xs
xsm
sm
md
lg

หมิ่นสถาบัน VS แอบอ้าง! “ลิซ่า” เชียร์ “อแมนด้า” โหนข่าวลือเบื้องสูง “ตีแผ่” โฉมหน้าขบวนทำราชวงศ์เสื่อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ลิซ่า MasterChef” ขอบคุณภาพจาก TRUTHFORYOU.CO
หมิ่นสถาบัน ถึงคิว “ลิซ่า” เชียร์ “อแมนด้า” โหนข่าวลือเบื้องสูง “พงศ์พรหม ยามะรัต” รอง หน.พรรคกล้า ตีแผ่ขบวนการแอบอ้างสถาบันฯ ทำให้ราชวงศ์เสียหาย หลังกองปราบปรามจับกุมขบวนการตุ๋นพันล้าน “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 พ.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ข้อความ ระบุว่า

“อย่าคิดว่าเท่!? แฉยับ โพสต์ “ลิซ่า MasterChef” โหนข่าวลือพาดพิงสถาบันฯ ก่อนลบหลักฐานหนี ส่อโดน 112 อีกราย!!
#ลิซ่าMasterChef #โหนข่าวลือ #ส่อโดน112”

ภาพ “ลิซ่า MasterChef” ขอบคุณภาพจาก TRUTHFORYOU.CO
รวมทั้งแชร์เนื้อหาจาก TRUTHFORYOU.CO ระบุว่า
“จากกรณีที่เกิดประเด็นแชร์ข่าวลือเชิงลบต่อสถาบันฯบนโลกโซเชียลมาก่อนหน้านี้ ทำให้กลุ่มคนดัง และกลุ่มของม็อบ 3 นิ้ว พากันคอมเมนต์ด้วยข้อความที่เข้าข่ายทำให้เข้าใจผิด

ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก และมีการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่นเดียวกับที่ นายสุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล หรือ ฮาร์ท นักร้องชื่อดัง แชร์บนเฟซบุ๊กตนเอง ก่อนจะลบทิ้งในภายหลัง แต่เจ้าตัวได้โดนคดี ตามความผิดมาตรา 112 แล้วนั้น

ต่อมาในโลกโซเชียล ยังได้มีการแชร์ภาพ การโพสต์ข้อความของ ลิซ่า MasterChef Thailand ผู้เข้าแข่งขันรายการทำอาหารชื่อดัง ที่เจ้าตัวโพสต์ข้อความถึงข่าวลือที่ไม่เหมาะสม ในทำนองว่า จะเกิดอะไรขึ้น ก็ขอรอให้ อแมนด้า ได้มงก่อน เพราะไม่อยากให้น้องต้องใส่สีดำกราบเวที ซึ่งเจ้าตัวรอลุ้นการเชียร์ประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2020 ในวันจันทร์นี้ ก่อนที่จะพบว่า เจ้าตัวลบโพสต์ดังกล่าวออกไปแล้ว

ภาพ อแมนด้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์  ขอบคุณภาพจาก TRUTHFORYOU.CO
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ อแมนด้า มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ เคยมีประเด็นลองตอบคำถามกับกรรมการ และมีคลิปออกมาเผยแพร่คำตอบของเจ้าตัวว่า จะเลือกคนทุจริตบริหารประเทศ จนทำให้หลายคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม แม้จะเป็นการทดลองตอบคำถามก็ตาม และที่ผ่านมา อแมนด้ามักเคลื่อนไหวสนับสนุนกลุ่มม็อบ 3 นิ้วมาโดยตลอด”

ภาพ นายพงศ์พรหม ยามะรัต จากแฟ้ม
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH เช่นกัน โพสต์ข้อความเกี่ยวกับ กรณีกองปราบปราม จับขบวนการต้มตุ๋นพันล้านของ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ระบุว่า

“สืบเนื่องจากกรณีตำรวจกองปราบปรามจับกุม พ.ท.พญ.อมราภรณ์ วิเศษสุข ประธานโครงการ “เที่ยวเพื่อชาติ” น.ส.ณัฐวรรณ อุตตมะปรากรม อายุ 33 ปี น.ส.สิริมา เนาวรัตน์ อายุ 37 ปี และ นายกิตติวัฒน์ อ่วมอารีย์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ส่วน นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ประธานโครงการ “คืนคุณแผ่นดิน” ตัวการใหญ่ ที่มักแอบอ้างว่า อยู่เบื้องหลัง IO ของกองทัพ เพื่อทำหน้าที่ปกป้องสถาบันฯ และ นายกิตติศักดิ์ เย็นยานนท์ รองประธานกรรมการบริหารบริษัทในเครือเอ็ม กรุ๊ป ยังหลบหนี

เรื่องนี้ นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองหัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“ขอเกริ่นก่อนว่า ที่โพสต์นี่ไม่ได้จะเจาะจงอะไรกับคนในภาพที่กำลังเป็นข่าวฉ้อโกงนะครับ ที่ผมสนใจ คือ Persona คนแบบนี้ คนในรูปแบบนี้จะเข้ากับนักการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ไทยได้ดี

จ่ายถึง จ่ายก่อน ให้ยืม ช่วยเหลือ อาหารมื้อละ 50,000 บาท ไวน์วันเกิด 2 ลัง ค่าตั๋วเครื่องบิน พร้อมที่พักทั้งครอบครัว ใกล้หน่อยก็ฮ่องกง ไม่ก็พาไปดูบอลที่อังกฤษ หลังจากเริ่มได้มาซักโครงการ ผู้ใหญ่นักการเมือง ข้าราชการเหล่านี้ก็จะขอยืมเงิน ล้านบาทบ้าง บางรายไปขนาด 100 ล้าน ขอยืมเงินไปลงทุนก่อน บางรายขอนาฬิกา Panerai ให้ลูก ทำกันเป็นเรื่องปกติ

และที่น่าห่วง และน่าใจหาย คือ ดูที่ปกเสื้อสิครับ คนแบบนี้ ยันนักการเมืองขี้โอ่ แต่ปัญญาขี้เลื่อย มักจะอวดกันว่าติด “เข็มกลัด” รุ่นไหน กี่อัน ใครได้รุ่นพิเศษมาจากใคร โคตรแอบอ้างเจ้า โคตรเกาะกินราชวงศ์ ที่พูดว่าแอบอ้างก็เพราะสิ่งที่พวกคุณหากินอยู่ ราชวงศ์ไม่ได้รู้เรื่อง ทำดีหลอก เจ้าก็ยินดีด้วย แต่เวลาคุณวางแผนโกงโครงการ โกงชาวบ้านอยู่ตามห้อง VIP ร้านอาหารแพงๆ ท่านก็ไม่รู้ด้วย

แต่ที่โคตรเลวนี่คือคนตรงกลาง “ที่รู้” นี่แหละครับ
นักการเมือง ข้าราชการ อธิบดี ตำรวจ ทหาร ที่จับมือเหล่า Lobbyist มาหลอกประชาชน มาหลอกเจ้านี่แหละที่เลวสุด

พวกห่านี่ติดเข็มกลัดแบบนี้เต็มหน้าอกทุกคน
รถต้องรถตู้แพงๆ
ทะเบียนต้องสวย
ต่อด้วยขอสติกเกอร์เข้ารัฐสภามาแปะประดับบารมี
ผมเรียกนักการเมือง ข้าราชการเลวพวกนี้ว่า ไอ้พวกนักฟอกขาวหลอกเจ้าเพื่อเอาเงิน

ผมเล่าวิธีให้ฟัง
กระบวนการการฟอกขาวก็ตั้งแต่พามาแนะนำผู้ใหญ่ในวันเกิด วันเลื่อนตำแหน่ง วันห่าอะไรต่างๆ ที่มันมีกันได้ทุกวัน

ซักพักก็ส่งอาหาร ส่งของกำนัลมาให้
แล้วก็เริ่มนัดทานข้าวส่วนตัว นัดตีกอล์ฟ

อีผู้ใหญ่ไทยแทบทุกระดับ ก็ชอบของฟรี
นาฬิกาฟรี ยันอาหารมื้อละ 50,000 บาท ตั๋วเครื่องบิน เบอร์ดารา พริตตี้แพงๆ มันชอบหมด เพราะมันลืมว่าตายไปก็เอาอะไรไปไม่ได้

จากนั้นก็เริ่มไปโครงการใหญ่ที่อ้างการกุศล
กอล์ฟการกุศล
ทำโน่นนี่เพื่อแผ่นดิน
จัดโต๊ะจีนการกุศล
จนถึงช่วยกันให้ไปเรียนหลักสูตรห่าเหวที่แข่งกันออกมาสอน
เป็นอันฟอกขาวจบ

ปัญหามันอยู่ตรงนี้ ประเทศมันถึงพังกันอยู่แบบนี้
เด็กรุ่นใหม่มันถึงเบื่อ เบื่อจนลามไปถึงราชวงศ์ ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
แทนที่นักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจจะจับมือ “คนเก่งๆ” มาช่วยทำงานให้บ้านเมือง
คน “เหล่านี้” กลับชอบเอาคน “จ่ายเก่ง” มาทำงาน
คือสนแต่ตัวกู เพราะกูขี้ไถ ขี้ชอบของฟรี ไม่ได้สนบ้านเมือง ไม่ได้รักเจ้าอะไรตามที่อ้าง

ภาพ นายประสิทธิ์ เจียวก๊ก จากแฟ้ม
Fake news หรือ ศูนย์ IO “บางศูนย์” ถึงเจ๊งจนปัจจุบันเพราะไม่เอาคนเก่งมาทำงาน แต่เอาคนจ่ายเก่งมาทำงานแทน
ผลงานก็คือประเทศแตกแยก ราชวงศ์ถึงถูกถุยน้ำลายรดฟ้าอยู่ทุกวัน
เพราะข้าราชการชั่วๆ พวกนี้มันเป็นได้แต่กาฝาก ไม่เคยรักเจ้า รักแผ่นดินจริง
เชื่อผมสิ คนพวกนี้เลวกว่าคนที่โดน 112 แบบเทียบกันไม่ติด”

แน่นอน, น่าคิดว่า ถ้ามองปัญหาเพียงมิติเดียว และเชื่อในชุดความคิดด้านเดียว ว่า ถ้าปฏิรูปสถาบันฯแล้ว ทุกอย่างจบ มันจะไม่จบจริง และม็อบ 3 นิ้วกำลังถูกหลอก เพราะอย่าลืมว่า ปัญหานักการเมือง ปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในแวดวงการเมือง ข้าราชการ หรือแม้แต่นักธุรกิจที่แสวงหาผลประโยชน์จากโครงการของรัฐ และโครงการอะไรต่อมิอะไรที่มีผลประโยชน์ ฯลฯ ยังมีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง จึงเป็นเรื่องที่จะต้องแก้ไปพร้อมกัน มิใช่พุ่งเป้าโจมตีไปที่สถาบันฯเพื่อประโยชน์ทางการเมืองของคนบางกลุ่มอย่างที่เป็นอยู่

แล้วภาพสะท้อนของการปลุกปั่น ข่าวลือ ข่าวปลอม ของขบวนการ 3 นิ้ว ที่รับแนวคิดด้านเดียวมาจากสื่อสังคมออนไลน์ ที่มี “ศาสดาล้มเจ้า” หรือ พวกซ้ายตกขอบ คอมมิวนิสต์อกหัก ทั้งที่อยู่ในไทย และลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ ป้อนข้อมูลเท็จ ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับสถาบันเป็นว่าเล่น ก็คือ ปัญหาที่คนบางกลุ่มซึ่งเป็นปฏิปักษ์กับสถาบันฯสร้างขึ้นนั่นเอง จึงไม่แปลกที่พฤติกรรมจาบจ้วงล่วงละเมิด มันออกมาในลักษณะจ้องล้มล้าง มากกว่าต้องการปฏิรูปสถาบัน เพื่อให้อยู่ร่วมกับประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อย่างที่กล่าวอ้าง

คิดให้ดีว่าอะไรกันแน่ที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน และประชาชนคนไทยทั้งประเทศเห็นด้วย และพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ระหว่างนักการเมืองเลวที่ชอบแอบอ้างสถาบันฯ และทุจริตคอร์รัปชัน กับ แนวคิด “ปฏิรูปสถาบันฯ” ที่คนไทยยังมีความเห็นต่าง และที่สำคัญคนส่วนใหญ่ของประเทศ ยังมีความจงรักภักดี และพร้อมปกป้องด้วยชีวิต ยากหรือไม่ วิญญูชนย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ถ้าไม่คิดแต่เล่นเกมการเมือง หรือไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น