สทนช.จี้ มหาดไทย อัปเดต ใช้ “งบกลาง” 2.3 หมื่นล้าน โปรเจกต์น้ำท่วมน้ำแล้ง ปี 63 หลังพบ กว่า 5,650 รายการ ยังไม่แล้วเสร็จ แถมมีโครงการจาก 66 จังหวัด ดำเนินการเสร็จสิ้นเพียง 19 จังหวัด พบโครงการส่วนใหญ่ ที่ยังไม่แล้วเสร็จอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วันนี้ (7 พ.ค. 64) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ข้อให้แจ้งผู้ว่าราชการจังหวัด 66 จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ กทม. เพื่อเร่งรัดดำเนินการโครงการที่ได้รับงบประมาณ งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ให้แล้วเสร็จในเดือน พ.ค.นี้
ทั้งนี้ เป็นงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมทั่วประเทศ ตามมติ ครม.13 ส.ค. 63 ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 5,186 รายการ และ ตามมติ ครม. 15 ก.ย. 63 ที่ยังไม่แล้วเสร็จ จำนวน 464 รายการ อย่างไรก็ตาม พบว่า มีโครงการที่ดำเนินการเสร็จแล้วในพื้นที่ 19 จังหวัดเท่านั้น
“ล่าสุด ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด 66 จังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ กทม. ตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินการและกำหนดวันที่ของโครงการที่จะแล้วเสร็จ และให้ระบุถึงสาเหตุความล่าช้าของโครงการ ขณะเดียวกันให้จังหวัดที่มีปัญหาความล่าช้าดำเนินการขอขยายเวลาเบิกจ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2563”
สำหรับจังหวัด ที่ดำเนินโครงการแล้วเสร็จ ประกอบด้วย ฉะเชิงเทรา นนทบุรี พังงา ระนอง ระยอง สระแก้ว กำแพงเพชร บุรีรัมย์ ปทุมธานี สุโขทัย นครศรีธรรมราช ปัตตานี และพระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ จ.กระบี่ จ.ชุมพร และ จ.สระแก้ว ได้รับงบประมาณ ทั้ง 2 ส่วน ดำเนินการเสร็จแล้วเช่นกัน
สำหรับงบประมาณ “งบกลาง” 2 ก้อนนี้ ที่ ครม. เห็นชอบไป 6 ครั้ง มีจังหวัดและหน่วยงานที่ได้รับจัดสรร งบกลาง ดังกล่าว วงเงินรวม 23,286 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม จำนวน 23,264.36 โครงการ ดําเนินการแล้วเสร็จ 11,386 โครงการ ร้อยละ 53.14
ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกฉียงเหนือ ในกำกับของ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น 2,240 โครงการ / กรมชลประทาน 46 โครงการ / กรมทรัพยากรน้ำ 115 โครงการ / กรมเจ้าท่า 3 โครงการ / กรมโยธาธิการและผังเมือง 1 โครงการ / กรุงเทพมหานคร 1 โครงการ / กระทรวงมหาดไทย 7,058 โครงการ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 577 โครงการ) และยกเลิก 1,839 โครงการ
สทนช.คาดว่า โครงการจะแล้วเสร็จทั้งหมดเดือนเมษายน 2564 เมื่อดําเนินการแล้วเสร็จจะมีผลสัมฤทธิ์ เช่น ปริมาณน้ำดิบผลิตประปา 61.86 ล้าน ลบ.ม. จํานวนผู้ใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น 577,221 ราย ปริมาณน้ำเก็บกักเพิ่มขึ้น 1,057.32 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำบาดาล 47.32 ล้าน ลบ.ม.
พื้นที่รับประโยชน์ 7.58 ล้านไร่ ครัวเรือนรับประโยชน์ 3.53 ล้านครัวเรือน พื้นที่ได้รับการป้องกัน 2.23 ล้านไร่ ปริมาณวัชพืช 7.83 ล้านตัน และจ้างแรงงาน 236,438 ราย
สำหรับการใช้งบกลาง รายการเงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของกระทรวงมหาดไทย วงเงินกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท เคยถูกฝ่ายค้านนำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
