นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน สั่งเดินหน้าเต็มสูบเข้าสู่โค้งสุดท้ายสำหรับกิจกรรมเฟ้นหาผู้นำโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ในการเสริมสร้างผู้นำชุมชนสู่ระดับดีเลิศ โดยมีตำบลผู้เข้ารอบสุดท้ายจำนวน 18 ตำบล สำหรับผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อนำกลับไปพัฒนาต่อยอดขยายผลในจังหวัด อำเภอ ตำบล สร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืน
กรมการพัฒนาชุมชนให้ความสำคัญในการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในระดับต่างๆ ให้ผู้นำชุมชนมีความรู้ คู่คุณธรรม สามารถบริหารจัดการชุมชนของตนเองได้ และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา อันจะเป็นการช่วยกันสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษาและต่อยอด ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร คือ “การระเบิดจากข้างใน” เป็นการพัฒนาชุมชนให้อยู่รอด พอมีพอกิน เข้มแข็ง และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลง ด้วยการสร้างพลังชุมชน ใช้พลังชุมชน ในการพัฒนาชุมชน และยังสนองต่อแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการ 90 วัน ปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร รอบที่ 2
ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) กรมการพัฒนาชุมชนได้ให้ความสำคัญของการพัฒนาศักยภาพผู้นำชุมชนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในระดับต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้นำชุมชนให้สามารถบูรณาการงานพัฒนาชุมชนในการเสริมสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และสร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน
กลุ่มเป้าหมาย ผู้นำชุมชนจาก 1,000 ตำบล ตำบลละ 15 คน รวมทั้งสิ้น 15,000 คน ขับเคลื่อนภายใต้คติพจน์ (Motto) ว่า “1 หมู่บ้าน สามารถดูแลได้ทั้งตำบล สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”
สถาบันการพัฒนาชุมชน ได้ดำเนินโครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผ่าน ๗ กิจกรรมดังนี้
1.ประชุมสร้างความเข้าใจการขับเคลื่อนโครงการฯ กับผู้นำการเปลี่ยนแปลง 15,000 คนจากพื้นที่เป้าหมาย 1,000 ตำบล
2. อบรมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง ร่วมกิจกรรม : เอามื้อสามัคคี ,เสวนา “บริหารจัดการดิน น้ำ ป่าโก่งธนูโมเดล ,การประกาศเจตนารมย์เนื่องในวันดินโลก ฯลฯ
3. พัฒนาการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ในระดับพื้นที่เป้าหมาย1,000 ตำบล
4. ติดตาม ประเมินผล“Variety ผู้นำ เพราะคุณทำ เราจึงต้อง ตามไปดู”
5. คัดเลือก/สรรหาผู้นำการเปลี่ยนแปลงดีเด่น จาก 1,000 ตำบล ได้รับงบสนับสนุน 100,000 บาท นำไปพัฒนาระดับตำบล
6.จัดเวทีสรุปผลและประกวดผู้นำการเปลี่ยนแปลงดีเลิศ จำนวน 18 ตำบล ได้รับงบสนับสนุน 1,000,000 บาท นำไปพัฒนาระดับตำบล
7.กิจกรรมจัดนิทรรศการ/ถอดบทเรียนความสำเร็จ/เชิดชูเกียรติ
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินงานตามกิจกรรม ที่ 6 จัดเวทีสรุปผลและประกวดผู้นำการเปลี่ยนแปลง ระดับดีเลิศ โดยมีวิธีการคัดเลือกตำบลที่มีผลงานดำเงินเป็นต้นแบบจาก 76 จังหวัด ผ่านการคัดเลือกสู่ระดับดีเด่น 18 ตำบลต้นแบบ ตามพื้นที่เขตตรวจรชการ และกำลังเข้มข้นสู่การประกวดระดับดีเลิศจำนวน 1 ตำบลต้นแบบ ระดับประเทศให้มีเพียงสุดยอดหนึ่งเดียว ได้รับงบสนับสนุน 1,000,000 บาท นำไปพัฒนาระดับตำบล
ทั้งนี้มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและได้รับการยอมรับจากหน่วยงานภาคี จำนวน 11 ท่านร่วมพิจารณา อาทิดร.นิรันดร์ จงวุฒิ
เวศย์ อดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ,ท่านไมตรี อินทุสุตอดีตอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ,นายกบรรหาญ เนาวรัตน์นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโก่งธนู อำเภอเมืองลพบุรี เป็นต้น และมีการจัดเวทีในการนำเสนอ ดำเนินการผ่านระบบการประชุมออนไลน์
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า ผู้นำชุมชน คือ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการบริหารจัดการและกำหนดทิศทางการพัฒนาชุมชนให้อยู่ดี มีสุขได้ ชุมชนที่ประสงความสำเร็จในการพัฒนาไม่ว่าจะมิติใด ๆ ก็ตามล้วนแล้วแต่มีผู้นำเป็นปัจจัยความสำเร็จ
โดยฝากเน้นย้ำให้ผู้นำชุมชน เป็นแบบอย่างของการดำเนินวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาชองเศรษฐกิจพอเพียง ให้ผู้นำชุมชนมีความรู้ คู่คุณธรรม สามารถบริหารจัดการชุมชน ของตนเองได้และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงานพัฒนาชุมชนในพื้นที่ ขับเคลื่อนกิจกรรมการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งได้ไปสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยให้อยู่ดีมีสุขอย่างยั่งยืน บนพื้นฐานของความสมดุลพอดี และความพอประมาณอย่างมีเหตุผล ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยเชื่อมั่นว่า ปัญหาความยากจนเป็นเรื่องที่สามารถร่วมกันแก้ไขได้นำไปสู่การพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ด้วยการมีส่วนร่วมของประชาชน ให้มีภูมิคุ้มกัน สามารถพึ่งตนเองได้
จึงขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ ที่จะช่วยกันทำให้ ชุมชนมีความมั่นคงทางด้านอาหาร สร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม และสร้างสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน ในภาวะวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)” ภายใต้คติพจน์ (Motto) ว่า “1 หมู่บ้าน สามารถดูแลได้ทั้งตำบล สร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งความสำเร็จของ โครงการเสริมสร้างและพัฒนาผู้นำการเปลี่ยนแปลง มาจากพวกเราทุกคน