xs
xsm
sm
md
lg

ภท.-สธ.โต้ “เดียร์” ทันควันยันวางแผนงบแก้โควิด ปล่อยตามขั้นตอนลูกพรรคโดนเสียบบัตรแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศุภชัย” ควง รองปลัด สธ. แจงการจัดสรรงบประมาณยิบ สวน “มาดามเดียร์” ยันวางแผนการทำงานใช้งบ หลังเจอโบ้ยทำสถานการณ์ลุกลามบานปลาย ส่วนกรณี ป.ป.ช.ฟัน ลูกพรรคปมเสียบบัตรแทนกัน ให้เป็นไปตามขั้นตอน

วันนี้ (9 มิ.ย.) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และ นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงชี้แจงถึงกรณีที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ นางสาววทันยา วงษ์โอภาสี อภิปรายในสภาฯ กล่าวถึงกระทรวงสาธารณสุขไม่วางแผนการทำงาน ใช้งบล่าช้า และเร่งใช้เงินหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนลุกลามบานปลาย โดย นายศุภชัย ยืนยันว่า ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น การอภิปรายดังกล่าว ทำให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับผลกระทบ

ด้าน นายแพทย์สุระ ชี้แจงถึงภาพรวมของการจัดสรรงบประมาณ ว่า ในส่วนของการได้รับเงินกู้จำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท ที่กระทรวงสาธารณสุขได้รับมานั้น แบ่งเป็น 2 ก้อน คือ ก้อนแรก ได้รับเงินแล้ว 25,175 ล้านบาท พึ่งจะได้รับการอนุมัติ 19,587 ล้านบาท (เงินยังไม่มา) แต่ในส่วน 25,175 ล้านบาท งบประมาณมีการจัดสรรมาแล้ว ก็ได้มีการเบิกจ่ายไป ในรายงานยังคงเหลือเงินอยู่ประมาณ 11,000 ล้านบาท ที่ยังเบิกจ่ายไม่แล้วเสร็จ ซึ่งในส่วนนี้ มีงบประมาณที่พึ่งจัดสรรมา ได้รับจัดสรรวันที่ 5 พ.ค. ที่ผ่านมา กว่า 5,900 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นค่าปรับปรุงห้องทันตกรรมปลอดเชื้อ รวมถึงการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ (จากต่างประเทศ)

ขณะที่เดือนเมษายน ได้รับการจัดสรรเป็นค่าวัคซีน กับค่าทดลองวิจัยจำนวน 1,800 ล้านบาท เป็นค่าวัคซีน 1,200 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้เบิกจ่าย อีกส่วนหนึ่งที่เบิกจ่ายแล้ว 643 ล้านบาทนั้น เป็นค่าวิจัยและพัฒนาก็เบิกจ่ายแล้ว ในเดือนมีนาคม ได้รับจัดสรรงบประมาณ มาปลายเดือนและกลางเดือนเป็นเงิน 4,800 ล้านบาท โดยเงินส่วนนี้ส่วนใหญ่เป็นค่าปรับปรุงห้อง บางส่วนแบ่งซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19, เครื่องฉายรังสีสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง จัดหามาทั้งหมด 7 เครื่อง กระจายออกไปทั่วประเทศ พร้อมย้ำว่า งบประมาณพึ่งได้รับการจัดสรรอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนที่เบิกจ่ายแล้วประมาณ 14,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนของการอนุมัติงบประมาณนั้น เมื่อ ครม.อนุมัติแล้วก็เป็นขั้นตอนของสำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สภาพัฒน์ โดยกระทรวงสาธารณสุข ก็ขอขึ้นไปตามขั้นตอน

นายศุภชัย ยังได้กล่าวถึงกรณี ป.ป.ช.มีมติชี้มูล 4 ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล กรณีการเสียบบัตรแทนกันในการพิจารณางบประมาณปี 2563 โดยมีทั้งคดีอาญา และคดีฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในจำนวนนี้มี นายฉลอง เทอดวีระพงศ์,  นายภูมิศิษฐ์ คงมี 2 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย กับ นางนาที รัชกิจประการ ที่เป็นอดีต ส.ส.ในพรรคเดียวกัน ว่าตามกระบวนการเมื่อ ป.ป.ช. ส่งเรื่องไปอัยการหรือยื่นฟ้องเอง พรรคจะต้องเตรียมตัวให้ ส.ส.สู้คดีเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

พร้อมระบุว่า ต้องกลับมาทบทวนกระบวนโดยเฉพาะการกล่าวหาว่าผิดจริยธรรมร้ายแรงว่ามีการลักลั่นอย่างไร เพราะในขณะที่สภาฯมีคณะกรรมการจริยธรรม ป.ป.ช.ก็มีการดำเนินการส่วนนี้ อาจซ้ำซ้อนกันหรือไม่ นอกจากนี้ กรณีที่มีความผิดแบบเดียวกันสามารถดำเนินคดีต่างข้อหาได้หรือไม่ แต่ตนมองว่าผิดหลักการควรดำเนินคดีเพียงคดีเดียวหรือไม่ พร้อมระบุว่า ความผิดจริยธรรมก็เป็นคดีอาญาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ต้องดูรายละเอียดอีกครั้ง


กำลังโหลดความคิดเห็น