นายกฯ หงุดหงิดลูกพรรค ภท.ไม่พอใจ สธ.โดนหั่นงบ ทั้งที่กระทรวงอื่นก็ถูกตัดเหมือนกัน สั่ง “อนุทิน” เคลียร์ อย่าปล่อยให้ออกมาซัดแบบนี้ แจงกลางวง ครม.งบกลาโหม จัดซื้อยุทโธปกรณ์แค่ 1 ใน 3 ชี้ยังจำเป็น ไม่ใช่รอให้รบกันก่อน
เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ยังคงเป็นรูปแบบการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า นายกฯ อารมณ์ไม่ดี และหงุดหงิดมากตั้งแต่เช้า และตำหนิการทำงานของรัฐมนตรีในหลายกระทรวง
โดยช่วงวาระเรื่องการพิจารณามาตรการต่างๆ ของรัฐบาล คือ แจกเงินคนละครึ่งเฟส 3 โครงการบัตรคนจน และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ในเรื่องการทุจริตต่างๆ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทำข้อเสนอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตช.) ต้องรายงาน ครม.ทุก 3 เดือน โดยเฉพาะโครงการคนละครึ่ง ที่พบว่ามีการทุจริต ทั้งนี้ นายกฯ ย้ำว่า โครงการที่นำเสนอดี แต่จะต้องทำได้จริง หลายโครงการล้าช้า เพราะมีปัญหาเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง
ขณะที่วาระเรื่องสภาผู้แทนราษฎร นายกรัฐมนตรี ย้ำในที่ประชุมว่า ขอให้รัฐมนตรีทุกคนชี้แจงสภา โดยการจัดสรรเวลาของ ครม.ที่ลดลงจะใช้เวลาชี้แจงอย่างไรให้ชัดเจน อย่างหลายเรื่อง เช่น งบประมาณในส่วนกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีการจัดหายุทโธปกรณ์เพียงแค่ 1 ใน 3 ของงบประมาณเท่านั้น เพื่อให้มีความพร้อมใช้ได้และยุทโธปกรณ์จะต้องมีสภาพพร้อมใช้งานไม่ใช่ว่าจะรอให้ไปรบก่อน แม้ว่าวันนี้ไม่มีสถานการณ์ที่จะต้องไปรบ แต่จะต้องพร้อมใช้งาน
นอกจากนี้ นายกฯ ยังกล่าวย้ำว่า ขอให้ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเรื่องพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงินวงเงิน 5 แสนล้านบาท กับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ที่ประชาชนเอาไปรวมกัน จึงต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจว่าเงินกู้ 5 แสนล้านบาท นำไปช่วยเหลือแก้ปัญหาโควิด-19 ถ้าหากจะรองบประมาณปี 2565 กว่าจะได้ใช้อยู่ในช่วงเดือน ม.ค.- ก.พ. และช่วงนี้จะใช้เงินที่ไหน จึงจำเป็นจะต้องออก พ.ร.ก.กู้เงินดังกล่าว จึงต้องอธิบายประชาชนให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายการประชุม ครม. นายกฯ บ่นถึงกรณีที่ นายชาดา ไทยเศรษฐ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย และลูกพรรคอีกหลายคน แสดงความไม่พอใจการถูกตัดงบประมาณของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการอภิปรายตำหนิค่อนข้างรุนแรง ซึ่งนายกฯ กล่าวว่า กระทรวงอื่นก็ถูกตัดงบประมาณเหมือนกัน ไม่ใช่เฉพาะกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงสาธารณสุขไปเอางบประมาณในส่วนอื่นๆ ได้ และขอให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ไปชี้แจงลูกพรรคให้เข้าใจถึงการจัดทำงบประมาณและเหตุผลความจำเป็นต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา อย่าปล่อยให้ออกมาซัดกันแบบนี้