xs
xsm
sm
md
lg

ศ.ดร.กนกเชื่อรัฐคุมโควิด-19 บุกเรือนจำได้ เหตุเป็นพื้นที่ปิด ห่วงเด็กไร้วัคซีนฉีด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เชื่อรัฐคุมโควิด-19 บุกเรือนจำได้ เหตุเป็นพื้นที่ปิด ห่วงเด็กไร้วัคซีนฉีด บี้รัฐนำเข้าวัคซีนสำหรับเด็กโดยด่วน แนะ ศธ.เพิ่มหลักสูตรใช้ชีวิตในยุคโควิด เชื่อมระบบออนไลน์ ออนไซด์ และออนแฮนด์ ห่วงเว็บ ครูพร้อม ไม่พร้อมจริง เหตุขาดการบูรณาการ ย้ำต้องตั้ง War Room ใน ศธ. บริหารในภาวะวิกฤต วอนระดมฉีดวัคซีนให้ครู 4 แสนคน

วันนี้ (19 พ.ค.) ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่พุ่งสูงมากกว่าหนึ่งหมื่นคนในเรือนจำทั่วประเทศว่า ภาครัฐน่าจะควบคุมได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ปิด การควบคุมสถานการณ์ทำได้ง่ายกว่าพื้นที่เปิด แต่ยังต้องตระหนักว่าการแพร่ระบาดยังเป็นวิกฤต ซึ่งสิ่งที่เป็นห่วงคือการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส ทำให้ติดเชื้อเร็ว รุนแรง การเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะครูและบุคลากรทางการศึกษา ที่สำคัญคือ เรายังไม่มีวัคซีนสำหรับเด็ก จึงขอฝากไปยังรัฐบาลว่าต้องเร่งนำเข้าวัคซีนสำหรับเด็กได้แล้ว เพราะกว่าจะนำเข้าได้จริงต้องใช้เวลา
“ทางกระทรวงศึกษาธิการตัดสินใจเลื่อนเปิดเทอมไปเป็นวันที่ 14 มิถุนายน จากเดิมกำหนดวันที่ 1 มิถุนายน ผมก็คิดว่าจะทำให้มีเวลาเตรียมเรื่องการเรียนการสอนมากขึ้น แต่ถ้าพูดตรงๆ มีสองเรื่องที่ผมเห็นว่าน่าห่วงคือ เรื่องการเรียนรู้ของนักเรียนที่ต้องไม่เสียโอกาสจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการใช้ชีวิตของนักเรียน ทั้งอยู่ที่บ้านและไปโรงเรียน ควรมีการสอนเพิ่มเพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักว่าควรใช้ชีวิตในภาวะวิกฤตเช่นนี้อย่างไร ซี่งในขณะนี้ถือว่ารมว.ศึกษาธิการกำหนดนโยบายภาพรวมดีแล้ว คือไม่ทำแบบตัดเสื้อโหล ให้โรงเรียนแต่ละแห่งมีการบริหารจัดการที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนแต่ละแห่ง แต่มีสิ่งที่น่าห่วงคือเว็บครูพร้อมที่กระทรวงศึกษาธิการเพิ่งเปิดตัวให้บริการเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา จะกลายเป็นเว็บครูไม่พร้อม เพราะความสามารถของเว็บที่จะรองรับคนจำนวนมากเข้าไปดู อาจเกิดปัญหาได้ จึงอยากให้กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ด้วย” ศ.ดร.กนกกล่าว

รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุด้วยว่า ตัวเลขนักเรียนที่ สพฐ.ดูแลเฉพาะชั้นประถมและอนุบาลมีมากถึง 6.5 ล้านคน ถ้าพ่อแม่ครึ่งหนึ่งเฮละโลเข้าไปดูในเว็บครูพร้อม จะพร้อมจริงหรือไม่ ตรงนี้เป็นจุดสำคัญ และอย่าเข้าใจว่าเว็บครูพร้อมคือคำตอบของทุกอย่าง เพราะเป็นเพียงการให้ข้อมูล ไม่ใช่การสอน ต้องมีระบบอื่นเข้าไปประกอบ เช่น ระบบออนไลน์ ออนไซด์ ออนแฮนด์ ระบบเหล่านี้สัมพันธ์กับเว็บครูพร้อมหรือไม่ หรือว่าไปคนละทาง ถ้าเป็นแบบนั้นก็จะเป็นปัญหา สร้างความสับสนได้ รมว.กระทรวงศึกษาธิการต้องบอกกับข้าราชการให้ชัดถึงการบริหารในภาวะวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้เกิดวิกฤตด้านการเรียนการสอน จะทำงานแบบเดิมไม่ได้ เป็นพื้นฐานที่รัฐมนตรีต้องเปลี่ยนแนวคิด การกระทำของข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ถ้ายังทำแบบเดิมทุกอย่างจะไม่สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้

“ส่วนเรื่องระบบออนไลน์ต้องปรับใหม่ โดยครูต้องอัดคลิปในทุกชั่วโมงที่สอนประมาณครึ่งชั่วโมง นำคลิปไปแขวนที่เว็บครูพร้อมในรายวิชา ซึ่งนักเรียนสามารถเปิดดูได้ เท่ากับนักเรียนได้ฟังบรรยายก่อนเข้าห้องเรียน จากนั้นเชื่อมสู่ออนไซด์ คือ เมื่อนักเรียนมาโรงเรียนก็สามารถถามครูที่ห้องเรียนในสิ่งที่สงสัยได้ ขณะที่ครูสามารถตั้งคำถามกับนักเรียน นำไปสู่การเรียนรู้ร่วมกันได้ ดังนั้นสองระบบนี้จึงต้องออกแบบคู่ขนานกัน แต่น่าเสียดายที่กระทรวงศึกษาธิการไม่ได้ทำตรงนี้ ส่วนออนแฮนด์นั้นใช้กับกรณีเด็กที่ด้อยโอกาส โดยครูต้องไปเยี่ยมที่บ้าน เอาเอกสารไปแจก แต่กระทรวงศึกษาธิการก็ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร และที่อยากฝากรัฐบาลคือ การระดมฉีดวัคซีนให้ครูสี่แสนคนก่อนเปิดเทอม และขอฝากถึง รมว.ตรีนุชให้ตั้ง War Room ในกระทรวงศึกษาธิการได้แล้ว เพื่อติดตามผลการเรียนการสอนทุกวัน จะได้สั่งการแก้ปัญหาได้ทันท่วงที จึงจะเป็นการบริหารในภาวะวิกฤต” ศ.ดร.กนกกล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น