รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยใช้ระบบ Co Link เพิ่มความคล่องตัวบริหารจัดการเตียงโควิดใน กทม. เผยผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเหลืองจากแคมป์ก่อสร้างหารือนำส่งโรงพยาบาลบุษราคัมเพิ่ม ส่วนโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะเตรียมเปิดเตียงสีเหลืองเข้มและสีแดง รองรับผู้ติดเชื้อกลุ่มเรือนจำ คาดเปิดรับได้พรุ่งนี้
วันนี้ (17 พ.ค.) ที่ กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขพร้อมด้วย นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ประชุมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล และการบริหารจัดการเตียงในเขต กทม. โดย ดร.สาธิต กล่าวว่า ที่ประชุมคณะที่ปรึกษา ศบค.ที่มีศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้บูรณาการการบริหารจัดการเตียงผู้ป่วยโควิดใน กทม. โดยให้มีจุดคัดแยกอาการผู้ติดเชื้อ 3 จุด คือ โรงพยาบาลบุษราคัมดูแลกรุงเทพโซนเหนือ ศูนย์แรกรับ-ส่งต่อนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ดูแลกรุงเทพโซนกลาง และโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ดูแลกรุงเทพโซนใต้ สำหรับการบริหารจัดการเตียงผู้ติดเชื้อโควิดใน กทม.ให้ใช้ระบบเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดหรือ Co Link ซึ่งจะรับข้อมูลผู้ติดเชื้อมาจากระบบห้องปฏิบัติการรวม (Co Lab), ระบบการค้นหาเชิงรุกรวม (Co Finding) รวมถึงข้อมูลระบบเตียงรวม (Co Ward) โดยจะประเมินอาการคัดแยกระดับสีอาการเขียวเหลืองแดง และส่งเข้าสู่ระบบการรักษาตามอาการต่อไป ระบบนี้จะช่วยให้การบริหารจัดการสะดวกและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
สำหรับการพบผู้ติดเชื้อโควิดในกลุ่มแคมป์คนงานก่อสร้างจำนวนมาก โดยเฉพาะเขตหลักสี่และวัฒนาส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายหากพบผู้ติดเชื้อแรงงานต่างด้าวอาการสีเขียวจะนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จ.สมุทรสาครที่ยินดีช่วยรองรับกลุ่มนี้ และขณะนี้กำลังหารือให้โรงพยาบาลเอกชนช่วยรับผู้ติดเชื้อกลุ่มสีเขียวต่างด้าวด้วย เนื่องจากยังมีเตียงสีเขียวว่างจำนวนมาก ส่วนกลุ่มสีเหลืองขณะนี้มีศูนย์แรกรับ-ส่งต่อนิมิบุตร และสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีรองรับบางส่วน และอยู่ระหว่างหารือให้โรงพยาบาลบุษราคัมช่วยรับบางส่วน ส่วนผู้ติดเชื้อในเรือนจำ มีอาสาสมัครเรือนจำคัดแยกอาการผู้ติดเชื้อ โดยโรงพยาบาลราชทัณฑ์มีความพร้อมในการดูแลผู้ติดเชื้อสีเขียวและสีเหลือง โดยมีแนวทางการให้ยาฟาวิพิราเวียร์สำหรับกลุ่มที่ไม่มีอาการแต่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุหรือมีโรคประจำตัว และกลุ่มที่เริ่มมีอาการแล้ว ส่วนการเตรียมเตียงรองรับผู้ป่วยมีอาการรุนแรง จากการตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ พบว่ามีความพร้อม โดยได้เปิดเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการสีแดง 48 เตียง และเตียงอาการสีเหลืองเข้มที่สามารถใช้เครื่องออกซิเจนไฮโฟลว์ได้ 150 เตียง คาดว่า จะเปิดได้วันที่ 18 พฤษภาคม 2564 แต่จะต้องจัดบุคลากรทางการแพทย์ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาช่วยกันดูแลผู้ป่วย
ทั้งนี้ ได้หารือร่วมกับโรงพยาบาลเอกชนถึงความเป็นไปได้ในการขยายเตียงอาการสีเหลืองเข้มและสีแดง ซึ่งทาง สปสช.ได้เสนอ ครม.เพื่อปรับเพิ่มอัตราจ่ายค่าบริการรักษาพยาบาลโควิดในบางรายการที่ยังไม่มีกำหนด รวมทั้งปรับเพิ่มอัตราค่าห้องและพยาบาลไอซียู