xs
xsm
sm
md
lg

กต.ห่วงทัวร์พาฉีดวัคซีนโควิด-19 สหรัฐฯ อาศัยช่องว่าง อาจถูกปฏิเสธเข้าเมือง แบกรับความเสี่ยงเอง เตือนดูข้อมูลก่อนซื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แจงข้อเท็จจริง ตามที่มีข่าวกรณีบริษัททัวร์เชิญชวนคนไทยจองทัวร์เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ชี้ อาศัยช่องว่าง อาจมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินโดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รวมทั้งอาจถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าสหรัฐโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ

วันนี้ (5 พ.ค.) นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่มีข่าวกรณีบริษัททัวร์เชิญชวนคนไทยจองทัวร์เดินทางไปสหรัฐอเมริกาเพื่อฉีดวัคซีนต้านโรคโควิด-19 ว่า ปัจจุบันประชากรที่อาศัยอยู่หรือเดินทางเข้ามายังสหรัฐฯอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีอายุ 16 ปีขึ้นไป สามารถขอรับการฉีดวัคซีนได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และไม่มีค่าใช้จ่ายยกเว้นค่าดำเนินการบางรายการ อย่างไรก็ดี แต่ละรัฐอาจมีกฎเกณฑ์ ข้อกำหนด และขั้นตอนในการแจกจ่ายวัคซีนที่แตกต่างกัน อาทิ ต้องเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่/อาศัยอยู่หรือทำงานอยู่ในรัฐนั้นๆ แต่ในบางรัฐ นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถนำหนังสือเดินทางมาแสดงเพื่อขอรับการฉีดวัคซีนได้

“กรณีที่ปรากฏข่าวว่า ผู้ที่เดินทางจากละตินอเมริกามายังสหรัฐฯเพื่อฉีดวัคซีน จึงเป็นไปได้ว่าบริษัทนำเที่ยวบางแห่งในประเทศไทยอาจเห็นโอกาสจากช่องว่างดังกล่าวเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้ที่ประสงค์จะได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วให้เดินทางไปยังสหรัฐฯ โดยเฉพาะในรัฐซึ่งขณะนี้ยังไม่มีข้อกำหนดห้ามผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐเป็นการชั่วคราวรับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19” นายธานี กล่าว

นายธานี กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดี ปัจจุบันเริ่มมีผู้บริหารและหน่วยงานของหลายรัฐได้ออกมาตรการเพื่อป้องกันการจัดการท่องเที่ยวเพื่อฉีดวัคซีน (vaccine tourism) อาทิ ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา และหน่วยงานด้านสาธารณสุขรัฐแอละบามา ได้ให้สัมภาษณ์สื่อว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะจัดให้แก่ผู้ที่มีถิ่นพำนักในรัฐเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแต่ละรัฐสามารถปรับเปลี่ยนมาตรการการแจกจ่ายวัคซีนตามที่เห็นเหมาะสมได้โดยรวดเร็ว

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ของไทยในสหรัฐฯ ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการถูกปฏิเสธให้เข้าสหรัฐฯของคนไทยอยู่เป็นระยะ แม้ว่าจะได้รับการตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยวมาแล้วก็ตาม โดยเมื่อถูกปฏิเสธการเข้าเมืองก็จำเป็นต้องดำเนินการและเสียค่าใช้จ่ายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ อาทิ ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก ASQ อีกทั้งต้องขอรับ COE จาก สอท. และ สกญ. ซึ่งหลายครั้งอาจทำให้ต้องติดค้างอยู่ที่สนามบินเป็นเวลานาน ดังนั้น ผู้เข้าร่วมโปรแกรมเดินทางมาท่องเที่ยวและรับการฉีดวัคซีนดังกล่าวอาจมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินโดยไม่ได้รับการฉีดวัคซีน รวมทั้งอาจถูกปฏิเสธการเดินทางเข้าสหรัฐโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ

นายธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในสหรัฐฯได้รับอนุมัติการใช้งานแบบฉุกเฉินเท่านั้น ดังนั้น หากผู้ที่ได้รับวัคซีนมีอาการข้างเคียง หรือการแพ้รุนแรง ทางบริษัทผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบใดๆ และหากผู้เดินทางไม่มีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมอาจต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่มีราคาสูง

กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอให้ประชาชนที่ประสงค์จะซื้อรายการท่องเที่ยวไปต่างประเทศเพื่อการฉีดวัคซีน ติดต่อสอบถามเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนตัดสินใจ โดยสามารถสอบถามได้ตามช่องทางต่อไปนี้

ในประเทศไทย
– กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ hotline 02-572-8442 และ app “Thai Consular”

ในสหรัฐอเมริกา
– สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน
+1 202-684-8493
(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-12.30 น. และเวลา 14.00-17.00 น. – ยกเว้นวันหยุดราชการ)
– สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแองเจลิส
+1 323-962-9574
(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-16.00 น. – ยกเว้นวันหยุดราชการ)

– สถานกงสุลใหญ่ ณ นครชิคาโก
+1 312-664-3129
(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-12.00 น. และเวลา 13.00-17.00 น. – ยกเว้นวันหยุดราชการ)
– สถานกงสุลใหญ่ ณ นครนิวยอร์ก
+1 212-754-1770 ต่อ 304,311,313
(เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-12.00 น. และเวลา 13.00-15.30 น. – ยกเว้นวันหยุดราชการ)


กำลังโหลดความคิดเห็น