โควิดวันนี้ ระบาดที่คลับ แต่คนซวยคือร้านข้าว “เชฟดัง” ถามจะเอาอะไรกิน ** ปล่อยข่าว “เพนกวิน” อาการหนัก ถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**โควิดวันนี้ ระบาดที่คลับ แต่คนซวยคือร้านข้าว “เชฟดัง” ถามจะเอาอะไรกิน เจอไม่ให้นั่งกินเท่ากับ 90% ต้องปิด รัฐมีแผนชดเชยหรือไม่ มาตรการเพื่อจัดการกับโควิดระลอกใหม่นี้ มาถึงจุดที่เข้มข้นขึ้นอีกครั้ง “ไม่ล็อกดาวน์” แต่อาการก็คล้ายล็อกดาวน์ปริยาย

โดย ศบค.มีมติ ปรับพื้นที่โซนสีใหม่ ประกาศให้ 6 จังหวัด เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด 6 จังหวัด (สีแดงเข้ม) ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี นนทบุรี เชียงใหม่ สมุทรปราการ และปทุมธานี

มาตรการมีทั้งขอให้ทำงานที่บ้าน 14 วัน ต้องใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัย ห้ามจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มมากกว่า 20 คน ปิดสนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดได้ถึง 3 ทุ่ม ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เกต ตลาดนัดกลางคืน ตลาดโตรุ่ง เปิดได้ถึง 5 ทุ่ม และขอความร่วมมือ “งดการเดินทาง” ออกนอกพื้นที่
 
หนักที่สุดเห็นจะเป็นร้านอาหาร งดกินในร้านให้ซื้อกลับบ้านได้จนถึง 3 ทุ่ม จะมีผลตั้งแต่ วันที่ 1 พ.ค. และมีกำหนดจะทบทวนอีกครั้งเมื่อครบ 14 วัน

อย่างนี้ที่บอกไม่ล็อกดาวน์ ก็เหมือนล็อกดาวน์!!


“เชฟต้น” ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร เชฟชื่อดังของไทย เจ้าของร้านอาหารฤดู ที่ได้รับรางวัลมิชลินสตาร์ 1 ดาว ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก
 
“ขอวอนรัฐ ได้โปรดอย่าทำอะไรเพราะต้องทำ ต้องมีผลงาน สิ่งที่กำลังตัดสินใจกันคือชีวิตของพวกผม พนักงานที่อยู่ในธุรกิจร้านอาหารอีกเท่าไหร่ ไม่นั่งทานที่ร้าน คือ มากกว่า 90% ต้องปิด ไม่มีเงินจ่ายให้พนักงาน เขาเหล่านี้จะทำอย่างไร เวิร์กฟรอมโฮม ไม่ได้เหมือนคนอื่นจะบอกให้ดีลิเวอรีแทน นี่คือคนที่ไม่เข้าใจธุรกิจร้านอาหาร ซี้ซั้วพูดนะครับ...
 
ไม่ใช่ทุกร้านจะทำ Deliveryได้ ! อันนี้ผมย้ำหลายรอบ มีน้อยมากที่ทำได้แล้วรอด!! ย้ำ ทำแล้วรอด! ถ้ารัฐมีแผนชดเชยที่ดีเอาให้พวกเราดูได้มั้ยครับ ไม่งั้นครั้งนี้อีกกี่ร้านที่ต้องปิดไป ตอนนี้เพื่อนๆ กันปิดแทบจะไม่เหลือแล้ว จะเอาให้สูญพันธุ์กันหรืออย่างไร? ตอนนี้ก็แทบจะไม่มีใครมาร้านอาหารและโรงแรมเหมือนที่หอการค้าบอกแล้วครับ ร้านผมมีจอง 3 คน พรุ่งนี้ 0 คน ยังจะเอาอะไรกับพวกเราอีก? ขอแค่มีเศษๆ เงินมาให้ผมหมุน จ่ายลูกน้อง แค่นี้ผมขอมากไปหรือเปล่า? ท่านๆ ช่วยตอบผมที พวกผมจะเอาอะไรกิน?”
 
งานนี้ฟังแล้วก็หดหู่ไปตามๆ กัน เพราะโควิดรอบนี้เริ่มที่ “เลานจ์” ที่ “คลับ” ความหละหลวมไร้สำนึกรับผิดชอบของฝ่ายปกครองและรัฐ สุดท้ายคนที่ซวยกลับเป็นธุรกิจร้านอาหาร ที่ทำมาหากินดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด ร้านที่รอดจากรอบก่อนๆ เพิ่งจะโงหัวได้เปิดร้านขายอาหารและเครื่องดื่มกันมาไม่นาน กลับมาโดนซ้ำอีก ก็ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดต่อไปกันสักเท่าไร
 
โดนคราวนี้รัฐบาลลุง ต้องได้คิดสักทีแล้วว่าจะเยียวยากลุ่มนี้อย่างไร



** ปล่อยข่าว “เพนกวิน” อาการหนัก ถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ พร้อมยกขบวนไปกดดันศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว สุดท้ายวืดเหมือนเดิม !!


กรณี “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ ตกเป็นจำเลยในคดี ม.112 ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดี ทางบรรดาแกนนำ และผู้เกี่ยวข้องได้พยายามขอยื่นประกันตัวหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ไม่ว่าจะใช้วิธีเพิ่มหลักทรัพย์ค้ำประกัน ยกเหตุผลเรื่องการเรียนที่จะต้องไปสอบ รวมทั้งเรื่องปัญหาสุขภาพ ตามด้วยการอดอาหารประท้วง แต่ศาลก็ไม่ให้ประกันตัวเนื่องจากมีพฤติกรรมทำผิดซ้ำซาก
 
ล่าสุด หลังจากอดอาหารมาเดือนกว่า วานนี้ (29 เม.ย.) “แม่เพนกวิน” สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ ก็ได้ยื่นขอประกันตัวลูกชายอีกครั้ง โดยอ้างว่าได้ข่าวจากทนายความ ขณะนี้ลูกชายมีอาการอ่อนเพลียมาก ผิวหนังแห้ง มีอาการวูบตลอดเวลา และยังถ่ายออกมาเป็นชิ้นเนื้อ จึงต้องรีบมายื่นขอประกันตัว หากครั้งนี้ศาลยังไม่อนุญาตก็เท่ากับเจตนาให้ “เพนกวิน” เสียชีวิตอย่างทรมาน เพราะการต้องอยู่ในเรือนจำก็มีสภาพที่สาหัสมากพอแล้ว ไหนยังจะต้องเสี่ยงกับโรคภัยอีก
 
แต่อาการของ “เพนกวิน” ตามที่แม่ยกมาอ้างนั้น ก็ได้รับการชี้แจงอย่างละเอียดจาก “ธวัชชัย ชัยวัฒน์” รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ พยาบาลได้ติดตามดูแลตรวจร่างกาย “เพนกวิน” ทุกวัน เจ้าตัวยังรู้สึกตัวดี พูดคุยรู้เรื่อง แม้จะมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อย ริมฝีปากแห้ง แต่ไม่มีอาการวูบ ยังลุกเดิน และทำกิจวัตรประจำวันได้


ถึงจะปฏิเสธการรับประทานอาหาร แต่ทางเรือนจำก็มีน้ำเกลือแร่ให้ดื่ม และให้สารน้ำทางเลือดดำ 5% D/N/2 1,000 ml rate 80 ml./hr. สัญญาณชีพโดยทั่วไปอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่มีไข้ ไม่เจ็บคอ อุณหภูมิร่างกาย 36.2 องศาเซลเซียส อัตราเต้นของหัวใจ 60 ครั้ง/นาที อัตราการหายใจ 20 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 115/69 mmHg น้ำหนัก 95.4 กก. วัดระดับออกซิเจนปลายนิ้วได้ 99%
 
ยืนยันว่า “เพนกวิน” ไม่ทรุดหนักตามกระแสข่าว ถ้ามีอาการอ่อนเพลียรุนแรง หรือมีภาวะไม่พึงประสงค์ ก็พร้อมส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ ตลอด 24 ชม.
 
นอกจากปล่อยข่าว “เพนกวิน” อาการหนักแล้ว แกนนำ “ม็อบสามนิ้ว” ยังได้นัดมวลชนไปชุมนุมที่หน้าบันไดศาลอาญา ปราศรัยโจมตี โห่ร้อง ให้ปล่อยตัวแกนนำม็อบทั้ง 7 คน ที่ทางทนายความได้ยื่นประกันตัวไปพร้อมกัน ประกอบด้วย อานนท์ นําภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์, ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะ บอททอมบลูส์, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, ชูเกียรติ แสงวงศ์ หรือ จัสติน และปริญญา ชีวินกุลปฐม
 
แม้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะประกาศขอให้อยู่ในความสงบ และเลิกชุมนุม เพราะเป็นการฝ่าฝืนประกาศ กทม.ในสถานการณ์โควิดระบาด ห้ามทำกิจกรรมเกิน 20 คน และละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ แต่ก็ไม่เป็นผล กลุ่มมวลชนยังคงตะโกน “ปล่อยเพื่อนเรา” ... “เพื่อนเรากำลังจะตาย”...และพยายามฝ่าแผงเหล็กแนวกั้นที่หน้าศาล จนเหตุการณ์ชุลมุน


ขณะเดียวกัน ทวิตเตอร์ iLawFX @iLawFX รายงาน อ้างคำประกาศของ “เบนจา อะปัญ” แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ว่า ศาลเลื่อนการอ่านคำสั่งไปเป็นวันพรุ่งนี้ทางออนไลน์ แต่ประชาชนยืนยัน จะไม่ออกจากพื้นที่ศาล โดยจะปักหลักพักค้างจนกว่าจะปล่อยเพื่อนเรา
 
กระทั่งเวลา 18.00 น. ศาลได้อ่านคำสั่งขอปล่อยชั่วคราว 7 แกนนำกลุ่มสามนิ้วให้ทนายความฟังว่า ศาลมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยทั้ง 7 คน เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้ทั้งศาลชั้นต้น และศาลอุทธรณ์ มีคำสั่งไม่ปล่อยชั่วคราวจำเลย โดยแสดงเหตุผลไว้อย่างชัดแจ้งแล้ว จึงไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
 
หลังทราบคำสั่ง บรรดากลุ่มผู้ชุมนุมที่หน้าศาลต่างแสดงความไม่พอใจ ตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย รุนแรง จนกระทั่ง “แม่เพนกวิน” ได้เข้ามาขอให้ยุติการชุมนุมเก็บพลังไว้ต่อสู้วันข้างหน้า ทำให้มวลชนค่อยทยอยออกไปจากหน้าศาล
 
ขณะที่ “กฤษฎางค์ นุตจรัส” ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน บอกว่า การยื่นประกันจำเลยทั้ง 7 คนครั้งนี้ ได้เสนอเงื่อนไขเหมือนกับ 3 คน ที่ได้ประกันก่อนหน้านี้ คือ หมอลำแบงค์, ไผ่ ดาวดิน และ สมยศ พฤกษาเกษมสุข แต่ทำไมศาลไม่ให้ประกัน


เช่นเดียวกับ “แม่เพนกวิน” ที่คราวนี้ฟูมฟายว่าลูกยอมรับเงื่อนไขแล้ว ยอมลดแล้ว ยอมประนีประนอมแล้ว เหตุใดศาลจึงไม่ยอมประนีประนอมกับเรา อยากให้ท่านอธิบาย ไม่ใช่บอกแต่เพียงว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
อย่างไรก็ตาม มีหลายความเห็นในโซเชียลฯ ที่บอกว่า ก่อนหน้านี้ไม่เห็นแม่เพนกวิน หรือทนายความ บอกว่าได้เสนอเงื่อนไขจะไม่ออกมาเคลื่อนไหว ไม่กระทำผิดซ้ำ... แถมยังพามวลชนมาชุมนุมกดดันศาล จนเกิดความชุลมุนวุ่นวาย ไม่ใส่ใจมาตรการป้องกันโควิดที่กำลังแพร่ระบาด แต่พอศาลไม่ให้ประกันค่อยออกมาบอกว่ายอมแล้ว ยอมประนีประนอมแล้ว
 
สิ่งที่พูดกับพฤติกรรมที่แสดงออกมันขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง!!