เลขาฯ สมช.เผย กทม.ผ่อนคลายมาตรการคุมโควิด-19 เป็นแค่มติคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ ตามที่เอกชนขอมา แต่นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.มองภาพรวมตัวเลขผู้ติดเชื้อยังสูง จึงให้ชะลอไว้ ระบุ ยังไม่มีการออกประกาศ แต่ กทม.แถลงข่าวออกไปก่อน จึงไม่ถือว่า ศบค.เบรก
วันนี้ (1 มิ.ย.) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกรุงเทพฯ ขยายการปิดกิจการและกิจกรรมที่มีความเสี่ยงทั้งหมด ตามประกาศฉบับที่ 29 ออกไปอีก 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2564 เป็นต้นไป ว่า ไม่มีอะไรเพราะคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ พิจารณามาตรการผ่อนคลายเนื่องจากภาคเอกชนได้ขอมา ซึ่งทางคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ พิจารณาว่าไม่ขัดแย้งกับข้อกำหนดหรือแนวทางที่ ศบค.ได้กำหนดไว้ แต่อย่างไรก็ตามในทุกๆ เรื่องนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.สามารถมีนโยบายหรือข้อกำหนดอะไรที่แตกต่างจากนั้น ได้เพราะท่านมองในภาพรวม ย้ำว่า ไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติอะไร ซึ่งกรุงเทพฯ ให้ข่าวแค่เบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่มีประกาศอะไรออกมา และยังไม่ออกเป็นคำสั่งอย่างเป็นทางการ ยืนยันว่า ไม่ใช่การที่กรุงเทพฯ เสนอมาแล้ว ศบค.เบรกเอาไว้ เป็นเพียงแค่ผลการประชุมไม่ใช่การออกประกาศอย่างเป็นทางการ แต่กรุงเทพฯ ให้ข่าวออกมาก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีในฐานะ ผอ.ศบค.ได้พิจารณาจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ว่ายังมีสูงอยู่และมีการแพร่ระบาดของเชื้อเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังเป็นห่วงในภาพรวมจึงให้ชะลอเรื่องดังกล่าวเอาไว้ก่อน แต่นายกฯ เข้าใจทั้งกรุงเทพฯ และผู้ประกอบการ ซึ่งเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้สั่งการให้ตนหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเร่งรัดในการฉีดวัคซีนกับกลุ่มอาชีพที่กรุงเทพฯ จะผ่อนคลาย ได้แก่ พนักงานนวดแผนโบราณ พนักงานเสิร์ฟอาหาร ช่างตัดผม ในกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมการให้เรียบร้อยเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะอนุญาตให้ผ่อนคลายในโอกาสต่อไป
เมื่อถามว่า องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อบจ.) จังหวัดปทุมธานีจะขอซื้อวัคซีนทางเลือก โดยให้ ศบค.เป็นผู้ตัดสินใจ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ ตนจะรับข้อเสนอจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานคณะกรรมการวัคซีนทางเลือก โดยจะมาหาหรือร่วมกันและรายงานนายกรัฐมนตรี เพื่อเห็นชอบแนวทาง ซึ่งในเรื่องนี้มีอยู่ 2 ประเด็น คือ 1. การสั่งวัคซีนเข้ามาภายในราชอาณาจักรและการซื้อวัคซีนภายในประเทศ 2. การที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะขอซื้อทำให้เกิดความสับสนสนและไม่ใช่การสั่งซื้อเองจากต่างประเทศเข้ามาภายในราชอาณาจักร แต่เป็นการสั่งจองวัคซีนผ่านทางเลือกจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และทุกอย่างจะต้องฟังความคิดเห็นในที่ประชุม ทั้งในแง่กฎหมายและให้นายกฯ ตัดสินใจ