นมาหลังจากจับกุมเขาไปแล้ว ด้วยความเชี่ยวชาญในประเด็นที่ว่า Face Book ไม่สามารถบันทึกเป็นหลักฐานได้ แม่แต้มออกมาต่อสู้ให้ตุ้มด้วยการอดข้าวที่หน้าศาลอาญา จนกลายเป็นปฏิญญาหน้าศาลที่มีไม้หนึ่ง และ อ.สุดา รังกุพันธ์ เป็นแกนนำ เรียกร้องปล่อยตัวนักโทษการเมืองในปี 2555-2556
หลังจากปล่อยตัวออกมาด้วยความสามารถงานไอทีระดับสูงในการติดตั้งโปรแกรม และแก้ไขโปรแกรมให้หน่วยงานทั้งเอกชนและรัฐ ทำให้ตุ้มมีการเงินมั่นคงและมีมากพอสำหรับหาความบันเทิงในชีวิตกับพริตตี้ ถึงกับประกาศว่า ขอเป็นทาสพริตตี้ทุกชาติไป ตุ้มเคยสนับสนุนการเงินให้กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย ทำกิจกรรมได้อยู่หลายครั้ง และเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารพวกเราที่เจอกันในม็อบและที่เคยร่วมการเคลื่อนไหวต่อสู้
ตอนที่มีการอุ้มหาย สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ที่ลาว ตุ้มเป็นสปอนเซอร์ให้ผมและทีมงานเดินทางไปดูที่พักของสุรชัยและตะลุยไปเก็บข้อมูลการพบศพที่นครพนม จนได้หลักฐานบางอย่างที่บ่งบอกว่า ศพสุรชัยถูกอุ้มหายไปด้วยที่บ้านท่าจำปา นครพนม
วันนี้พริตตี้คนที่นั่งไปด้วยขาหัก รักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองใผ่ ส่วนตุ้มสิ้นชีวิต ความรัก ความใคร่ ความอ้างว้าง ความประมาท ไม่ปรานีใคร อาลัยรัก สุรภักดิ์ ภูไชยแสง สู่สวรรคาลัยไปเถิดเพื่อนรัก ไม่ได้ไปร่วมงานศพด้วย เพราะติดเงื่อนไขประกันตัว ออกนอกเขต กทม.ไม่ได้ ขอฝากความอาลัยรักหากท่านใดไปเข้าร่วมงานสวดอภิธรรมศพ สุรภักดิ์ ภูไชยแสง ผมเศร้า เหงา ขาดเพื่อนรักไปอีกหนึ่งคน...”
แน่นอน, เรื่องทั้งหมด ถือเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายคนได้คิด ไม่แต่เฉพาะการขับรถโดยประมาท ซึ่งกรณีดังกล่าว ยังพบว่า มีการ “ไลฟ์สด” ขณะขับขี่ด้วย รวมทั้งสภาพแวดล้อมฝนตกหนัก ถนนลื่น จนนำมาซึ่งอุบัติเหตุอันน่าเศร้าสลด
หากแต่ความเชื่อที่มีการลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อย่าง “พระสยามเทวาธิราช” ก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องที่คนไทยเชื่อถือกันมานมนาน รวมทั้งเคารพกราบไหว้มาตลอด ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร การเล่นกับของสูงที่ผู้คนเคารพบูชา ก็หนีไม่พ้น ความเชื่อไปในทางอำนาจปาฏิหาริย์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้เหมือนกัน แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคล
เหนืออื่นใด ที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ “ตุ้ม-สุรภักดิ์” เคยลบหลู่ “พระสยามเทวาธิราช” เอาไว้จริง และสิ่งที่เขากำลังต่อสู้อยู่ ก็คือ สิ่งท้าทายต่อ “พระสยามเทวาธิราช” ที่ปกป้องคุ้มครองสถาบันฯ และประเทศไทยอยู่นั่นเอง