วิป 4 ฝ่าย เคาะสภาฯเปิดประชุมเริ่ม 27 พ.ค.นี้ ส่วน ถกงบปี 65 ระหว่าง 31 พ.ค. - 2 มิ.ย. “วิรัช” เผย ส.ส.ฉีดวัคิซีนแล้วเกินครึ่ง พร้อมมาตรการคุมเข้ม พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ ด้าน “สุทิน” ย้ำ ฝ่ายค้านอยากประชุมเหตุ กม.สำคัญหลายฉบับรออยู่ มั่นใจสภาฯคุมดี เดินหน้าประชุมได้
วันนี้ (14 พ.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) แถลงผลการประชุมวิป 4 ฝ่าย ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ว่า สภาฯจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 22 พ.ค.นี้ โดยกำหนดวันที่ 27-28 พ.ค. จะเป็นการประชุมในส่วนของพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ต่างๆ ที่รัฐบาลออกไว้แล้ว จากนั้น จะเป็นการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ระหว่างวันที่ 31 พ.ค.- 2 มิ.ย.นี้ ซึ่งที่ประชุมวิป 4 ฝ่าย พูดคุยกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดในขณะนี้ จึงมีการทักท้วงว่าควรหยุดรอก่อนหรือไม่ เบื้องต้น มีรายงานว่า ส.ส.จำนวน 235 คน ฉีดวัคซีนแล้ว ยังไม่รวมที่ ส.ส.ที่ฉีดแล้วในพื้นที่ต่างจังหวัด และคาดว่า จะมีสมาชิกฉีดเพิ่มเติมอีก ส่วนเจ้าหน้าที่สภาฯทราบว่า ฉีดวัคซีนแล้ว 200-300 คน และจะมีฉีดเพิ่มเติมเช่นกัน จึงคาดการณ์ว่า หากเปิดประชุมจะมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น แต่หากสถานการณ์แย่กว่านี้จะพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้กำหนดไว้แบบนี้ก่อน
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า สมาชิกส่วนใหญ่โดยเฉพาะฝ่านค้านอยากประชุม เพราะวาระที่ต้องประขุมสำคัญมาก เช่น ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ หากพิจารณาล่าช้าจะเกิดผลเสีย พ.ร.ก.ก็เป็นเรื่องสำคัญ อีกทั้งการประชุมร่วมรัฐสภา ก็มีร่าง พ.ร.บ.ประชามติ และร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ต้องพิจารณา แต่หลายคนก็กังวลเรื่องสถานการณ์โควิด-19 เพราะยังเป็นช่วงขาขึ้นอยู่ แต่หลังจากฟังการชี้แจงของสภาฯถึงมาตรการป้องกันอย่างละเอียด เราก็เกิดความเชื่อมั่นว่าจะเดินหน้าประชุมได้ แต่ก็จะมีการประเมินเป็นระยะ ถ้าเกิดความเสี่ยงก็ต้องดู เพื่อไม่ให้เกิดอภิมหาคลัสเตอร์ ซึ่งเราก็กังวลเรื่องนี้ จึงต้องประเมินเป็นระยะแและพร้อมปรับเปลี่ยน ทั้งนี้ แม้จะกลัวโควิดแต่เราจะทำหน้าที่ไม่ให้บกพร่อง เว้นแต่เกิดสถานการณ์ที่จำเป็น โดยงบประมาณแผ่นดินจะทำให้เสร็จตามกำหนดระยะเวลาให้ได้
