ส.ส.ก้าวไกล ฉีกทิ้ง พ.ร.ก.กู้เงิน อัดกู้เงิน 5 แสนล้านบาท แต่เขียนเอกสารมาแค่ 5 หน้า ไม่รู้ร้อนหนาวความเดือดร้อนประชาชน เสนอถอน พ.ร.ก.เฮงซวยออกไปทำมาใหม่ เป็น พ.ร.บ.งบกลาง หรือเปลี่ยนคนกู้ใหม่
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล อภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้ต่อต้านการกู้เงินในสถานการณ์ที่ประชาชนเดือดร้อน เพราะ 7 ปีที่รัฐบาลบริหารมา ทำให้เงินของประเทศไม่เหลือแล้ว แต่สาเหตุที่ต้องมาคัดค้าน มีเหตุผลสั้นๆ 2 ข้อ คือ หนึ่งประชาชนทั้งประเทศเห็นตรงกันว่า คนกู้เงิน คนใช้เงิน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไร้ความสามารถในการบริหารเงินที่มีอยู่ แต่ยังมีหน้าจะไปกู้เงินมาบริหารอีก ที่ผ่านมา เคยกู้ไป 1 ล้านล้าน แต่ยังทำเอาประชาชนเจ็บปวดทั้งประเทศ แค่มาตรการง่ายๆ อย่างการแจกเงินก็ยังทำให้คนด่าทั้งประเทศได้ เราไม่ทิ้งกัน เราชนะ เรารักกัน ไม่ถ้วนหน้า ทั่วถึง ทันการณ์ รอบที่ผ่านมา เงินเยียวยาแต่ละครั้ง ต้องรอจนเยี่ยวราด มีคนขู่ฆ่าตัวตาย กินยาเบื่อหนูหน้ากระทรวง ลงทะเบียนแล้วลงทะเบียนเล่า คนจนตายรายวัน นี่จึงเป็นการแจกเงินที่มีคนด่ามากที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่แม้แต่ ส.ส. รัฐบาลเองยังพูดกลางสภาฯ มาครั้งนี้จะเอาอีก 5 แสนล้าน ไม่มีใครไว้ใจหน้าตาแบบนี้ให้กู้อีกต่อไปแล้ว เพราะพล.อ.ประยุทธ์ โตมากับการสั่งลูกน้องยึดพื้น จึงไม่รู้สึกถึงรสชาติประชาชนที่เขาโดนยึดบ้านยึดรถ ท่านบริหารสถานการณ์วิกฤตอย่างเชื่องช้า
“จากข้อมูลเบิกจ่ายเงินกู้ 1 ล้านล้าน ณ วันที่ 28 พ.ค. 2564 โครงการด้านสาธารณสุข พวกปรับปรุงห้อง ICU ปรับปรุงห้องฉุกเฉิน ปรับปรุงห้องความดันลบ ไม่มีโครงการใดแล้วเสร็จเลยแม้แต่โครงการเดียว แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจยิ่งเลวร้าย ตอนจะมาขอกู้ก็คุยโม้ โอ้อวดไว้สวยหรู บอกว่า รายได้ภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้น 11,000 ล้านต่อปี เกษตรทันสมัยจะเพิ่ม 5 ล้านไร่ พื้นที่เก็บน้ำเพิ่มขึ้น 7,900 ล้านลูกบาศก์เมตร กู้มาปีนึงแล้วไม่มีอะไรเป็นรูปธรรมเลยซักอย่างเดียว ยังไม่จบโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ 3,000 กว่าล้านบาท เบิกจ่ายไปได้แค่ 15% โครงการโคก หนอง นา โมเดล 4,000 กว่าล้าน เบิกจ่ายไปได้แค่ 17% เมื่อเข้าไปเช็กข้อมูล สุดท้ายเจอเป็นเพียงโครงการที่ทหารเอาไปใช้เล่นๆด้วยการตั้งศูนย์การเรียนรู้โคก หนอง นา ในค่ายทหาร 157 แห่ง แบบนี้จะฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย หรือฟื้นฟูเศรษฐกิจใครกันแน่”
นายณัฐชา กล่าวว่า โครงการนี้มีลักษณะตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จเหมือนเดิม โดยบอกประชาชนคนใช้หนี้ว่าจะกู้ 5 แสนล้านบาทมาเยียวยา แต่ข้อความเนื้อในมีส่วนของการเยียวยาแค่ 3 แสนล้านบาท ด้านสาธารณสุข 3 หมื่นล้าน แล้วก็สอดไส้งบฟื้นฟู ซึ่งไม่รู้ว่าฟื้นฟูเงินในกระเป๋าใครอีก 170,000 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้ผู้ขอกู้เองก็ยังไม่กล้าสู้หน้าประชาชนในสภาฯแห่งนี้ ทำแค่ส่งบริวารลิ่วล้อมาชี้แจงแทน แล้วเราจะกล้าให้เงินคนแบบนี้ไปใช้อีก 5 แสนล้าน ได้อย่างไร
นายณัฐชา กล่าวอีกว่า เหตุผลที่สองที่ไม่สามารถยอมให้รัฐบาลกู้เงินครั้งนี้ได้ เพราะจะกู้เงินมากถึง 5 แสนล้าน แต่ให้เอกสารมาพิจารณาแค่ 5 แผ่น ไม่มีบอกพี่น้องประชาชนคนใช้หนี้ตัวจริง ว่า เงินที่กู้ไปนี้จะเอาไปทำอะไร ที่ไหน อย่างไร มีตัวชี้วัดหรือไม่ว่าถ้ามีเงินกู้ก้อนนี้ พี่น้องประชาชนจะกลับคืนสู่ภาวะปกติภายในกี่เดือน วัคซีนจะได้ฉีดครบทุกคนภายในสิ้นปีนี้จะมีวัคซีนให้เลือกมากกว่านี้อีกหรือไม่ แต่ท่านกลับทำตัวลับๆ ล่อๆ ตอนผ่าน ครม. ก็ทำเป็นประชุมลับ ชักเข้าชักออกจะเอาดี หรือไม่เอาดี พอมาเข้าสภาฯส่งมา 5 แผ่น บอกให้รีบๆ ผ่านเหมือนคนร้อนเงิน แต่ถึงผ่านให้หนทางก็ยังดูมืดมน เพราะคนใช้เงินไม่เคยคิด วิเคราะห์ แยกแยะ เทียบกันให้ชัด
“รอบแรกคนติดเชื้อร้อยคนต่อวัน ท่านโอเวอร์แอกชัน สั่งล็อกดาวน์ 2 เดือน จ่ายเงินเยียวยา 15,000 บาท ต่อคน รอบสอง ติดเชื้อพันคนต่อวัน ท่านโยนภาระให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับผิดชอบเองว่าจะล็อก-ไม่ล็อก ตอนนั้นท่านให้เงินเยียวยาคนละ 7,000 บาท รอบสาม ติดเชื้อกันประมาณ 3,000 คนต่อวัน ท่านไม่ทำอะไรเลย แบ่งเงินจากที่กู้รอบที่แล้วมาให้คนละ 2,000 บาท มาวันนี้ ติดเชื้อกันสูงสุดวันละเกือบหมื่นคน นอกจากไม่เห็นท่านทำอะไรเพื่อรับมือโรคระบาดแล้ว วัคซีนก็ชุลมุน มาตรการเยียวยาก็ไม่ออกมา ล่าสุดข่าวที่เห็น ท่านจะให้คนละ 1,200 ยังอุตส่าห์ซอยเหลือรอบละ 200 กู้มา 5 แสนล้าน หลอกว่าจะเยียวยา สุดท้ายได้กันทีละ 200 ไม่ไว้วางใจคนที่ให้ท่านกู้เลยหรือ”
“ผมขอเสนอสองทาง โดยทางแรกถอน พ.ร.ก. เฮงซวยฉบับนี้ออกไป แล้วทำกลับมาใหม่เป็น พ.ร.บ. งบประมาณกลางปีที่มีรายละเอียดของแต่ละโครงการ ส่วนทางเลือกที่สอง คือ เปลี่ยนตัวคนกู้ใหม่ เปลี่ยนตัวนายกฯใหม่ เพราะนายกฯคนเดิม คนกู้คนเดิม ไม่เหลือความชอบธรรม ความน่าเชื่อถือ ในสายตาประชน ไม่มีความรู้สึกทุกข์ร้อนของประชาชน คนใช้หนี้ตัวจริงอยู่ในนี้เลย ทั้งที่ประชาชนมีความตายมีความหิวอยู่จริงๆ มีแต่ตัวหนังสือบนกระดาษ 5 แผ่น ที่ไม่มีความรู้สึกของประชาชนอยู่ในนั้น ไปทำมาใหม่ ผมไม่อาจปล่อยผ่าน พ.ร.ก.ฉบับนี้ได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายณัฐชาได้ทำการฉีกร่าง พ.ร.ก.ฉบับดังกล่าวทิ้งกลางสภาฯก่อนจบการอภิปรายด้วย