xs
xsm
sm
md
lg

เอาแล้ว! “พี่โทนี่” ถูกถอนหงอก สร้างแต่ความแตกแยก “สามกีบ” เลียนแบบ “อาร์ต พศุตม์” หยามมีค่ากว่า ดารา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ นายทักษิณ ชินวัตร จากแฟ้ม
รองเลขาฯ พลังธรรมใหม่ สุดทน ถอนหงอก “พี่โทนี่-แม้ว” สร้างแต่ความแตกแยก มาถี่ไม่ทำประโยชน์ให้ ปชช. “สามกีบ” เลียนแบบ “อาร์ต พศุตม์” ยกหางกันเอง มีค่ากว่าดารา “สุทิน” เละคาบ้าน บังอาจเทียบจำนำข้าวกับ “พระราชดำรัส”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (6 มิ.ย. 64) นายณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์ รองเลขาธิการพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึง “โทนี่ วู้ดซัม” หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า

ปรากฏการณ์ “ทักษิณ” เคลื่อนไหวการเมืองช่วงนี้ถี่ขึ้น เกิดจากอะไร? ผมคิดว่า เพราะคุณทักษิณกำลัง “รีแบรนดิ้ง” พรรคเพื่อไทยใหม่อยู่ สังเกตให้ดี ตอนนี้ไม่มีใครเรียก “คุณทักษิณ” แล้ว แต่ทุกคนเรียกว่า “โทนี่” ชื่อนี้กลายเป็น “อวตารใหม่” ของคุณทักษิณ ดังนั้น ตอนนี้เป็นช่วงที่พรรคเพื่อไทยกำลังปรับโครงสร้างในพรรคใหม่ หลังกลุ่ม “คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์” ลาออกไปตั้งพรรค “ไทยสร้างไทย”

“ผมอยากฝากข้อเสนอสักเล็กน้อย หากท่านโทนี่จะรับฟัง ว่า การที่ท่านออกมาพูดเนี่ย คนไทยได้อะไร ได้ประโยชน์ไหม หรือได้วาดฝัน ว่า ถ้ามีนายกฯแบบท่านแล้ว ประเทศจะรอดพ้นจากวิกฤตครั้งนี้โดยง่าย แต่ผมเรียนตรงๆ ผมไม่ชอบเลย กับการที่ท่านออกมาเเล้วประชาชนเกิดความแตกแยก นักการเมือง ทะเลาะกันกว่าเก่า โดยไม่มีใครได้ประโยชน์ ท่านเป็นถึงอดีตนายกฯที่มีประชาชนรักมากคนหนึ่ง แต่ท่านกลับไม่คิดถึงประชาชนที่รักท่าน มุ่งเน้นแต่จะเรียกเรตติ้ง เรียกราคาให้ตัวเอง”

ผมจึงอยากขอเสนอให้นายทักษิณแข่งกับรัฐบาล หาวัคซีนดีๆ มาให้คนไทย แล้วท่านจะได้คะเเนน ได้ความรักจากคนไทยไปอีกนานเท่านาน หรือไม่ก็หาเครื่องบิน มารับคนไทยไปฉีดวัคซีนต่างประเทศ หรือที่ที่ท่านอยู่ก็ได้ แบบนี้จะเป็นประโยชน์มากกว่าการที่ท่านออกมาพูดขายฝัน ทำเป็นเท่ รู้ทุกเรื่อง แก้ปัญหาเก่ง แต่ไม่เกิดประโยชน์ ...เฮ้อ พี่โทนาฟ

“ตอนที่นายทักษิณอยู่พรรคพลังธรรมของผม ก็เคยประกาศว่า จะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพมหานครให้สำเร็จได้ใน 6 เดือน แต่ที่นายทักษิณได้เป็นนายกรัฐมนตรีเป็นเวลากว่า 5 ปี ก็ไม่เห็นสามารถทำจัดการอะไรได้ เหมือนอย่างที่นายทักษิณอ้างว่า จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศให้ได้ภาย 6 เดือน ก็คงไม่ต่างจากที่เคยคุยว่าจะแก้ปัญหาจราจรให้สำเร็จได้ภายใน 6 เดือน”

ภาพ สามกีบ เลียนแบบ “อาร์ต พศุตม์” ขอบคุณภาพ จาก TRUTHFORYOU.CO
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์หัวเรื่อง “รับไม่ได้ ต้องรีบฟ้อง? ก๊วน 3 กีบ ยก “นิวส์ แกนนำบุรีรัมย์ปลดแอก” มีค่ากว่า “อาร์ต พศุตม์” หลังถูกว่า “เปิดบัญชีขอทาน”!!

ขอบคุณภาพ จาก TRUTHFORYOU.CO
โดยเนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า “จากกรณีเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 63 น.ส.จตุพร แซ่อึง หรือ นิวส์ จากกลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก ที่ถูกหมายเรียกในคดี ม.112 หลังจากที่ได้แต่งชุดไทยเดินแบบ ที่วัดแขกสีลม และมีการปูพรมแดง เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ได้มารับทราบข้อกล่าวหา หลังถูก น.ส.วริษนันท์ ศรีบวรธนกิตติ์ แอดมินเพจเชียร์ลุง มาแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งก่อนเข้าไปสน. น.ส.จตุพร ยังได้โชว์รอยสักหมายเลข 9 ที่ไหล่ซ้ายด้วยนั้น

ต่อมา นิวส์ กลุ่มบุรีรัมย์ปลดแอก มีการโพสต์เลขบัญชีเพื่อขอรับเงินบริจาค ซึ่งคาดว่า นำเงินมาเป็นค่าเดินทาง ในการเข้าฟังคำสั่ง ว่าอัยการจะสั่งฟ้องในคดี ม.112 เมื่อวันที่ 5-6 พ.ค. 64 ที่ผ่านมา

ขอบคุณภาพ จาก TRUTHFORYOU.CO
ล่าสุด ในเฟซบุ๊ก Jatuporn Saeoueng ของนิวส์ นั้น ได้โพสต์ข้อความว่า ได้ตัดสินใจฟ้องคนที่มาคอมเมนต์ถามในเฟซบุ๊กของตนเองแล้ว 1 ราย โดยระบุว่า “เป็นเคสแรกที่ตัดสินใจจะฟ้อง เราไม่เคยรู้จักกัน และเงินบริจาคเป็นล้านไม่จริง เราปล่อยผ่านมานานมากแล้ว‼️ ส่วนเงินที่มาจากการฟ้องจะแบ่งไปทำอาหารแจกคนไร้บ้าน”

โดยข้อความนั้น เข้ามาคอมเมนต์ว่า “เปิดบัญชีขอทาน ชู 3 กีบ แปบเดียว 3 กีบ ก็บริจาคเป็นล้าน” และยังมีคอมเมนต์ในโพสต์นี้ ในเชิงเปรียบเทียบกับ อาร์ต พศุตม์ ที่ฟ้องคนหมิ่นประมาท ว่า เราเป็นนักสู้ต้องได้เงินค่าเสียหายมากกว่าดารา

นอกจากนี้ ในเฟซบุ๊กของนิวส์ ยังมีหลายโพสต์ หลายข้อความที่พาดพิงถึงเรื่องงบของสถาบันฯ และได้สวมเสื้อยืดที่เขียนคำว่า ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์สิ แล้วเราจะกลับมาศรัทธา ซึ่งหลายๆ ข้อความของนิวส์ ทีมงานบุรีรัมย์ปลดแอกนั้น เข้าข่ายที่จะผิดตามมาตรา 112 และอาจจะมีข้อหาเพิ่มด้วย”

ภาพ นายนันทิวัฒน์ สามารถ จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“ไอ้พวกสัปดนเกิดในแผ่นดินไทย แต่ดันไปชื่นชมประเทศอื่น ความจริงคนพวกนี้ ควรจะย้ายตัวเองไปอยู่ที่ที่ตัวเชิดชู จะได้สบายอกสบายใจ อยู่เมืองไทยอึดอัดนักละก้อ ประเทศไหนดีกว่ารีบๆ ไป

พองบประมาณเข้าสภาฯที พวกคลั่งฝรั่งเศส ไม่ว่าจะปิแย หรือพวกพิการนิ้ว ก็เอาเรื่องโกหกออกมาฉายซ้ำ ทั้งๆ ที่รู้ว่า ไม่จริง ไม่ใช่

แต่ขอให้ได้โกหก หลอกสาวกที่โง่ๆ ให้หลับหูหลับตาเชื่อ กดยากล่อมประสาท สร้างชุดความคิด ให้เกิดแผ่นเสียงตกร่อง ย้ำคำย้ำเชื่อ

คนพวกนี้มีความเก่งในการสร้างเรื่องให้ตัวเองเป็นตำบลกระสุนตก หรือจะหิวแสง กลัวโลกลืม ให้คนที่รักความถูกต้องเอาความจริงออกมาเอากระแทกใส่หน้า ชอบความเจ็บปวด

วันไหนไม่ได้กระแซะสถาบันคงจะอกแตกตาย”

ภาพ นายสุทิน คลังแสง จากแฟ้ม
และที่เป็นกระแสอยู่ในเวลานี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน และ ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายตอบโต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐรัฐมนตรี ที่หยิบยกเรื่องโครงการจำนำข้าวขึ้นมาพูด

โดย นายสุทิน พูดว่า “ท่านนายกฯ เคยได้ยินพระราชดำรัสไหม คณะรัฐมนตรีเคยได้ยินไหมพระราชดำรัส ในหลวง ขาดทุนคือกำไร รัฐบาลอาจจะขาดทุน แต่ถ้าชาวบ้านได้ก็คือกำไร นี่ไงโครงการจำนำข้าวก็ช่วยไป” ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการหยิบยกพระราชดำรัส มาเปรียบเทียบกับโครงการจำนำข้าว ที่มีการทุจริตอย่างมหาศาล

หลังจากนั้น นายสุทิน ยังนำคลิปอภิปรายดังกล่าว ไปโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว และไม่นานก็มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาฟังและเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงโพสต์ข้อความตอบโต้ ที่น่าสนใจคือ

“ทุจริตคอร์รัปชัน ยังมีหน้ามาอ้างพระราชดำรัส….ประเด็นคือ โกงนะครับ…โกงแล้วโกงอีก ….คนได้กำไรคือคนโกงนะครับ….ไม่สำนึกขอโทษประชาชนบ้างเหรอครับ”

“ไอ้เลว บังอาจเอาพระราชดำรัส ในหลวงมาแก้ต่าง ให้ไอ้คนโกง มึงนี่มันสุดด้านจริงๆ”

ต่อมา นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ก็ได้โพสต์ข้อความสุดเจ็บผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยไม่ได้หมายถึงใคร ว่า

“หน้าด้าน

ทุกวันนี้ นักการเมืองหน้าด้าน ไม่มีอะไรจะเปรียบเทียบได้ บังอาจเอาพระราชดำรัส ขาดทุนคือกำไร มาฟอกขาวให้กับนโยบายจำนำข้าว ที่ล้มเหลวของพรรคการเมือง
ใครขาดทุน ประเทศชาติ ใครกำไร นักการเมือง เงินเข้ากระเป๋านักการเมือง จีทูเจี๊ยะ จีทูเจ๊ง ขาวนาไม่ได้เงินต้องผูกคอตาย

ถ้านโยบายดีจริง เจ้านายคงไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปต่างประเทศ ปล่อยลูกน้องติดคุก รู้จักยอมรับผิด รู้จักขอโทษประชาชนบ้าง

หน้าไม่อาย พูดมาได้ นี่มันคือ คอร์รัปชันเชิงนโยบาย”

แน่นอน, ประเด็นทั้งหลายทั้งปวง ล้วนน่าคิด น่าวิเคราะห์ทั้งสิ้น นับแต่โพสต์ของ นายณัฐดนัย ชนิตร์วัฒน์ รองเลขาธิการพรรคพลังธรรมใหม่ ที่กล่าวถึง “ทักษิณ” ในมุมที่สาวกผู้ภักดี น่าจะนำเอาไปคิดบ้าง ถ้านายทักษิณ อยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ และช่วยเหลือประชาชนที่รักเขา และเขาก็บอกว่า รักและห่วงใยอย่างมาก ก็มีตั้งหลายช่องทางที่จะช่วยได้ และอาจไม่จำเป็นต้องผ่านรัฐบาล ถ้ากลัวรัฐบาลได้หน้า

ไม่ใช่ช่วยให้คนไทยขัดแย้งแตกแยกหนักขึ้น เพื่อประโยชน์ตัวเอง อย่างที่ “ณัฐดนัย” แสดงความเห็น

ประเด็นที่มีการเลียนแบบ “อาร์ต พศุตม์” กรณีฟ้องร้องคนที่เข้ามาคอมเมนต์ให้เกิดความเสียหายถึงขั้นหมิ่นประมาท และข้อมูลอันเป็นเท็จมาโพสต์ แล้วนำเงินค่าปรับไปบริจาคช่วยเหลือสังคม ถ้าทำได้จริง อาจเกิดผลบวกก็เป็นได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด

ยิ่งถ้าทำให้เป็น “เทรนด์ใหม่” ได้ยิ่งดี เพราะอย่างน้อย ผู้ด้อยโอกาสในสังคมจะได้ประโยชน์ และที่สำคัญ จะช่วยทำให้คนที่ โพสต์อย่างไม่รับผิดชอบ หันมาสนใจระมัดระวังมากขึ้น การแสดงความคิดเห็นแบบไม่คิด ก็จะค่อยๆ น้อยลง

แต่ถ้าแค่ต้องการตอบโต้ทางการเมือง และทำให้เกิดประเด็นหยามหยันกันขึ้น ก็คงยิ่งน้ำเน่ากันไปใหญ่เท่านั้นเอง

สุดท้ายกรณี “สุทิน” นำเอา พระราชดำรัส มาเปรียบเทียบกับ โครงการรับจำนำข้าว ดูเหมือนความคิดเห็นของ อดีตรองผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ อธิบายเอาไว้อย่างสะอาดหมดจดแล้ว ต้องถือว่า เป็นการ “บังอาจ” อย่างมาก

เหนืออื่นใด สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ ต้องยอมรับว่า การเมืองไทยไร้ทิศทางและอนาคต บนผลประโยชน์ทางการเมืองที่แต่ละฝ่ายต่างต้องการ และใช้ทุกวิธีในการเอาชนะ แม้แต่สร้างเรื่องเท็จ สร้างข่าวปลอม บิดเบือนความจริง พูดความจริงแค่ครึ่งเดียว เพื่อหลอกลวงประชาชน มันน่าเศร้าใจก็ตรงนี้แหละ!


กำลังโหลดความคิดเห็น